ผู้เสียหายร้องทนายเดชา เล่าทั้งน้ำตาเกือบคิดสั้น หมดตัวเพราะขายตรง

9 ต.ค. 67

ผู้เสียหายร้องทนายเดชา เล่า ทั้งน้ำตาเกือบคิดสั้น หมดตัวเพราะขายตรง เผยมีการเชียร์ว่าถ้าอยากได้รายได้เยอะๆ ให้ขายบ้านขายรถขายที่ดินมาลงทุน

 

วันที่ 9 ต.ค.67 เวลาประมาณ 15.00 น. ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ พาผู้เสียหายมาแถลงข่าวต่อสื่อ ปมดรามาบริษัทฉาวเข้าข่ายแปลงร่างจากบริษัทขายตรงเป็นแชร์ลูกโซ่ 

ด้านคุณวิภารัตน์ หนึ่งในผู้เสียหาย ระบุว่า เป็นช่างเสริมสวย ช่วงโควิดใหม่ๆรายได้ไม่มี จึงอยากหารายได้เพิ่ม ก็เห็นแม่ทีมยิงแอดมาหาชวนหารายได้เพิ่มช่วงโควิด ก็เลยเข้าไปร่วม เข้าไปฟังกับเขา ก็เสียค่าสมัครไป 2,500 พอสมัครไปเขาก็พาไปเจอบอสที่บริษัท

บอสก็มาพูดเชิญชวน โชว์ความร่ำรวยนู่นนี่นั่น เราก็ชื่นชมเขาอีก เราก็เลยเข้าร่วมอีก 25,000 จากนั้นก็สมัครระดับซูเปอร์ไวเซอร์ 25,000 บาท และสูงสุดที่ระดับดีลเลอร์ 250,000 บาท

1728465484648

โดยระหว่างที่เข้าไปอบรมรับฟังในนั้นเขาจะบอกว่าถ้าอยากรวย ให้ขายบ้านไปเลย ขายรถไปเลย ขายที่ดินมาลงทุนเลย ซึ่งบางคนก็ยอมขายที่เพื่อมาส่งลูกทีมของตัวเอง เพื่อให้ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นระดับสูง 

ซึ่งมองว่ามันเป็นสิ่งที่น่ากลัว เพราะถ้าใครไม่รู้ตื่นลึกหนาบางอยู่ตรงนั้นจะพูดไม่ออก เพราะเขาบอกว่าเขาเสียภาษีบริษัทถูกต้องตามกฎหมาย 

ที่ผ่านมาเวลาคนรอบตัวเตือนเรา เราก็ไม่ยอมเชื่อฟัง เรายังไปว่าคนเหล่านั้นกลับด้วยว่าเป็นกบในกะลา แต่สุดท้ายมาเริ่มคิดได้หลังจากผลิตภัณฑ์ขายไม่ได้ กองอยู่ในบ้าน โดยสินค้า-ผลิตภัณฑ์เป็นพวกคอลลาเจน อาหารผิว 

1728465434965

โดยในระหว่างแถลงข่าว ทนายเดชา ได้ต่อสายหาผู้เสียหายอีกราย ชื่อว่าคุณปัด โดยเจ้าตัวเปิดเผยทั้งน้ำตาว่าเสียเงินไปหลายแสน เริ่มแรกจากการนำบัตรเครดิตพี่สาวมารูด ทุกวันนี้เครียดถึงขั้นอยากฆ่าตัวตาย จึงอยากให้สังคมและทนายช่วยกระทุ้งเรื่องนี้ เอาผิดไปจนถึงระดับตัวการใหญ่ เพราะเชื่อว่ายังมีผู้เสียหายที่ยังไม่แสดงตัวอีกจำนวนมาก

โดยในวันพรุ่งนี้ทนายเดชา จะพาผู้เสียหายหลายรายเข้าแจ้งความเอาผิดกับบริษัทดังกล่าว ที่ ปคบ.เพื่อให้ตำรวจมีการสืบสวนสอบสวนและดำเนินการผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด.

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส