ชีพจรลงพุง
เดอะ คอฟฟี่ คลับ ลุย Neighborhood Café  พบกับอาหาร-เครื่องดื่มใหม่

เดอะ คอฟฟี่ คลับ ลุย Neighborhood Café พบกับอาหาร-เครื่องดื่มใหม่

“เดอะ คอฟฟี่ คลับ” เผยภาพรวมปี 66 โตตามเป้า พร้อมลุยการเป็น “Neighborhood Café” ประเดิมด้วยเมนูอาหารและเครื่องดื่มใหม่ล่าสุด เพื่อผู้บริโภคคนไทยและต่างชาติในทุกวันทุกโอกาส

นางนงชนก สถานานนท์ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ คอฟฟี่ คลับ ภายใต้การดำเนินการของบริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากผลการดำเนินงานของธุรกิจร้าน เดอะ คอฟฟี่ คลับใน ปี 2566 ที่ผ่านมา ที่มีการเติบโตอยู่ที่ 32% เมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ อันเป็นผลมาจากการดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดที่หลากหลายทั้งการตอบโจทย์ลูกค้าผ่านการพัฒนาเมนูใหม่ ๆ อาทิ เมนูชาไทยปังเย็น เฟรปเป้ เครื่องใหม่ที่พัฒนาจากอินไซด์คนไทยที่ปัจจุบันนิยมบริโภคชาไทยมากขึ้น

152521

การขยายฐานลูกค้าด้วยการมอบสิทธิพิเศษต่าง ๆ ผ่านระบบสะสมแต้ม และการขยายสาขาให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยในปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันได้มีการขยายสาขาเพิ่ม 5 สาขา ประกอบด้วย สาขาโบ๊ท ลากูน สาขาโอลด์ทาวน์ สาขาพาร์ค สีลม สาขาสเตย์บริดจ์ ทองหล่อ และเดอะปาร์ค สาขาใหม่ล่าสุดในปี 2567 ซึ่งเป็นบริเวณย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ รวมถึงจังหวัดท่องเที่ยว ทำให้ปัจจุบันเดอะ คอฟฟี่ คลับมี สาขารวมกว่า 40 สาขา แบ่งเป็น 39 สาขาในประเทศไทย และ 1 สาขาในต่างประเทศ

ตลอดจนการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม อาทิ การปรับใช้ Eco-Friendly Packaging แก้วกระดาษใส่เครื่องดื่มร้อน และแก้วไบโอผลิตขึ้นจากวัสดุธรรมชาติที่สามารถย่อยสลายได้ง่าย สำหรับใส่เครื่องดื่มเย็น การใช้ฝาแก้วแบบ Sip Lid ที่สามารถยกดื่มได้ไม่ต้องใช้หลอด ตลอดจนการให้ความสำคัญด้านสวัสดิภาพสัตว์ผ่านการใช้ไข่ไก่แบบ Cage Free Eggs ที่ผ่านวิธีการเลี้ยงแม่ไก่แบบปล่อยอิสระในโรงเรือนระบบปิด ที่สะอาด ปลอดภัย ช่วยให้แม่มีอิสระ อารมณ์ดี ทำให้ได้ไข่ไก่ที่มีสารอาหารครบถ้วน มาเป็นวัตถุดิบในการทำเมนูอาหารให้ลูกค้าเป็นต้น

357691359535

ขณะที่ทิศทางในปี 2567 เดอะ คอฟฟี่ คลับ ตั้งเป้าตอกย้ำการเป็น Neighborhood Café สำหรับลูกค้าทุกคน เริ่มต้นด้วยการเปิดตัวเมนูอาหารและเครื่องดื่มใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์หรือช่วงหน้าร้อน ที่พบว่าอินไซด์ของผู้บริโภคส่วนใหญ่จะมีการวางแผนใช้เงินเพื่อบริโภคอาหารและเครื่องดื่มมากกว่าช่วงเวลาอื่น ๆ ของปี จึงพัฒนาเมนู Summer Faves ที่เป็นเน้นวัตถุดิบอาหารทะเลมาตอบโจทย์ดังกล่าว

ประกอบด้วย ฟิช แอนด์ ดับเบิ้ลชิป (Fish & Double Chips) เนื้อปลาพอลล๊อกชิ้นใหญ่ทอด เสิร์ฟคู่กับ มันฝรั่งสองสไตล์ อย่าง เฟรนช์ฟรายส์ และ มันหวานฟรายส์ ทานคู่กับซอสทาร์ทาร์ หรือ ซอสมะเขือเทศ สลัดอะโวคาโดกุ้ง น้ำสลัดวาซาบิ (Avocado & prawn salad) สลัดอะโวคาโดและกุ้งที่อัดแน่นด้วยคุณประโยชน์มากมายจากผักหลากชนิด อาทิ โอ๊ค แรดิช มะเขือเทศเชอร์รี่ แตงกวา สาหร่ายวากาเมะ และ อะโวคาโด ราดด้วยน้ำสลัดซอสถั่วเหลืองวาซาบิ ที่ใส่วาซาบิในปริมาณที่เหมาะสม ทำให้ให้รสชาติกลมกล่อม ไม่เผ็ดจนเกินไป ทุกคนสามารถรับประทานทานได้ง่าย และเมนู ครัวซองกุ้ง ซอสฮันนี่มัสตาร์ดมายองเนส (Overload Prawns croissant) ครัวซองต์รสสัมผัสกรอบอร่อย อัดแน่นด้วยกุ้งเต็มคำ ราดซอสฮันนี่มัสตาร์ดมายองเนส ที่บีบมะนาวควบคู่จนได้ความอร่อยแบบลงตัว

