“หางโจว” บ้านเกิด DeepSeek ผงาดยืนหนึ่งนครเทคฯ แห่งใหม่ของจีน
การเปิดตัวของ DeepSeek ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา สร้างเสียงฮือฮาในวงการนวัตกรรมและเทคโนโลยีทั่วโลก ในฐานะ Agentic AI ที่ต่อยอดจาก AI ระบบอื่น ๆ ทำให้ประมวลผลได้รวดเร็วกว่าและมีต้นที่ถูกลง อยู่ที่เพียง 5.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น ขณะที่ AI เจ้าอื่นอย่าง Chat GPT, Gemini, Claude และอื่น ๆ ใช้เงินมากกว่าร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการเทรนโมเดลให้ใช้งานได้จริง DeepSeek จึงได้รับการยกย่องว่าค่อนข้างมีความล้ำหน้ามากพอที่จะแข่งกับ OpenAI และ Google ได้ อีกทั้งจีนยังถูกมองว่าเป็นหนึ่งในผู้นำ AI ระดับโลกเลยทีเดียว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
DeepSeek เป็นบริษัทสตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์สัญชาติจีน ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2023 โดยซีอีโอวัย 40 ปี เหลียง เหวินเฟิง ผู้ซึ่งเลือก “หางโจว” เมืองหลวงของมณลเจ้อเจียง เป็นสำนักงานใหญ่ เร่งพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ประสบความสำเร็จโดยใช้เวลาไม่ถึง 2 ปี แน่นอนว่าการเติบโตของบริษัทอาศัยความชาญฉลาดและความมุมานะของผู้นำร่วมกับทีมงาน แต่เมืองหางโจวแห่งนี้ อาจมีอะไรบางอย่างที่เอื้อต่อการพัฒนาของบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก
หางโจวโดดเด่นแซงน้องใหม่อย่างเซินเจิ้น ?
หากพูดถึงเมืองไอทีของจีน ผู้คนอาจนึกถึงกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงแดนมังกรในฐานะศูนย์กลางบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ ซึ่งมีความโดดเด่นด้าน AI การวิจัยและพัฒนา และสตาร์ทอัพ ขณะที่เซี่ยงไฮ้เป็นศูนย์กลางทางการเงินและธุรกิจของจีน ดังนั้น เทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) จึงโดดเด่นที่สุด ส่วนฝูโจวและเซี่ยเหมิน ถูกจัดให้เป็นเมืองแห่งซอฟต์แวร์ของจีน เพราะมีนิคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ที่สำคัญ มีมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียง ซึ่งผลิตบุคลากรที่มีความสามารถด้านซอฟต์แวร์
เมืองหนึ่งที่ได้รับความสนใจในยุคนี้คือ “เซินเจิ้น” ที่ถูกมองว่าเป็น Silicon Valley ของจีน เนื่องจากเป็นบ้านของ Tencent (เจ้าของ WeChat) และ Huawei ซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับโลก จึงดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถและสร้างระบบนิเวศทางเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง ที่สำคัญ รัฐบาลจีนได้ให้การสนับสนุนด้านการพัฒนาทางเทคโนโลยี ทั้งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การวิจัยและพัฒนา และการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตของบริษัทเทคโนโลยี ทำให้เซินเจิ้นกลายเป็นที่ตั้งของสตาร์ทอัพจำนวนมากและมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ๆ
อย่างไรก็ตาม การเติบโตทะยานสูงขึ้นอย่างรวดเร็วของ DeepSeek ทำให้ “หางโจว” เนื้อหอมขึ้นมากกว่าแต่ก่อน จนอาจเรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา AI โดยมีการนำ AI ไปใช้ในด้านต่างๆ เช่น การจัดการจราจร การดูแลสุขภาพ และการเงิน ซึ่งรัฐบาลได้หันมาลงทุนด้านเทคโนโลยีในเมืองหางโจวอย่างจริงจัง ผ่านนโยบายและการสนับสนุนหลายรูปแบบ เพื่อผลักดันให้หางโจวเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สำคัญของประเทศ
