ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ โทรศัพท์แสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรีมาร์ค คาร์นีย์ของแคนาดา หลังคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งที่จัดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (28 เมษายน 68) และทั้งสองได้ตกลงที่จะจัดการเจรจาในอนาคตอันใกล้นี้
รายงานคาดว่า ทั้งสองชาติจะเข้าสู่โต๊ะเจรจาว่าด้วยเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงหลังแคนาดาผ่านพ้นการเลือกตั้งไปแล้ว
ต้องยอมรับว่า นโยบายภาษีของทรัมป์และการที่ทรัมป์ออกมาพูดขู่จะยึดแคนาดาอยู่บ่อยๆ กลายเป็นประเด็นสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งชาวแคนาดาอย่างยิ่ง และทำให้พรรคเสรีนิยม ซึ่งนำโดยคาร์นีย์ กลับมาคว้าชัยชนะอีกครั้ง แต่เป็นคว้าชัยแบบรัฐบาลเสียงข้างน้อย
สำนักนายกฯ ของแคนาดาเปิดเผยวานนี้ (29 เมษายน 68) ว่า ทรัมป์ได้โทรศัพท์มาแสดงความยินดีกับคาร์นีย์ และผู้นำทั้งสองคนได้เห็นพ้องต้องกันถึงความสำคัญของการที่สหรัฐฯ และแคนาดาต้องทำงานร่วมกัน ในฐานะชาติที่มีอธิปไตยและเป็นเอกราช
อย่างไรก็ตาม การที่คาร์นีย์ไม่สามารถคว้าชัยชนะด้วยเสียงข้างมากได้ จะส่งผลให้ภารกิจสำคัญของเขา ทั้งการเจรจากับผู้นำสหรัฐฯ และการแก้ไขปัญหาในประเทศ ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากขึ้น เนื่องจากต้องอาศัยการสนับสนุนจากพรรคการเมืองอื่นในรัฐสภา
รัฐบาลพรรคเสรีนิยม (Liberals) ภายใต้การนำของคาร์นีย์จะต้องพึ่งพาความร่วมมือจากพรรคฝ่ายค้านเพื่อให้สามารถผ่านร่างกฎหมายต่างๆ ในสภาผู้แทนราษฎรได้ นอกจากนี้ ยังต้องเผชิญความเสี่ยงจากการลงมติไม่ไว้วางใจ ซึ่งอาจนำไปสู่การล่มของรัฐบาลได้ทุกเมื่อ
แม้พรรคเสรีนิยมจะไม่ได้เสียงข้างมาก แต่ก็คาดว่า น่าจะได้ 169 ที่นั่งจาก 338 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรของแคนาดา ถือเป็นการพลิกสถานการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ หลังพรรคเคยถูกมองว่ากำลังเผชิญจุดตกต่ำเมื่อไม่กี่เดือนก่อน หลังอดีตนายกฯ จัสติน ทรูโด ต้องออกมาประกาศลาออก
คาร์นีย์ อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางของแคนาดา ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากอดีตนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ประกาศลาออก โดยคาร์นีย์ได้นำกระแสต่อต้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มาเป็นหัวใจสำคัญในการหาเสียง
ทั้งนี้ ทรัมป์ขู่จะผนวกแคนาดาเป็น “รัฐที่ 51” ของสหรัฐฯ และยังขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาอีกด้วย ทั้งที่เป็นเพื่อนบ้านกัน โดยคาร์นีย์เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า เขาจะไม่ยอมแพ้ต่อทุกความพยายามที่จะทำให้แคนาดาอ่อนแอ หรือยอมจำนนต่อสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ พรรคอนุรักษนิยม นำโดยสมาชิกรัฐสภาเก่าแก่อย่างปิแอร์ ปัวลิแวร์ เคยถูกมองว่ามีโอกาสชนะสูง หลังทรูโดประกาศลาออกในเดือนมกราคม ท่ามกลางความไม่พอใจเรื่องค่าครองชีพและวิกฤตภายในรัฐบาล แต่การตั้งกำแพงภาษีสูงของทรัมป์และการคุกคามต่ออธิปไตยของแคนาดา ได้เปลี่ยนทิศทางของการแข่งขันครั้งนี้อย่างสิ้นเชิง