โควิด ไข้หวัดใหญ่ ระบาดหนัก ป่วยรวมเฉียดครึ่งแสน เตือน 4 พื้นที่ระบาด

24 มิ.ย. 67

สำนักงานป้องกันควบคุมโรค โคราช เผย โควิด - ไข้หวัดใหญ่ ระบาดหนัก ใน 4 จังหวัดอีสาน พบ ผู้ป่วยโควิด 29,354 ราย ตาย 12 คนขณะที่ ไข้หวัดใหญ่ พบป่วย 16,626 ราย ตาย 5 คน เร่งประชาสัมพันธ์วิธีป้องกัน

วันที่ 24 มิถุนายน 2567 นายแพทย์ ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคโควิด 19 และ ไข้หวัดใหญ่ ในช่วงนี้ ยังคงมีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่พบมากเป็นกลุ่มก้อนในโรงเรียน เรือนจำ ค่ายทหาร วัด และโรงงานอุตสาหกรรม โดยสถานการณ์ โควิด 19 ในเขตสุขภาพที่ 9 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 – 17 มิถุนายน 2567 มีผู้ป่วยสะสมแล้ว 29,354 ราย และเสียชีวิตสะสม 12 ราย

โควิด 19 พบผู้ป่วยมากที่สุด แยกเป็นรายจังหวัด ดังนี้

จ.นครราชสีมา : พบผู้ป่วยมากสุด 13,636 ราย เสียชีวิตสะสม 3 ราย
จ.สุรินทร์ : พบผู้ป่วย 7,090 ราย เสียชีวิตสะสม 8 ราย
จ.บุรีรัมย์ : พบผู้ป่วย 4,694 ราย ยังไม่มีผู้เสียชีวิต
จ.ชัยภูมิ : พบผู้ป่วย 3,934 ราย เสียชีวิตสะสม 1 ราย

ซึ่งกลุ่มอายุที่ป่วยสูงสุด คือ กลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไป รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 25-34 ปี และกลุ่มอายุ 35-44 ปี ตามลำดับ

ส่วนสถานการณ์ โรคไข้หวัดใหญ่ ในเขตสุขภาพที่ 9 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 – 17 มิถุนายน 2567 มีผู้ป่วยสะสม 16,626 ราย เสียชีวิตสะสม 5 ราย

โรคไข้หวัดใหญ่ พบผู้ป่วยมากที่สุด แยกเป็นรายจังหวัด ดังนี้

จ.นครราชสีมา : พบผู้ป่วย 9,163 ราย เสียชีวิตสะสม 4 ราย
จ.ชัยภูมิ : พบผู้ป่วย 3,019 ราย เสียชีวิตสะสม 1 ราย
จ.สุรินทร์ : พบผู้ป่วย 2,438 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
จ.บุรีรัมย์ : พบผู้ป่วย 2,006 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต

กลุ่มอายุที่ป่วยสูงสุด คือ กลุ่มอายุ 5-9 ปี รองลงมาคือกลุ่มอายุ 15-24 ปี และกลุ่มอายุ 25-34 ปี ตามลำดับ

วิธีป้องกัน ดูแลสุขภาพในช่วงการระบาดของ โควิด และ ไข้หวัดใหญ่

1. เว้นระยะห่าง
2. สวมหน้ากากอนามัย โดยเฉพาะรู้สึกไม่สบาย และอยู่ในสถานที่แออัด
3. ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ วิธีนี้สามารถช่วยลดการแพร่เชื้อโรคโควิด 19 และไข้หวัดใหญ่ได้
4. หากสงสัยว่าป่วย ควรตรวจหาเชื้อเบื้องต้นด้วย ATK ถ้าผลตรวจเป็นบวก ควรสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น แล้วให้รีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา

สำหรับกลุ่ม 608 ได้แก่ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ หากป่วยอาจมีอาการรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ จึงควรปฏิบัติตามสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด อย่างน้อย 5 วัน หรือตามคำแนะนำของแพทย์

หากอาการไม่ดีขึ้นในระยะเวลา 1-2 วันให้รีบไปพบแพทย์ และที่สำคัญคือ ควรรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกๆ ปี เป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน กรมควบคุมโรค โทร. 1422

advertisement

ข่าวยอดนิยม