ด้านเมนูเครื่องดื่มดับร้อนต้อนรับช่วงซัมเมอร์ที่มีเทศกาลสำคัญอย่างเทศกาลสงกรานต์ ประกอบด้วย โมฮิโต้ ม๊อกเมล เฟรปเป้ (Mojito Crush Frappe) เครื่องดื่มที่ได้แรงบันดาลใจจาก โมฮิโต้ เครื่องดื่มยอดฮิตนำมาดัดแปลงเป็นรูปแบบปั่นแบบไม่ผสมแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มจะได้ความหอมของกลิ่นมิ้นต์ ตัดด้วยรสเปรี้ยวจากมะนาว และ พาฟโลวา เฟรปเป้ (Pavlova Frappe) เมนูได้รับแรงบันดาลใจมาจากของหวานประจำชาติออสเตรเลีย ที่มีส่วนผสมของเมอร์แรงก์ ปั่นคู่กับมะม่วง เสาวรส และ วานิลลา ที่ได้ทั้งความหวานจากมะม่วง ความเปรี้ยวจากเสาวรส ความมันจากเมอร์แรงก์ เติมเต็มทั้งความอร่อยและสดชื่นได้ในเวลาเดียวกัน

503230665136714206

พร้อมกันนี้ เดอะ คอฟฟี่ คลับ ยังให้ความสำคัญกับการขยายสาขาในทำเลที่มีศักยภาพที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายยิ่งขึ้นทั้งในพื้นที่แหล่งย่านธุรกิจกรุงเทพฯ และจังหวัดท่องเที่ยวทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ และมุ่งเน้นไปยังกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนไทยมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น คนวัยคนทำงาน ตลอดจนครอบครัว ไปพร้อมการให้ความสำคัญกับลูกค้าต่างชาติเช่นเดิม ผ่านลอยัลตีโปรแกรม เช่น การมอบโปรโมชันพิเศษสำหรับสมาชิกทุกระดับบนแอปพลิเคชัน The Coffee Club Thailand ไม่ว่าจะเป็นระดับ Gold, Silver และ Member ที่สามารถรับเครื่องดื่มฟรีได้เมื่อสั่งอาหารในรายการที่กำหนด

การมอบโปรโมชันดับเบิ้ลพ้อยรับแต้มคูณสองเมื่อใช้บริการในช่วงเวลาที่กำหนด รวมถึงการมอบสิทธิพิเศษในการชิมเมนูใหม่สำหรับสมาชิก การทำระบบ Coffee Subscription สำหรับซื้อเครื่องดื่มชนิดใดก็ได้ที่ร่วมรายการในราคาแพคเกจสุดพิเศษ ตลอดจนการสะสมพอยท์เพื่อแลกรับส่วนลดเมนูอาหารเครื่องดื่มฟรี หรือสินค้าเอกซ์คลูซิฟ เช่น สิทธิพิเศษล่าสุด สมาชิกสามารถแลกแก้วน้ำ tumbler ฟรีได้ด้วยการใช้ 200 คะแนน ผ่านแอปพลิเคชัน THE COFFEE CLUB Thailand เป็นต้น ทั้งหมดนี้ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์เพื่อส่งมอบความคุ้มค่าสูงสุดสำหรับผู้บริโภคที่เป็นสมาชิก โดยในปีที่ผ่านมาการทำลอยัลตีโปรแกรมดังกล่าว ช่วยเพิ่มจำนวนสมาชิกในระบบเป็นจำนวน 170,000 ราย และคาดว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะสามารถเพิ่มยอดสมาชิกในปี 2567 ได้รวมทั้งสิ้น 250,000 ราย

“จากการดำเนินกลยุทธ์ดังกล่าว เดอะ คอฟฟี่ คลับ เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยผลักดันการเติบโตของธุรกิจเติบโตเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ทั้งนี้ เดอะ คอฟฟี่ คลับ ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเมนูใหม่พร้อมการบริการให้ตอบโจทย์อยู่เสมอ และมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมที่เป็นส่วนสำคัญของโลก เพื่อตอกย้ำความเป็น Neighborhood Café สำหรับลูกค้าคนไทยและต่างชาติ ให้ทุกคนสามารถสัมผัสประสบการณ์โมเมนต์ดี ๆ ที่มีได้ทุกวัน ทุกโอกาส” นางนงชนก กล่าวทิ้งท้าย