พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ยืนยันไม่มีสองมาตรฐาน คดี บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก ทุกอย่างทำตามระเบียบ

พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ยืนยันไม่มีสองมาตรฐาน คดี บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก ทุกอย่างทำตามระเบียบ ไม่หวั่นหลังโดนฟ้องกลับ ลั่นวันไหนไปขึ้นศาลขอเชิญทุกคนไปรับฟังจะได้รู้ใครดีใครชั่ว

รายการ คลุกวงใน เปิดทุกประเด็นฮอต เขย่าลึกทุกประเด็นร้อน วันนี้พบกับแขกรับเชิญสุด exclusive พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ก.ตร.และกรรมการสอบ 2 เคสบิ๊กตำรวจ ถามตรง ถามจริงกับประเด็น 'แง้มผลสอบเชือดบิ๊กตำรวจ คาใจ 2 มาตรฐาน'

พล.ต.อ.วินัย ทองสอง เผยว่าเรื่องนี้เป็นการที่ทั้งสองฝ่าย คือ บิ๊กต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล และ บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล กล่าวหากัน จนเลยเถิดไปถึงสงครามตัวแทนคือ ทนายและบุคคลรอบข้าง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีท่านอยากรู้ว่าที่มาที่ไปเรื่องนี้เป็นอย่างไรจึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน มีการเรียกทั้งสองคนมาสอบถามและชี้แจง จากการตรวจสอบพบว่ามีการขัดแย้งกันตั้งแต่ระดับลูกน้องลงมาจริง คดีของทั้งสองคนอยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว ต่างฝ่ายต่างงัดหลักฐานขึ้นมาสู้ คณะกรรมการก็มีหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง แล้วนำทั้งหมดไปให้พนักงานสอบสวนและผู้ที่เกี่ยวข้องไปดูแล

พล.ต.อ.วินัย ทองสอง เผยอีกว่า ความขัดแย้งครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ แต่เกิดจากการที่แต่ละทีมเข้าไปทำหน้าที่ในคดี เช่น คดีกำนันนก คดีเป้รักผู้การเท่าไหร่ แล้วเกิดการระแวงว่าจะมีการแจ้งความหรือเล่นงานกัน ประเด็นจึงลามไปถึงหัวหน้าของทั้งสองฝ่าย ส่วนกรณีที่เซ็นคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน ก็เป็นไปตามระเบียบที่หากข้าราชการตำรวจถูกกล่าวหาว่าทำผิดร้ายแรง ผู้บังคับบัญชาก็มีสิทธิให้ออกจากราชการไว้ก่อนเพื่อยับยั้งระงับเหตุ ซึ่งระเบียบนี้ใช้กับตำรวจทุกนาย ทุกระดับ ไม่ใช่ว่าเป็นใหญ่เป็นโตแล้วจะทำแบบหนึ่ง ยศเล็กๆ ทำอีกแบบหนึ่ง

ส่วนเรื่องที่ บิ๊กโจ๊ก ไปร้อง ก.ตร.ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติบริหารบุคคลไม่ถูกต้องนั้น ทาง ก.ตร.ก็พิจารณาแล้วว่าไม่มีใครเห็นว่าไม่ถูกต้อง จนเมื่อบิ๊กโจ๊กไปยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรม (ก.พ.ค.) ซึ่งก็ต้องให้คณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมพิจารณา หาก ก.พ.ค. พิจารณาแล้วผลออกมาเป็นอย่างไรสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ต้องปฏิบัติตาม เพราะ ก.พ.ค.ก็เหมือนศาลปกครองนั่นเอง ซึ่งเรื่องนี้ต้องรอผลจาก ก.พ.ค.ต่อไป

นอกจากนี้ พล.ต.อ.วินัย ยังเผยถึงกรณีที่ถูกบิ๊กโจ๊กฟ้องกลับว่า ตนในฐานะ ก.ตร.มีเจ้านายคือประชาชน เมื่อได้รับหน้าที่มาก็ต้องทำให้เต็มที่ไม่เกรงกลัว หรือโลเลไปมา เมื่อประชาชนอยากรู้เรื่องคดีนี้ตนมีหน้าที่จะต้องสื่อสารรายงานความคืบหน้าให้ทุกฝ่ายได้รับทราบ แต่ตอนนี้ตนโดนฟ้องก็มีความจำเป็นจะต้องปกป้องตัวเองว่าตนไม่ได้พูดใส่ร้ายใคร มีหลักฐาน ก็ขอบคุณที่ให้โอกาสตนเอาข้อมูลที่รู้มาชี้แจงต่อสาธารณะ เพราะต้องปกป้องชื่อเสียงตนเอง และผลเรื่องนี้จะแสดงให้เห็นคนดีคนเลว คนที่จะมาเป็นผู้นำตำรวจจะต้องมีคุณธรรมจริยธรรม วันที่ตนขึ้นศาลก้อยากให้สื่อมวลชน หรือกระทั่งคนธรรมดาไปฟังจะได้รู้ว่าใครทำดีใครทำชั่ว น้องจะฟ้องพี่ก็ไม่ว่าอะไร