"โอ๊ต ท่าทราย" อดีตนักมวยร้องสื่อถูกยูทูบเบอร์ชื่อดัง "โค้ก ซีโร่" ชักปืนยิงทะลุขา ปมหนี้แทงบอล ลั่นเพื่อนกันไม่น่าทำกันขนาดนี้ กลัวอิทธิพลจนต้องขอความคุ้มครอง
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายอติคุณ เนื่องพิมพ์ อายุ 38 ปี หรือ โอ๊ต ท่าทราย ว่าเมื่อวันที่ 12 ก.ค.67 เวลาประมาณ 23.00 น. ที่ผ่านมา ถูกนายอนุสรณ์ ทับเทศ อายุ 42 ปี มีชื่อในวงการยูทูบเบอร์ว่า “โค้ก ซีโร่” มียอดผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคน ชื่อช่อง “กาลครั้งหนึ่ง by โค้ก ซีโร่” ใช้อาวุธปืนขนาดลูก 9 มม.ยิงนายอติคุณ ทำให้ได้รับบาดเจ็บกระสุนเข้าหน้าแข้งด้านขวาทะลุออกด้านหลัง เหตุเกิดบริเวณใกล้ร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่ ต.เสาธงหิน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
ความคืบหน้าล่าสุด โอ๊ต ท่าทราย ได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล 2 วัน หลังจากที่ถูกยิง ซึ่งวันนี้นายอติคุณได้ออกจากโรงพยาบาล จึงเดินทางเข้าร้องเรียนกรณีดังกล่าวกับทาง ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ ดร.แก้ว ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาอัยการจังหวัดนนทบุรี ประธาน กต.ตร.สภ.รัตนาธิเบศร์ และผู้ก่อตั้งเพจ “ดร.แก้วช่วยได้” เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยและหวั่นเกรงเรื่องอิทธิพลฝั่งคู่กรณี พร้อมให้ติดตามความคืบหน้าในคดีกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม และอยากเคลียร์ให้นัดมาเจอกันเพื่อคุยตกลงกันเพราะเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน
จากการสอบถาม นายอติคุณ หรือโอ๊ต ท่าทราย เล่าว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตามโซเชียลที่ออกไป คือเป็นเรื่องของตนและโค้ก ที่มีปัญหากันเรื่องเคลียร์เงินไม่ลงตัว ซึ่งก่อนจะเกิดเรื่องตนได้คุยกับโค้กไว้แล้วว่าตนจะรับผิดชอบทุกอย่าง ที่ตนสร้างปัญหาไว้ ซึ่งตามในสื่อก็ลงว่าตนไปเป็นหนี้ ตนก็ยอมรับว่าจริง แต่ซึ่งเรื่องหนี้ไม่ได้เป็นหนี้สินการยืมเงิน แต่เป็นเรื่องการฝากแทงบอล โค้กได้ฝากตนแทงบอลตอนเมา ทำให้สื่อสารเข้าใจกันผิดไป ตนก็ได้แสดงตนรับผิดชอบเรื่องนี้ เมื่อวันเกิดเหตุทางโค้กได้นัดตนไปคุยกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เพื่อเคลียร์ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตนจึงตัดสินใจที่จะไปเพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนกันคงจะคุยกันได้ ตนไปตัวคนเดียวไม่ได้พกอาวุธ ไปโดยตัวเปล่า
เมื่อไปถึงเจอโค้กได้คุยกันสักพัก โค้กเริ่มโวยวายและด่าตน และควักอาวุธปืนขึ้นมา ตนจึงพูดไปว่าไม่ต้องใช้ปืน ถ้าจะมีอะไรให้วางปืนลงแล้วมาต่อยกับตนตัวต่อตัว แต่เขาไม่ฟังเขาควักปืนขึ้นมา ตนจึงเอามือปัดปืนเพื่อจะกดลงแต่ไม่ทัน ทำให้ตนโดนยิงบริเวณหน้าแข้ง ทำให้ตนล้มลงก่อนที่จะโดนโค้กใช้ปืนตบที่หน้าซ้ำ วันนี้ที่ตนเดินทางมาร้องเรียน ดร.แก้ว เพราะตนไม่รู้เรื่องทางคดีและเป็นเด็กวัยรุ่นตัวคนเดียวคนธรรมดา ตนเลิกเกเร ตนไม่อยากเอาชีวิตไปแลกเพราะตนต้องดูแลแม่ และตนกลัวเรื่องอิทธิพล เพราะโค้กเป็นคนที่มีชื่อเสียง แต่ตนไม่มีอะไรเลย ตนจึงอยากให้ทาง ดร.แก้วช่วยตนเพื่อคุ้มครองเรื่องความปลอดภัย และอยากให้นัดโค้กเข้ามาคุยกับตนเข้ามารับผิดชอบตนให้เป็นไปตามกระบวนการ
