เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (18 กุมภาพันธ์ 2025) รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศใช้กฎหมายบริการรักษาความปลอดภัยเอกชน ซึ่งเปิดทางให้บริษัทรักษาความปลอดภัยของจีนสามารถเข้ามาประจำการในเมียนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของจีนในประเทศ โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวข้องกับ ความริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative - BRI)
กฎหมายฉบับนี้ถูกประกาศใช้หลังจากที่รัฐบาลทหารเมียนมาจัดตั้งคณะทำงานพิเศษ เพื่อลงนามในบันทึกความเข้าใจ โดยมีเป้าหมายก่อตั้งบริษัทรักษาความปลอดภัยร่วมทุนระหว่างทั้งสองประเทศ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ปีที่แล้ว
แม้ว่ากฎหมายฉบับใหม่จะเปิดทางให้บริษัทต่างชาติสามารถยื่นขอใบอนุญาตดำเนินธุรกิจด้านความปลอดภัยในเมียนมาได้ แต่หลายฝ่ายมองว่ากฎหมายนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับจีนโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่ชาติที่ยังเป็นพันธมิตรของรัฐบาลทหารเมียนมา
รัฐบาลจีนกดดันรัฐบาลทหารเมียนมามาโดยตลอดให้คุ้มครองโครงการและธุรกิจของจีน รวมถึงความปลอดภัยของพนักงานชาวจีนในเมียนมา นอกจากนี้ จีนเองยังเป็นฝ่ายเสนอแนวคิดจัดตั้งบริษัทด้านความปลอดภัยร่วมทุนเพื่อดูแลผลประโยชน์ของตน
ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลทหารเมียนมาสูญเสียการควบคุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ตั้งแต่พื้นที่ชายแดนจีนทางตอนเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของเมียนมา ไปจนถึงรัฐยะไข่ทางตะวันตก ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการสำคัญหลายแห่งที่เกี่ยวข้องกับความริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน
ผู้สังเกตการณ์มองว่า เมื่อหลายโครงการอยู่ในพื้นที่ที่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์และกลุ่มปฏิวัติ ทำให้จีนตัดสินใจส่งบริษัทรักษาความปลอดภัยของตนเองเข้ามาในเมียนมาเพื่อดูแลสถานการณ์ด้วยตนเอง
สาระสำคัญของกฎหมาย คือการที่เปิดทางให้บริษัทรักษาความปลอดภัยของจีนเข้ามาตั้งสำนักงานอย่างเป็นทางการในเมียนมา ขณะที่โครงการของจีนต่างๆกำลังกระจายอยู่ทั่วเมียนมา โดยบริษัทเหล่านั้นสามารถให้บริการด้านความปลอดภัยแก่ องค์กร โครงการ และบริษัทจีน รวมถึงงานสาธารณะที่เกี่ยวข้องกับพลเมืองจีนและอุปกรณ์ของจีนได้
นอกจากนี้ บริษัทเหล่านี้ยังมีอำนาจจับกุมผู้กระทำความผิดในพื้นที่ที่ให้บริการ หากเกิดอาชญากรรมในพื้นที่ที่มีการให้บริการรักษาความปลอดภัย บริษัทเหล่านี้มีอำนาจจับกุมผู้ต้องสงสัยและส่งตัวให้สถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุด ตามความเห็นของผู้สังเกตการณ์มองว่า อาจมีการควบคุมไม่ให้เกิดการประท้วงหน้าสถานทูตจีน การทำลายทรัพย์สินโรงงานจีน หรือกิจกรรมที่อาจรบกวนโครงการจีน
กฎหมายยังอนุญาตให้บริษัทรักษาความปลอดภัยต่างชาติสามารถพกอาวุธได้ หากได้รับการอนุมัติจาก สภากลาโหมและความมั่นคงแห่งชาติ นอกจากนี้ ยังกำหนดว่า พนักงานอย่างน้อย 75% ต้องเป็นชาวเมียนมา และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องไม่เป็นสมาชิกของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ
อย่างไรก็ตาม กฎหมายยังกำหนดให้บริษัทรักษาความปลอดภัยต้องให้ความช่วยเหลือรัฐบาลทหารในการปฏิบัติการด้านความมั่นคงและบังคับใช้กฎหมาย ร่วมมือกับกองกำลังฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาล และต้องรายงานข้อมูลเกี่ยวกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นต่อรัฐบาลทหารโดยไม่มีข้อยกเว้น