รวบแล้ว "ดูแตร์เต" อดีตผู้นำฟิลิปปินส์ตามหมายจับ ICC จากสงครามยาเสพติด
ทำเนียบประธานาธิบดีฟิลิปปินส์รายงานว่า อดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต ถูกจับกุมแล้ว หลังจากได้รับคำขอจากศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) โดยดูแตร์เตถูกเข้าควบคุมตัวในวันนี้ (11 มีนาคม 68) ที่สนามบินมะนิลา หลังเดินทางกลับมาจากฮ่องกง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดูแตร์เตกำลังเผชิญข้อกล่าวหาจากการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ในระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีระหว่างปี 2016-2022 ด้วยนโยบายการปราบปรามยาเสพติดอันโหดร้าย แต่สงครามปราบปรามยาเสพติดเหมือนเป็นการจัดการผู้ต้องสงสัยโดยไม่ผ่านกระบวนการตามกฎหมาย นำไปสู่การเสียชีวิตของประชาชนหลายพันคน รวมถึงเด็กด้วย ซึ่งทำให้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า บุคคลเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจริงหรือไม่
ก่อนหน้านี้ ดูแตร์เตออกมากล่าวปกป้องการกระทำของเขา ก่อนหน้าจะถูกจับว่า เขาทำทุกอย่าง เพื่อประชาชนชาวฟิลิปปินส์ หากนี่คือโชคชะตาของชีวิตเขา เขาก็ยอมรับ ไม่มีสิ่งใดที่สามารถทำได้หากถูกจับ หากถูกคุมขัง ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปเช่นนั้น
ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าดูแตร์เตถูกนำตัวไปไว้ที่ใด แต่รัฐบาลยืนยันว่า อดีตผู้นำ ซึ่งปัจจุบันอายุ 79 ปี มีสุขภาพแข็งแรงดีและได้รับการดูแลจากแพทย์
ICC เริ่มสอบสวนตั้งแต่ปี 2011
ICC เริ่มต้นการสืบสวนการทำสงครามยาเสพติดของดูแตร์เต ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ปี 2011 ระหว่างที่เขายังคงดำรงตำแหน่งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองดาเวา จนถึงวันที่ 16 มีนาคม 2019 โดยมองว่า เข้าข่ายก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และในปี 2019 ดูแตร์เตได้พาฟิลิปปินส์ถอนตัวจากธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นสนธิสัญญาเพื่อจัดตั้งตุลาการระหว่างประเทศ มีหน้าที่ผู้กระทำความผิดร้ายแรง และมีผลกระทบต่อหลายประเทศ เช่น การล้างชาติ โดยนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนมองว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นความพยายามของดูแตร์เตที่จะหลบหนีความรับผิดชอบ
ในช่วงปลายปี 2021 รัฐบาลดูแตร์เตระงับการสอบสวนของศาลอาญาระหว่างประเทศ โดยย้ายข้อกล่าวหาดังกล่าวมาดูแลเอง และอ้างว่าเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์กำลังตรวจสอบข้อกล่าวหาเดียวกันอยู่แล้ว และศาล ICC ไม่มีอำนาจในกรณีนี้
ในปี 2023 ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ของ ICC ตัดสินว่า การสอบสวนสามารถนำกลับมาได้และได้ปฏิเสธการคัดค้านของรัฐบาลดูแตร์เต
ทั้งนี้ ศาล ICC ซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ สามารถเข้าแทรกแซงเมื่อประเทศต่าง ๆ ไม่เต็มใจหรือไม่สามารถดำเนินคดีผู้ต้องสงสัยในอาชญากรรมระหว่างประเทศที่ร้ายแรงที่สุด เช่น การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
ต่อมา ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ เข้ามารับตำแหน่งผู้นำประเทศต่อจากดูแตร์เตในปี 2022 ตัดสินใจไม่เข้าร่วมศาลอาญาระหว่างประเทศอีก แต่รัฐบาลมาร์กอสกล่าวว่า จะให้ความร่วมมือหาก ICC ขอให้ตำรวจนานาชาติช่วยจับกุมดูแตร์เตผ่านหมายจับที่เรียกว่า "Red Notice" ซึ่งเป็นคำขอให้หน่วยงานตำรวจทั่วโลกติดตามและจับกุมผู้ต้องสงสัยในอาชญากรรม
