ทรัมป์ยอมเพิ่มรายการสินค้าที่ได้รับการยกเว้นภาษีของเม็๋กซิโก-แคนาดา
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งบริหารเมื่อวานนี้ (6 มีนาคม) เพิ่มจำนวนรายการสินค้าที่ได้รับการยกเว้นจากภาษีนำเข้าที่บังคับใช้ใหม่กับแคนาดาและเม็กซิโกในสัปดาห์นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นับเป็นครั้งที่สองภายในระยะเวลาสองวัน ที่ทรัมป์ได้ปรับลดภาษีนำเข้าจากสองประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้สร้างความไม่แน่นอนให้กับภาคธุรกิจและสร้างความเป็นกังวลให้แก่ตลาดการเงิน หลังเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทรัมป์ประกาศยกเว้นภาษีนำเข้า 25% สำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์เป็นการชั่วคราว เพียงหนึ่งวันหลังจากมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้
ด้านประธานาธิบดีเม็กซิโก คลอเดีย ไชน์บอม ได้แสดงความขอบคุณต่อทรัมป์สำหรับการตัดสินใจครั้งนี้ ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของแคนาดาระบุว่า แคนาดาจะระงับแผนตอบโต้ขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯรอบสองเป็นการชั่วคราว
นายกฯ แคนาดาเผยถกประเด็นภาษีสุดดุเดือดกับทรัมป์
จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา เปิดเผยเมื่อเช้าวันพฤหัสบดีว่า เขาได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับภาษีนำเข้า ซึ่งเป็นการสนทนาที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย โดยรายงานจากสื่อสหรัฐฯ และแคนาดาระบุว่า ทรัมป์ใช้ภาษาที่ค่อนข้างหยาบคายในระหว่างการสนทนา
ทรูโดกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สงครามการค้าระหว่างสองประเทศรมีแนวโน้มจะดำเนินต่อไปในอนาคตอันใกล้ แม้จะมีมาตรการผ่อนปรนบางอย่างก็ตาม แต่เป้าหมายของแคนาดาคือการยกเลิกภาษีนำเข้าทั้งหมด
ส่วนแคนาดาได้เริ่มมาตรการตอบโต้รอบแรกแล้ว โดยเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ มูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา
ความตึงเครียดทางการค้าส่งผลให้ตลาดการเงินผันผวน โดยดัชนีหลักของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเมื่อวันพฤหัสบดี ดัชนี S&P 500 ซึ่งเป็นตัวชี้วัดของ 500 บริษัทชั้นนำ ปิดตลาดลดลงเกือบ 1.8% แต่ทรัมป์ปฏิเสธว่า ที่เขายอมเพิ่มรายการสินค้าที่ได้รับการยกเว้นภาษีพราะกังวลเกี่ยวกับตลาดหุ้น
มาตรการยกเว้นภาษีครั้งนี้มีผลกับสินค้าที่ส่งออกภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (USMCA) ซึ่งทรัมป์ลงนามในสมัยดำรงตำแหน่งแรก
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวระบุว่า ราว 50% ของสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและ 62% จากแคนาดายังอาจถูกเก็บภาษีอยู่ ขณะเดียวกัน ทำเนียบขาวยังเดินหน้าผลักดันแผนเก็บภาษีใหม่ โดยเตรียมเปิดเผยมาตรการตอบโต้ทางการค้าแบบ “ต่างตอบแทน” สำหรับประเทศอื่นๆ ทั่วโลกในวันที่ 2 เมษายนนี้
ผู้นำเม็กซิโกเผยหารือเชิงบวกกับทรัมป์ เร่งหาผู้ซื้อในเอเชียและยุโรปแทน
ทรัมป์ระบุว่า เขาตัดสินใจยกเว้นภาษีจนถึงวันที่ 2 เมษายน หลังจากพูดคุยกับประธานาธิบดีคลอเดีย ไชน์บอมของเม็กซิโก โดยมาตรการดังกล่าวมุ่งช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์และผู้ผลิตชิ้นส่วน รวมถึงลดภาษีนำเข้าปุ๋ย
ไชน์บอมกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เธอได้พูดคุยกับทรัมป์อย่างยอดเยี่ยมและให้เกียรติซึ่งกันและกัน พร้อมเสริมว่า ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันสกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเฟนทานิลจากเม็กซิโกเข้าสหรัฐฯ และปราบปรามการค้าอาวุธเถื่อนที่ไหลเข้าสู่เม็กซิโก
แต่ขณะเดียวกัน บริษัทพีเม็กซ์ (Pemex) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของเม็กซิโก กำลังเจรจากับผู้ซื้อที่มีศักยภาพในเอเชีย รวมถึงจีน และยุโรป เพื่อหาตลาดใหม่สำหรับน้ำมันดิบ
โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเม็กซิโกเปิดเผยว่า แม้ว่าน้ำมันดิบจากแคนาดาจะได้รับข้อยกเว้นบางส่วนและถูกเก็บภาษีจากสหรัฐฯเพียง 10% แต่น้ำมันดิบจากเม็กซิโกจะต้องเสียภาษีเต็มอัตราที่ 25%
เมื่อปีที่แล้ว บริษัทน้ำมันแห่งชาติเม็กซิโก พีเม็กซ์ (Pemex) ส่งออกน้ำมันดิบเฉลี่ย 806,000 บาร์เรลต่อวัน โดย 57% ของปริมาณดังกล่าวถูกส่งไปยังสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา การส่งออกลดลง 44% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เหลือเพียง 532,404 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบหลายทศวรรษ
