เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูโดที่ทั่วโลกคุ้นหน้าคุ้นตามากว่า 10 ปี ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังเผชิญแรงกดดันจากภายในและถูกโจมตีอย่างหนักว่าไม่สามารถแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจด้านปากท้องของคนในประเทศได้ ตามกระบวนการแล้ว รัฐสภาแคนาดาจึงต้องจัดการเลือกตั้งอย่างเร่งด่วน เพื่อหาผู้นำคนใหม่มาแทนที่
ล่าสุด วันนี้ (10 มี.ค. 68) พรรคเสรีนิยมแคนาดา ประกาศว่า นายมาร์ค คาร์นีย์ ได้คว้าชัยชนะเหนือคู่แข่ง 3 คนอย่างขาดลอย คะแนนโหวตอยู่ที่ 85.9% โดยผู้นำพรรคระบุว่ามีผู้ออกมาลงคะแนนเสียงมากกว่า 150,000 คน การชนะการเลือกตั้งผู้นำพรรคด้วยคะแนนสนับสนุนถล่มทลาย ทำให้คาร์ทนีย์ก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแคนาดาคนใหม่อย่างอัตโนมัติ แต่จัสติน ทรูโดจะยังคงดำรงตำแหน่งต่อไปก่อน จนกว่าคาร์นีย์จะเข้ารับตำแหน่งในพิธีสาบานตนอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
คาร์นีย์จะนำพรรคเสรีนิยมเข้าสู่การเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า ซึ่งตามกำหนดเดิมจะต้องจัดขึ้นภายในวันที่ 20 ตุลาคม แต่มีแนวโน้มว่าจะถูกเร่งรัดให้เร็วขึ้นและอาจจะเกิดขึ้นภายในเดือนนี้
ในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกของเขาภายหลังประกาศผลการเลือกตั้ง เขาให้คำมั่นว่าจะคงการขึ้นภาษีศุลกากรเพื่อตอบโต้กับสหรัฐฯ จนกว่าสหรัฐฯ จะแสดงความเคารพต่อแคนาดา ท่ามกลางเสียงโห่ ฮึกเหิมของผู้ที่มาฟังปราศรัยในกรุงออตตาวา โดยคาร์นีย์เรียกมาตรการการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ว่าเป็น “ภาษีที่ไม่ยุติธรรม” เพราะได้ทำลายแรงงาน ครอบครัว และธุรกิจ แคนาดาไม่สามารถปล่อยให้ทรัมป์ประสบความสำเร็จได้
นอกจากนี้ เขายังโจมตีโดนัลด์ ทรัมป์ ประเด็นที่เคยกล่าวว่าจะให้แคนาดาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ คาร์นีย์กล่าวว่า ชาวอเมริกันไม่ควรเข้าใจผิด และสำหรับเรื่องสงครามการค้าของทั้งสองประเทศ แคนาดาจะคว้าชัยชนะแน่นอน เช่นเดียวกับที่ชนะอเมริกาในเกมฮอกกี้
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดา 25 เปอร์เซ็นต์ แต่ภายในไม่กี่วันกลับมีมติยกเว้นภาษีกับสินค้ายกเว้นที่ระบุไว้ตามข้อตกลงการค้าเดิม แคนาดาตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีศุลกากรกับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เช่นกัน เศรษฐกิจของแคนาดาขึ้นอยู่กับการค้ากับสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก และมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยหากมีการกำหนดภาษีศุลกากรครอบคลุมที่ทรัมป์ขู่ไว้ทั้งหมด
คาร์นีย์กล่าวว่า “ผมรู้ว่านี่คือวันอันมืดมน ซึ่งวันอันมืดมนนี้เกิดจากประเทศที่เราไม่สามารถไว้วางใจได้อีกต่อไป แม้เราผ่านพ้นความตกใจมาได้แล้ว (จากวิกฤตเศรษฐกิจ) แต่เราไม่ควรลืมบทเรียนที่ได้รับ เราต้องดูแลตัวเองและดูแลซึ่งกันและกัน เราต้องร่วมมือกันฝ่าฟันช่วงเวลาที่ยากลำบากข้างหน้า”
