ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กล่าวว่า มีหลายองค์ประกอบของข้อตกลงสันติภาพยูเครน ที่ได้ตกลงกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียไปแล้ว ก่อนที่ทั้งคู่จะหารือกันทางโทรศัพท์อย่างเป็นทางการในวันนี้ (18 มีนาคม 68) โดยทรัมป์ได้โพสต์ข้อความบน Truth Social ว่า เขาจะพูดคุยกับปูตินในเช้าวันอังคาร แม้ข้อตกลงบางอย่างคุยกันเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังมีเหลืออีกหลายส่วนที่ต้องจัดการ
ทรัมป์ระบุว่า ในแต่ละสัปดาห์ มีทหารราว 2,500 นายจากทั้งสองฝ่ายเสียชีวิต และสถานการณ์ดังกล่าวต้องจบลงเดี๋ยวนี้ และว่า เขาตั้งตารอที่จะได้หารือทางโทรศัพท์กับปูติน
ก่อนหน้านี้ เขากล่าวกับนักข่าวว่า เราจะมาดูว่า เราสามารถทำข้อตกลงสันติภาพ การหยุดยิง และสันติภาพได้หรือไม่ แต่เขาคิดว่า ทำได้
ในฝั่งของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน เปิดเผยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา กล่าวหาปูตินว่า เป็นคนที่ทำให้สงครามยืดเยื้อ โดยเขามองว่า ข้อเสนอหยุดยิงที่ยูเครนเห็นชอบ สามารถนำไปปฏิบัติได้ก่อนแล้ว เพราะทุกๆวันในสงครามหมายถึงการสูญเสียชีวิตมนุษย์
หลังจากการประชุมกับเจ้าหน้าที่ยูเครนในเมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า การสนทนาส่วนใหญ่เป็นการพูดคุยถึงกระบวนการเจรจาจะเป็นอย่างไร มากกว่าการพูดถึงเงื่อนไขเฉพาะ ขณะที่สตีฟ วิทคอฟ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ซึ่งพบปูตินในกรุงมอสโกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ก็ได้ใช้ถ้อยคำที่ระมัดระวังมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสได้เรียกร้องให้ปูตินพิสูจน์ให้เห็นว่า เขาต้องการข้อตกลงสันติภาพกับยูเครนจริงๆ โดยเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ยกย่องความกล้าหาญของเซเลนสกีในการตกลงรับข้อเสนอหยุดยิง และท้าทายให้รัสเซียทำเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม เดวิด แลมมี รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักรกล่าวว่า ปูตินควรยอมรับการหยุดยิงอย่างเต็มที่และไม่มีเงื่อนไขในทันที และเขาได้บอกกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่า เขาไม่เห็นสัญญาณใดๆ ที่บ่งชี้ว่า ปูตินจริงจังกับข้อตกลงสันติภาพ
เขาเตือนว่า สหราชอาณาจักรและพันธมิตรมีไพ่มากมายที่สามารถเล่นได้ เพื่อบังคับให้รัสเซียเจรจาอย่างจริงจัง
แคโรลีน เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวกับนักข่าวว่า ทรัมป์มุ่งมั่นที่จะทำข้อตกลงสันติภาพให้สำเร็จ และนักข่าวได้ถามว่า บทสนทนาจะครอบคลุมถึงเรื่องใดบ้าง เธอตอบว่า หนึ่งในนั้นจะเป็นการหารือเกี่ยวกับโรงไฟฟ้าที่ตั้งอยู่ริมชายแดนระหว่างรัสเซียและยูเครนด้วย
โรงไฟฟ้าที่กล่าวถึงน่าจะเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซเซีย ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ปัจจุบันถูกกองกำลังรัสเซียยึดครองตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 และมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุบัติเหตุทางนิวเคลียร์ที่อาจเกิดขึ้นจากการสู้รบในพื้นที่
ด้านดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้นำทั้งสองจะพูดคุย ในขณะที่ปูตินเคยกล่าวว่า เขาสนับสนุนการหยุดยิง และเขาก็ได้กำหนดเงื่อนไขบางประการในการบรรลุสันติภาพ
หนึ่งในประเด็นที่เป็นข้อขัดแย้งคือสมรภูมิเคิร์สค์ในรัสเซีย ซึ่งยูเครนได้บุกเข้ามาในเดือนสิงหาคมปีที่แล้วและยึดครองพื้นที่บางส่วน รัสเซียพยายามที่จะยึดคืนพื้นที่นี้ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และตอนนี้ปูตินอ้างว่า รัสเซียสามารถยึดเคิร์สค์กลับมาอย่างสมบูรณ์แล้ว
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ปูตินยืนยันมาตลอดก็คือ เขาจะไม่ยอมรับการมีทหารนาโตในดินแดน