ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เฉลิมฉลองครบ 100 วันของการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในวาระที่สอง ด้วยการจัดการปราศรัยในรูปแบบหาเสียง โดยทรัมป์ได้กล่าวยกย่องความสำเร็จของตนเองและวิพากษ์วิจารณ์ฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง
ทรัมป์ได้กล่าวต่อหน้าบรรดาผู้สนับสนุนจำนวนมากที่รัฐมิชิแกนว่า ทุกคนมาอยู่ที่นี่เพื่อเฉลิมฉลอง 100 วันแรกของรัฐบาลที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ และหลายคนได้กล่าวว่า นี่คือ 100 วันแรกของการเริ่มต้นที่ดีที่สุดกว่าประธานาธิบดีคนใดในประวัติศาสตร์ ทุกคนพูดแบบนี้ แต่เราเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น คุณยังไม่ได้เห็นอะไรอีกเยอะ เพราะนี่เพิ่งเริ่ม
ในการปราศรัย ทรัมป์ยังได้กล่าวล้อเลียนอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต และโจมตีประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ขณะเดียวกัน เขายังบอกว่า โพลที่ระบุว่าคะแนนความนิยมเขาลดลงเป็นของปลอม
ผลสำรวจจากสำนักโพล Gallup ระบุว่า โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกหลังสงครามโลกครั้งที่สองที่มีคะแนนนิยมต่ำกว่า 50% หลังดำรงตำแหน่งครบ 100 วัน โดยมีคะแนนการสนับสนุนอยู่ที่ 44% เท่านั้น
แม้ว่าคะแนนนิยมในภาพรวมจะไม่สูง แต่ฐานเสียงหลักของทรัมป์ในพรรครีพับลิกันยังคงให้การสนับสนุนอย่างเหนียวแน่น ขณะที่พรรคเดโมแครตคู่แข่งเองก็เผชิญความท้าทายจากผลสำรวจเช่นกัน
ขณะที่ผลสำรวจของ CNN ระบุว่า ทรัมป์มีคะแนนนิยมอยู่ที่ 41% ซึ่งถือว่าต่ำสุดสำหรับประธานาธิบดีที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งใหม่ในช่วง 100 วันแรก นับตั้งแต่สมัยของดไวต์ ไอเซนฮาวร์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 34 หรือย้อนกลับไปราว 70 ปี รวมถึงต่ำกว่าช่วง 100 วันแรกของการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในสมัยแรกของทรัมป์เองด้วย
ด้านคณะกรรมการแห่งชาติพรรคเดโมแครต (DNC) ออกแถลงการณ์โจมตีผลงาน 100 วันแรกของทรัมป์ว่าเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ โดยกล่าวว่า ทรัมป์ต้องรับผิดชอบต่อค่าครองชีพที่แพงขึ้น การเกษียณที่ยากขึ้น และภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากนโยบายของทรัมป์ที่กำลังใกล้เข้ามา
ในด้านนโยบายตรวจคนเข้าเมือง ทรัมป์ชี้ถึงความก้าวหน้า โดยระบุว่าจำนวนผู้อพยพที่ถูกจับกุมที่พรมแดนตอนใต้ของประเทศลดลงเหลือเพียงราว 7,000 คน จากเดิมที่มีมากถึง 140,000 คนเมื่อเดือนมีนาคมปีก่อน
ทำเนียบขาวเผยว่า มีผู้ถูกเนรเทศออกนอกประเทศในช่วงวาระของทรัมป์แล้วเกือบ 65,700 คน แม้จะยังต่ำกว่าปีงบประมาณที่ผ่านมา ที่สหรัฐฯ ได้เนรเทศผู้อพยพกว่า 270,000 คน