ผบ.มทบ.210 แจงข้อเท็จจริงกรณีเงินเดือนทหารเกณฑ์ทุกอย่างโปร่งใส
จากกรณีที่ทหารเกณฑ์ผลัด 2 ปี 2564 ซึ่งปลดประจำการ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2566 ขณะได้เข้าแจ้งความยังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครพนม โดยอ้างว่าเงินเดือนของพลทหารเดือนละ 9,000 บาท ที่ทางต้นสังกัดได้หักเป็นเงินฝากไว้ทุกเดือน เดือนละ 300 บาท รวมเป็นเวลา 20 เดือน ซึ่งจะต้องคืนให้เจ้าตัวในวันที่ปลดประจำการนั้น จนถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับ ซึ่งมีทหารในผลัดเดียวกันนี้อีกประมาณ 100 คน ก็ยังไม่ได้รับเช่นกัน จึงร้องขอให้ช่วยเป็นสื่อกลางในการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว
ต่อมาในวันที่ 7 ธ.ค. 66 พลตรีสถาพร บุญชู ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210ได้เชิญนายทองสิน วงค์คำ บิดาพลทหารที่ร้องเรียนว่า มทบ.210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง ยังไม่ได้คืนเงินออมที่หักไว้เป็นเงินออมเดือนละ 300 บาท จำนวน 20เดือน เป็นเงินคนละ 6,000 บาท ซึ่งตามปกติจะคืนให้ทหารในวันปลดประจำการแต่ผ่านมากว่า 1 เดือน ก็ยังไม่ได้รับเงินจำนวนดังกล่าวมาชี้แจงทำความเข้าใจต่อกรณีนี้
โดยพลตรีสถาพร เปิดเผยว่ารายได้พลทหารจะแบ่งเป็นเงินเดือน 4,400 บาทแบ่งเป็นค่าครองชีพ 2,624 บาท และเบี้ยเลี้ยงวันละ 96 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 10,000 บาทต่อเดือน แต่จะหักค่าประกอบอาหารวันละ 70 บาทและค่าประกันชีวิต 420 บาท เป็นเวลา 4 เดือน ทำให้แต่ละเดือนพลทหารจะได้รับเงินผ่านบัญชีคนละประมาณ 7 พันบาท โดยเป็นการโอนเงินผ่านกรมบัญชีกลางซึ่งต้นสังกัด มทบ.210 จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินตรงนี้แต่อย่างใด
ส่วนประเด็นเงินออมที่หักเดือนละ 300-500 บาท ชี้แจงว่าได้ยกเลิกการออมเงินให้กับพลทหารมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 แต่พลทหารอาจเข้าใจผิดและไม่ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจึงไปแจ้งความ ซึ่งตอนนี้ได้ชี้แจงให้ทั้งผู้ปกครองและพลทหารได้เข้าใจถูกต้องตามระเบียบแล้ว
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ซักถามนายทองสิน พ่อของพลทหารที่ร้องเรียนถึงการชี้แจงไขข้อข้องใจว่ายังค้างคาใจใดอีกหรือไม่ ซึ่งนายทองสินขอให้ดูเอกสารหลักฐานการเบิกจ่ายที่เป็นลายลักษณ์อักษรเพิ่มเติมด้วยตาของตนเอง เจ้าหน้าที่จึงได้พาไปยังที่ทำการกองร้อยที่ 210 เพื่อนำสมุดตลอดจนเอกสารที่เกี่ยวข้องพร้อมทั้งอธิบายถึงระเบียบและขั้นตอนเบิกจ่าย โดยผ่านโอนระบบการนำจ่ายเงินเดือนโอนบัญชีธนาคารของพลทหารโดยตรง พร้อมย้ำว่าทางกองทัพบกได้ยกเลิกการหักออมเงินนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 ที่ผ่านนั้นแล้ว จากนั้นได้มีการสอบถามอีกประมาณ 30 นาที จนกระทั่งเป็นที่พอใจของนายทองสินแล้วจึงได้เดินทางกลับ