รัฐบาลจีนอัดฉีดแน่น สร้าง Hub of AI ในหางโจว
รัฐบาลจีนได้จัดตั้งเขตพัฒนาอุตสาหกรรมไฮเทคแห่งหางโจว หรือ HHTZ เพื่อเป็นศูนย์รวมของบริษัทเทคโนโลยี สถาบันวิจัย และมหาวิทยาลัย ผู้ประกอบการในเขตนี้ยังได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น สิทธิพิเศษด้านภาษี และการสนับสนุนทางการเงิน เพื่อดึงดูดการลงทุนจากบริษัทเทคโนโลยีทั้งในและต่างประเทศ
รัฐบาลจีนสนับสนุนด้านการเงินแก่บริษัทที่อยู่ใน Fortune 500 ซึ่งเป็นธุรกิจถูกจัดอันดับว่าสร้างรายได้มากที่สุด 500 อันดับแรกของโลก โดยนิตยสาร Fortune และในหางโจวนั้น มีบริษัทเหล่านี้ตั้งอยู่ถึง 8 แห่ง ไม่ว่าจะเป็น Alibaba Group Holding Ltd. อีคอมเมิร์ซชื่อดัง, WZ Group บริษัทด้านการเงินและอสังหาริมทรัพย์, Geely Holding Group ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำระดับโลกแบรนด์ Volvo และ Lotus เป็นต้น
แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของเมืองนี้ นอกจากนี้ รัฐบาลยังสนับสนุนการจัดตั้งสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายแห่งในหางโจว เช่น Westlake University, Zhejiang Lab, Alibaba DAMO Academy
ที่สำคัญ รัฐบาลจีนเดินหน้าสนับสนุนการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในหางโจวอย่างมาก โดยมีการลงทุนในโครงการวิจัยและพัฒนา AI ต่าง ๆ โครงการที่น่าสนใจที่ถูกพูดถึงคือ City Brain ที่นำระบบปัญญาประดิษฐ์มาจัดการเมือง เริ่มแรกเพื่อมุ่งแก้ปัญหาจราจรติดขัดในหางโจว โดยรวบรวมข้อมูลจากกล้องวงจรปิด เซ็นเซอร์ และระบบขนส่งสาธารณะ แท้จริงแล้วระบบนี้ สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 2015 โดย Alibaba Cloud ในเมืองหางโจว และท้ายที่สุด โครงการก็ประสบความสำเร็จและถูกนำไปใช้ในหลายเมืองใหญ่ทั่วประเทศจีน
หางโจว เป็นบ้านของ Alibaba มาก่อน
แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้ง Alibaba เริ่มต้นธุรกิจนี้ในอพาร์ตเมนต์ของตนเองในหางโจว จนกลายมาเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซชั้นนำระดับโลก เนื่องจาก หางโจวเป็นเมืองที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างรวดเร็ว ทำให้ Alibaba สามารถเข้าถึงตลาดขนาดใหญ่และเติบโตไปพร้อมกับการขยายตัวของเศรษฐกิจดิจิทัลในจีน การที่ Alibaba มีสำนักงานใหญ่อยู่ในหางโจว ทำให้เมืองนี้กลายเป็นศูนย์กลางของอีคอมเมิร์ซในจีน ดึงดูดบริษัทและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาในพื้นที่
Alibaba สร้างรายได้มหาศาลและกระตุ้นให้เกิดลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในท้องถิ่น เช่น ระบบขนส่ง และระบบดิจิทัล ของอาลีบาบาส่งผลโดยตรงต่อความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของเมืองหางโจว ความสำเร็จของอาลีบาบาเป็นแรงบันดาลใจและสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจสตาร์ทอัพใหม่ ๆ ส่งเสริมวัฒนธรรมผู้ประกอบการที่มีชีวิตชีวา เช่น DeepSeek ที่เมื่อ 2 ปีก่อนเป็นเพียงสตาร์ทอัพเล็ก ๆ แต่ทุกวันนี้ สามารถเติบโตโดดเด่นได้ในเวทีโลก ไม่แน่ว่า อาจมีสตาร์ทอัพดาวรุ่งอีกนับร้อย ที่ซ่อนตัวรอวันเฉิดฉายภายใต้เมืองหางโจวแห่งนี้
