อิสราเอลได้ถอนกองกำลังทหารออกจากเขตเนตซาริม ซึ่งเป็นเส้นทางที่แยกฉนวนกาซาตอนเหนือออกจากทางใต้ ตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาสในระยะแรก สอดคล้องกับการรายงานของกลุ่มฮามาสที่ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า อิสราเอลถอนกองทัพออกจากพื้นที่อย่างสมบรูณ์แล้ว และนับเป็นชัยชนะตามเจตจำนงประชาชนของกลุ่ม อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเปิดเผยว่าอิสราเอลถอนทหารไปจำนวนเท่าไหร่ และจากพื้นที่ใดบ้าง ซึ่งตอนนี้ยังคงมีทหารอิสราเอลประจำการบริเวณชายแดนที่ติดกับกาซาและอียิปต์
การถอนทหารดังกล่าว ทำให้ผู้อพยพชาวปาเลสไตน์ที่เคยหนีความรุนแรง เริ่มเดินทางกลับไปยังพื้นที่ ท่ามกลางความเสียหายของอาคารและบ้านเรือน โดยบางคนเดินทางด้วยรถยนต์ หรือแม้แต่เดินเท้าพร้อมรถเข็นบรรทุกสัมภาระ กระทรวงสาธารณสุขของกลุ่มฮามาสในกาซาระบุว่า ชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 48,189 คนเสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอล และตามข้อมูลของสหประชาชาติพบว่า อาคารในกาซาประมาณ 2 ใน 3 ได้รับความเสียหายหรือถูกทำลาย
จนถึงขณะนี้ ตัวประกันชาวอิสราเอล 16 ราย และนักโทษชาวปาเลสไตน์ 566 รายได้รับอิสรภาพแล้ว เมื่อสิ้นสุดการหยุดยิงระยะแรกในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า คาดว่าจะมีตัวประกัน 33 รายและนักโทษ 1,900 รายได้รับอิสรภาพ ทั้งนี้ อิสราเอลระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 8 รายจากทั้งหมด 33 ราย
ตัวประกันชาวไทย 5 คนที่ได้รับการปล่อยตัวจากลุ่มฮามาส เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทยแล้วเมื่อวานนี้ ด้วยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK 374 โดยมีพ่อแม่ ญาติพี่น้อง และครอบครัวของแรงงานมารอต้อนรับกลับบ้านด้วยความอบอุ่น รวมถึงนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารกระทรวงแรงงาน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ให้การต้อนรับ
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ได้กล่าวแสดงความยินดีกับตัวประกันไทยทั้ง 5 คนและครอบครั้ว พร้อมให้คำมั่นว่า แรงงานไทยทั้งห้า จะได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย เช่น เงินสงเคราะห์กรณีเดินทางกลับประเทศจากภัยสงคราม จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ และเงินชดเชยจากสถาบันประกันภัยอิสราเอล เป็นต้น
ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาล กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ต่างใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อเร่งหาทางช่วยเหลือแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน และทุกคนมีความเป็นห่วง จนนำมาสู่วันนี้ที่แรงงานไทยได้รับการช่วยเหลือกลับมาอย่างปลอยภัย กระทรวงแรงงานเชื่อมั่นว่า แรงงานไทยที่เหลืออีก 1 ราย จะได้รับการช่วยเหลือกลับมาในเร็ววัน
ทั้งนี้ 5 ตัวประกันที่เดินทางกลับถึงไทยแล้ว ได้แก่ นายวัชระ ศรีอ้วน จ.อุดรธานี นายพงษ์ศักดิ์ แทนนา จ.บุรีรัมย์ นายเสถียร สุวรรณคำ จ.หนองบัวลำภู นายสุระศักดิ์ ลำเนา จ.อุดรธานี และนายบรรณวัชร แซ่ท้าว จ.น่าน