ซึ่งหลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นทางโค้กได้ส่งข้อความมาหาและให้ลูกน้องเข้ามาเยี่ยมตนที่โรงพยาบาล แต่หลังจากที่ลูกน้องเขาเข้ามาแล้ว นอนกลางดึกเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ตัวโค้กเองได้เข้ามาเยี่ยมจนถึงในโรงพยาบาลมากับเพื่อนประมาณ 4 คน พร้อมกับหิ้วกระเช้ามาให้ และมาถามตนเรื่องการเยียวยา แต่ตนยังไม่ได้ให้คำตอบเพราะว่าตนยังเสียใจที่ตนเคยเป็นเพื่อนกับโค้ก แต่โค้กเลือกที่จะใช้อาวุธปืนมายิงตน ตัดเพื่อนด้วยเรื่องเงินแค่ 7 หมื่น เป็นเรื่องของการแทงพนันบอล ซึ่งตนก็ไม่ได้เป็นหนี้โค้กโดยตรง เพราะตนได้รับจากโค้กมาแล้วฝากเขาไปแทงอีกที ตนก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินที่ได้หรือเสีย แต่ตนก็แสดงความรับผิดชอบโดยการที่จะเอาเงินคืนให้ ตามที่แทงบอลไป ตอนนี้อยากให้ทางโค้กออกมาคุยกันโดยมีคนกลางมานั่งคุยด้วย เพราะตนอยากจะเซฟตัวเองให้ดีเพราะเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ตนระแวงไม่ไว้ใจ และตนก็ไม่มีเพื่อนฝูงเยอะเหมือนเขา
ส่วนทางด้าน ดร.ปรเมศร์ กล่าวว่า เบื้องต้นจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพราะที่นี่เมืองนนทบุรีไม่ใช่เมืองเถื่อน ที่จะมากระทืบหรือมายิงกันโดยไม่สนใจอะไร ตนจึงยินดีที่ได้รับเคสนี้มาเพื่อช่วยเหลือ และจะเข้าประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่ เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ตนจะต้องดูรายละเอียดทั้งสองฝั่ง เพราะตนต้องฟังจากปากโค้กด้วยว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร แต่ตอนนี้ตนจะรับรองเรื่องความปลอดภัยของโอ๊ตไว้ก่อน ตนรู้ว่าต่างคนต่างเป็นนักเลง เป็นเรื่องของวัยรุ่น ถ้าชกต่อยกันธรรมดาก็ไม่มีอะไร แต่เหตุการณ์นี้เป็นการยิงกัน ตนมองว่าเหตุการณ์นี้มันเป็นเหตุเกินไป เพราะทำแบบนี้ไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ต้องลดความเป็นนักเลงความมีอิทธิพลออกไป เพราะทุกคนต้องอยู่แบบเท่าเทียมกันไม่มีใครใหญ่กว่าใคร และทั้งโอ๊ตและโค้ก เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน ควรที่จะให้อภัยกันเพราะเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่ถึงขั้นที่จะต้องไปยิงกัน ถ้านักเลงจริงนัดต่อยกันเลยให้จบไป ใครสลบก็กลับบ้าน ถ้าจบเหตุการณ์นี้ได้ก็ไม่อยากให้ใครใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา ทางเดินนักเลงเดินได้ แต่ไม่จะต้องไม่เป็นอันธพาล นักเลงต้องนักเลงด้วยจิตใจ ถ้าอันธพาลก็พาลไปทั่ว
เบื้องต้นทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ในวันเกิดเหตุและได้เชิญตัวนายโค้ก ซีโร่ ให้เข้าไปพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.บางใหญ่ ซึ่งทางด้านนายโค้ก เข้ามาพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.บางใหญ่ ในทันที เข้ามาพร้อมของกลางคืออาวุธปืน ที่คาดว่าใช้ในการก่อเหตุ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำอาวุธปืนส่งตรวจที่ศูนย์และสอบปากคำนายโค้ก ซึ่งนายโค้กรับสารภาพว่าเป็นคนยิงจริง ส่วนในเรื่องรายละเอียดทางด้านคดี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนสอบสวนต่อไป