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา คะแนนนำของพรรคอนุรักษ์นิยมลดลง เนื่องจากทรูโด คาร์นีย์ และบุคคลสำคัญอื่นๆ ของพรรคเสรีนิยมแสดงจุดยืนที่ชัดเจนเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้ากับสหรัฐฯ ในการชุมนุมเมื่อวันอาทิตย์ก่อนการลงคะแนนของพรรคเสรีนิยม ปัวลิเวียร์ หัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมแคนาดา ได้กล่าวโจมตีคาร์นีย์ว่าเขาป็นผู้นำที่ไม่มีความพร้อมที่จะรับมือกับทรัมป์ และก่อนหน้านี้ การทำงานของคาร์นีย์ร่วมกับทรูโดทำให้แคนาดาอ่อนแอลงและยากจนลง
ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป พรรคเสรีนิยมจะต้องเผชิญหน้ากับพรรคอนุรักษ์นิยมของปัวลิเวียร์ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านอย่างเป็นทางการโดยมีที่นั่งในสภาสามัญชนทั้งหมด 120 ที่นั่ง พรรคบล็อกเกแบกัวส์ซึ่งมี 33 ที่นั่ง และพรรคประชาธิปไตยใหม่ซึ่งมี 24 ที่นั่ง คาร์นีย์ ซึ่งจะเป็นผู้นำรัฐบาลเสียงข้างน้อยในรัฐสภา อาจจะต้องประกาศให้มีการเลือกตั้งทั่วไปกะทันหันด้วยตัวเอง หรือไม่ก็พรรคฝ่ายค้านอาจบังคับให้มีการเลือกตั้ง ด้วยการลงมติไม่ไว้วางใจในช่วงปลายเดือนนี้
มาร์ค คาร์นีย์ ปัจจุบันอายุ 59 ปี แม้ประสบการณ์ทางการเมืองอาจจะมีไม่มากนัก แต่เขาเป็นนายธนาคารและนักเศรษฐศาสตร์คนสำคัญ คาร์นีย์เคยสร้างผลงานให้กับประเทศมาแล้ว โดยในปี 2004 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองรัฐมนตรีอาวุโสของกระทรวงการคลังของแคนาดา ต่อมาจึงเลื่อนขั้นมาเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งแคนาดา ซึ่งเขาเป็นผู้รับผิดชอบนโยบายการเงิน ในช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงินโลก
หลายฝ่ายยกย่องว่าเขาเป็นคนสำคัญที่พาอังกฤษรอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ Brexit มาแล้ว รวมถึงการจัดการเศรษฐกิจที่ได้ผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ด้วย ในขณะที่ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งอังกฤษระหว่างปี 2013-2020 หลังจากออกจากธนาคารกลางฯ คาร์นีย์ดำรงตำแหน่งประธานและหัวหน้าการลงทุนที่ Brookfield Asset Management และเป็นประธานคณะกรรมการบริหารของ Bloomberg LP
นอกจากนี้ เขายังเคยเป็นทูตพิเศษของสหประชาชาติว่าด้วยการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศและการเงิน จากประสบการณ์ของเขา เมื่อเขาหาเสียงโดยชูประเด็นพลังงานสะอาด นโยบายด้านสภาพภูมิอากาศ และความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของแคนาดา ประสบการณ์ของเขาจึงมีน้ำหนักมากพอและสร้างความน่าเชื่อถือได้เป็นอย่างดี
คาร์นีย์เกิดที่ฟอร์ตสมิธ นอร์ธเวสต์เทร์ริทอรีส์ แต่เติบโตในเมืองเอ็ดมันตัน รัฐอัลเบอร์ตา เขาจบการศึกษาปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ก่อนที่จะศึกษาต่อในระดับปริญญาโท และปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และเริ่มต้นอาชีพทางด้านการเงินที่โกลด์แมน แซคส์ และปัจจุบัน ก็ได้ก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของแคนาดาอย่างไม่เป็นทางการ