องค์กรพันธมิตรต่อต้านการฉ้อโกงโลก (Global Anti-Scam Alliance - GASA) เปิดเผยว่าการหลอกลวงทางออนไลน์และโทรคมนาคมกำลังแพร่ระบาดมากขึ้นทั่วโลก ผลสำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 58,329 คนในปี 2024 พบว่า เกือบครึ่งหนึ่งของประชากรโลกต้องเผชิญกับกลโกงอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
จีนเป็นอีกหนึ่งประเทศที่พยายามยกระดับกฎหมาย ปราบปรามแก๊งมิจฉาชีพออนไลน์และโทรคมนาคม โดยเมื่อปี 2024 มูลค่าความเสียหายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในจีนอยู่ที่ 1,578 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 53,109 ล้านบาทเลยทีเดียว
รัฐบาลจีนพยายามปราบปรามมิจฉาชีพเหล่านี้มาโดยตลอด และเพิ่มบทลงโทษอย่างต่อเนื่อง แต่ขณะเดียวกัน เมื่อทางการจีนเพิ่มความเข้มข้นของการปราบปราม เราก็พบเห็นจีนเทาแห่ไปต่างประเทศเพื่อขยายอิทธิพลแทน
เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2022 จีนได้ผ่าน กฎหมายต่อต้านการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมและออนไลน์ (Anti-Telecom and Online Fraud Law) ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2022 โดยกฎหมายดังกล่าวถูกประกาศใช้เพื่อต่อสู้กับอาชญากรรมทางโทรคมนาคมและออนไลน์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งในประเทศจีนและทั่วโลก
ก่อนหน้านั้นในปี 2021 ตำรวจจีนสามารถจัดการคดีฉ้อโกงได้มากถึง 441,000 คดี และจับกุมผู้ต้องสงสัยกว่า 690,000 ราย พร้อมทั้งสามารถส่งคืนเงินกว่า 12,000 ล้านหยวน (ประมาณ 55,429 ล้านบาท) ให้กับเหยื่อทั่วประเทศ และในปี 2024 มูลค่าความเสียหายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในจีนอยู่ที่ 1,578 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 53,109 ล้านบาท
และเพื่อรับมือกับภัยที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2024 กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ และธนาคารแห่งประเทศจีน รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ร่วมกันวางกรอบการเฝ้าระวัง ร่วมมือ จำกัด และลงโทษผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย ผ่าน “มาตรการลงโทษร่วมสำหรับความผิดฉ้อโกงทางโทรคมนาคมและอาชญากรรมที่เกี่ยวข้อง” โดยกำหนดบทลงโทษที่หลากหลายและครอบคลุม ตั้งแต่มาตรการลงโทษทางการเงิน ที่หน่วยงานอย่างธนาคารต้องเข้ามาร่วมรับผิดชอบ มาตรการลงโทษทางโทรคมนาคม ซึ่งเครือข่ายโทรศัพท์มือถือต้องให้ความร่วมมือ และมาตรการลงโทษทางเครดิต รวมไปถึงบทลงโทษตัวผู้กระทำความผิดโดยตรง ตั้งแต่ปรับ ยึดทรัพย์ ไปจนถึงจำคุก แต่ความรุนแรงของบทลงโทษขึ้นอยู่กับประเภทและขอบเขตของอาชญากรรมที่ก่อ และถ้าหากเป็นการกระทำความผิดซ้ำ บทลงโทษก็จะรุนแรงขึ้น
· จำกัดช่องทางถอนเงินของบัญชีธนาคาร
· ระงับบัญชีชำระเงิน: อาจถูกระงับบริการบัญชีชำระเงิน หรือไม่สามารถเปิดบัญชีใหม่ได้
· กระเป๋าเงินดิจิทัลหยวน (E-CNY): อาจถูกจำกัดการใช้งาน หรือไม่สามารถเปิดใหม่ได้
· ซิมการ์ดและโทรศัพท์: ถูกจำกัดการใช้ซิมการ์ด, โทรศัพท์บ้าน และบริการ SMS
· บัญชีอินเทอร์เน็ต:ถูกจำกัดการเข้าถึงบัญชี
· ขึ้นบัญชีดำ: ขึ้นบัญชี “บุคคลที่มีพฤติกรรมไม่ซื่อสัตย์ร้ายแรง” และถูกบันทึกในฐานข้อมูลเครดิตทางการเงินแห่งชาติ
· เผยแพร่ข้อมูลผู้กระทำผิด : บนแพลตฟอร์มข้อมูลเครดิตแห่งชาติ และเว็บไซต์ Credit China
· จำคุก: ผู้กระทำผิดจะถูกตัดสินจำคุกตามระยะเวลาที่กำหนด
· ยึดทรัพย์: รัฐทำการยึดทรัพย์สินของผู้กระทำผิด
· ปรับเงิน: รับโทษปรับเป็นจำนวนเงินตามที่กำหนด