มาร์ค คาร์นีย์ นายกฯแคนาดา ประกาศชัยเลือกตั้ง ย้ำไม่ยอมจำนนต่อสหรัฐฯ
นายกรัฐมนตรีมาร์ค คาร์นีย์ของแคนาดา ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปของแคนาดา ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา พร้อมส่งสารชัดเจนถึงสหรัฐอเมริกาว่า แคนาดาจะไม่มีวันยอมจำนน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บนเวที ซึ่งคาร์นีย์ได้ขึ้นประกาศชัยชนะในช่วงกลางดึกเข้าสู่เช้าวันอังคาร ผู้นำพรรคเสรีนิยม (Liberal Party) ได้กล่าวปราศรัยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังพยายามทำลายแคนาดา เพื่อที่อเมริกาจะได้เป็นเจ้าของเรา แต่เรื่องนั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้น
นายกรัฐมนตรีคาร์นีย์ยังย้ำข้อความที่เคยกล่าวระหว่างการหาเสียงว่า ความสัมพันธ์ระหว่างแคนาดากับสหรัฐฯ ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง และแคนาดาได้ก้าวผ่านความตกใจจากการถูกสหรัฐฯ หักหลังมาแล้ว แต่แคนาดาไม่ควรลืมบทเรียนเหล่านั้น จำเป็นต้องปกป้องตนเอง และที่สำคัญที่สุดคือ ชาวแคนาดาต้องดูแลกันและกัน
แม้ว่าผลการนับคะแนนยังไม่แล้วเสร็จอย่างเป็นทางการ แต่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้เลือกให้พรรคเสรีนิยมของแคนาดากลับมาบริหารประเทศเป็นสมัยที่สี่ติดต่อกัน โดยยังไม่ชัดเจนว่าคาร์นีย์จะได้เสียงข้างมากเพียงพอในการจัดตั้งรัฐบาลเอกภาพ หรือจะต้องหาพันธมิตรมาร่วมรัฐบาล
แม้พรรคเสรีนิยมจะคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปของแคนาดา แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากได้หรือไม่ โดยพรรคจำเป็นต้องมีอย่างน้อย 172 ที่นั่งเพื่อครองเสียงข้างมากในสภา
ด้านสำนักข่าว CTV ซึ่งเป็นเครือข่ายในเครือของสำนักข่าว CNN คาดการณ์ว่า พรรคเสรีนิยมจะได้จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ขณะที่ CBC ซึ่งเป็นสื่อในเครือเดียวกัน ระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าพรรคจะสามารถคว้าเสียงข้างมากได้หรือไม่
นโยบายต่อต้านทรัมป์ทำให้คาร์นีย์ได้รับความนิยม
คาร์นีย์ อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางของแคนาดา ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากอดีตนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ประกาศลาออก โดยคาร์นีย์ได้นำกระแสต่อต้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มาเป็นหัวใจสำคัญในการหาเสียง
ทั้งนี้ ทรัมป์ทขู่จะผนวกแคนาดาเป็น “รัฐที่ 51” ของสหรัฐฯ และยังขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาอีกด้วย ทั้งที่เป็นเพื่อนบ้านกัน โดยคาร์นีย์เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า เขาจะไม่ยอมแพ้ต่อทุกความพยายามที่จะทำให้แคนาดาอ่อนแอ หรือยอมจำนนต่อสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ พรรคอนุรักษนิยม นำโดยสมาชิกรัฐสภาเก่าแก่อย่างปิแอร์ ปัวลิแวร์ เคยถูกมองว่ามีโอกาสชนะสูง หลังทรูโดประกาศลาออกในเดือนมกราคม ท่ามกลางความไม่พอใจเรื่องค่าครองชีพและวิกฤตภายในรัฐบาล แต่การตั้งกำแพงภาษีสูงของทรัมป์และการคุกคามต่ออธิปไตยของแคนาดา ได้เปลี่ยนทิศทางของการแข่งขันครั้งนี้อย่างสิ้นเชิง
ช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง โพลหลายสำนักชี้ว่า คะแนนนิยมของพรรคการเมืองหลักสูสีกันมาก โดยปิแอร์ ปัวลิแวร์ พยายามโน้มน้าวผู้มีสิทธิเลือกตั้งบางกลุ่มว่า มาร์ก คาร์นีย์ ไม่ใช่ตัวแทนของ “การเปลี่ยนแปลง” ที่ชาวแคนาดาหลายคนต้องการ แม้คาร์นีย์จะได้รับแรงสนับสนุนจากกระแสต่อต้านทรัมป์ก็ตาม
คาร์นีย์ไม่เคยดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาก่อนจะก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แต่มีประสบการณ์ยาวนานในสายงานการเงินระดับสูง เขาเคยมีบทบาทสำคัญในการพาแคนาดาฝ่าวิกฤตการเงินโลกปี 2008 และในฐานะผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ เขายังมีบทบาทสำคัญในการพาสหราชอาณาจักรผ่านพ้นช่วง Brexit
การตัดสินใจของทรัมป์ในการเก็บภาษีเหล็ก อะลูมิเนียม รถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์จากแคนาดาในอัตรา 25% รวมถึงขู่ว่าจะตั้งกำแพงภาษีกับยาและไม้แปรรูป ทำให้ภาคธุรกิจแคนาดาสั่นคลอน คาร์นีย์ชี้ว่า ความท้าทายกำลังจะมาถึง และเตือนว่าชาวแคนาดาจะต้องเผชิญ “วันเวลาที่ยากลำบาก” โดยเฉพาะผลกระทบต่อการจ้างงาน
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีคนใหม่ให้คำมั่นว่า จะฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศผ่านการลงทุนภายในประเทศ ทั้งการสร้างที่อยู่อาศัย โรงงานผลิต และพลังงานสะอาด เพื่อให้แคนาดาพึ่งพาสหรัฐฯ น้อยลง
CNN
