เปิดข้อกฎหมาย บุคคลไม่ใช่หมอแต่ทำท่าตรวจร่างกาย ฟังเสียงหัวใจ มีโทษจำคุกกี่ปี

14 ต.ค. 67

อย่าหาทำ! จัดฉากแอบอ้างเป็นหมอ ทำท่าตรวจร่างกาย ฟังเสียงหัวใจ เข้าข่ายหมอเถื่อน โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สรุปปม บอสหมอเอก หนึ่งในผู้มีชื่อเข้าไปพัวพันกรณี ดิไอคอนกรุ๊ป ใช่หมอจริงหรือไม่หลังปรากฏภาพตรวจร่างกายและใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ Stethoscope ตรวจฟังหัวใจ ผู้ใดเห็นภาพดังกล่าวก็อาจเข้าใจว่า บอสหมอเอก เป็นหมอจริงๆ

โดยเรื่องนี้มีการตรวจสอบแล้ว พบว่า "บอสหมอเอก" เข้าข่ายหมอเถื่อน และท่าตรวจร่างกายฟังเสียงหัวใจ มีโทษจำคุก!

462888607_949036060591983_557

ดร.นายแพทย์ ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข มอบหมายให้กลุ่มตรวจสอบและปราบปรามการกระทำความผิดทางโซเชียล กองกฎหมาย ตรวจสอบข่าวที่ปรากฎในสื่อมวลชน เกี่ยวกับกรณีหมอคนดัง แอบอ้างเป็นแพทย์ของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด

โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ กรม สบส. ได้ดำเนินการตรวจสอบและสืบสวนแล้ว พบว่า “หมอเอก” หรือ นายฐานานนท์ (สงวนนามสกุล) ซึ่งทำการอ้างตนเป็นแพทย์ ของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด นั้น เป็นนักประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ แต่ใบประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์หมดอายุ และจากการตรวจสอบรายชื่อแพทย์จากฐานข้อมูลแพทยสภา พบว่าหมอเอก ไม่ได้อีกรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมแต่อย่างใด

ดังนั้น การตรวจร่างกายและฟังเสียงหัวใจของหมอเอกตามที่ปรากฏในสื่อนั้น เข้าข่ายการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 มาตรา 26 ฐานประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ขึ้นทะเบียนและได้รับอนุญาต (หมอเถื่อน) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อีกทั้ง สถานที่ให้บริการตรวจรักษาก็ไม่ได้ขออนุญาตและขึ้นทะเบียนเป็นสถานพยาบาล จึงเข้าข่ายการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 16 และ 24 ฐานประกอบกิจการ และดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต (คลินิกเถื่อน) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ กรม สบส. จะประสานแพทยสภา สภาเทคนิคการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

advertisement

ข่าวยอดนิยม