สนธิญา ร้อง ปปง. สอบเงิน 71 ล้าน ทนายตั้ม เหตุเป็นสำรองสว. อันดับ 4 

28 ต.ค. 67

 

สนธิญา ร้อง ปปง. สอบเงิน 71 ล้าน ทนายตั้ม เหตุเป็นสำรองสว. อันดับ 4 เตรียมยื่นเรื่องให้ประธานวุฒิสภาสัปดาห์หน้า ยันไม่ใช่ดิสเครดิตการเมือง 

วันที่ 28 ต.ค. 67 ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นาย สนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบ กรณีทนายตั้มกับคดีเงิน 71 ล้านบาท รวมทั้งแจ้งเบาะแสให้ ปปง. พิจารณาวินิจฉัย และยึดอายัดเงินจำนวนดังกล่าวก่อน เพื่อพิสูจน์ที่มาของเงินว่าถูกต้องตามกระบวนการกฎหมายหรือไม่ 

โดยมีนาย พีรธร วิมลโลหการ ผอ.กองบริหารจัดการทรัพย์สิน ในฐานะรองโฆษก ปปง. เป็นผู้รับมอบหนังสือร้องเรียน 

นายสนธิญา กล่าวว่า ถ้ากรณีที่ทนายตั้มเป็นทนายธรรมดา ตนก็คงไม่ติดใจอะไร แต่เนื่องจากทนายตั้มนั้นเป็นถึง เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ และอีกขาหนึ่งคือเป็นนักการเมือง ในฐานะเป็นว่าที่สมาชิกวุฒิสภาสำรอง อันดับที่ 4 ซึ่งตำแหน่งดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญกำหนดชัดว่า ไม่สามารถถอนตัวได้ ยกเว้นกรณีเสียชีวิต นั่นจึงทำให้บทบาทหน้าที่ของทนายตั้มนั้น หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมา ย่อมส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ หรือกระทบต่อจริยธรรม 

จึงเป็นที่มาที่ตนนำเรื่องกรณีที่ทนายตั้มถูกกล่าวหาพาดพิงเกี่ยวกับเงินจำนวน 71 ล้านบาทมาแจ้งเบาะแสให้ ปปง. เป็นผู้ตรวจสอบใน 3 ประเด็นคือ ประเด็นที่หนึ่ง เงินจำนวนดังกล่าวนั้น ไม่ว่าทนายตั้มจะได้มาด้วยเสน่หาหรือวิธีการใดก็ตาม อยากให้ตรวจสอบว่าเงินจำนวนดังกล่าวนั้นมีที่มาถูกต้องชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ประเด็นที่สองคือ ในเงินจำนวนดังกล่าวนั้น ทนายตั้มได้ชำระภาษีถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่  และประการสุดท้ายคือ จากกรณีที่พบว่า ภรรยาของทนายตั้มนำเงินจำนวน 40 ล้านบาทจากก้อนนี้ไปซื้อบ้าน เข้าข่ายลักษณะการแปลงทรัพย์สินอันเป็นการฟอกเงินหรือไม่ 

นายสนธิญา กล่าวว่า โดยเบาะแสที่ตนนำมายื่นในวันนี้ จะเป็นในส่วนของข้อมูลจากสำนักข่าวแห่งหนึ่งที่มีการเปิดโปงเรื่องดังกล่าว รวมทั้งข้อเท็จจริงที่ทนายตั้มยอมรับผ่านรายการโทรทัศน์ว่าเงินดังกล่าวนั้นมีอยู่จริง แต่อย่างไรก็ตาม คนไม่ก้าวล่วงในเรื่องของคดีความว่าเงินดังกล่าวนั้นทนายตั้มได้มาด้วยวิธีการใด เพราะถือเป็นเรื่องของกระบวนการทางกฎหมาย ในวันนี้ที่ตนมายื่นให้ตรวจสอบก็ในฐานะพลเมืองคนหนึ่งและทนายตั้มยังคงอยู่ภายใต้มาตรา 107 วรรคสองของรัฐธรรมนูญ รวมทั้งทนายตั้มได้ทำงานเป็นบุคคลสาธารณะ ย่อมมีสิทธิ์ที่จะต้องถูกตรวจสอบได้ 

แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ปปง. ว่า เรื่องดังกล่าว ปปง. มีอำนาจในการตรวจสอบหรือไม่ ตนเพียงแค่มาแจ้งเบาะแส และไม่ได้บอกว่าทนายตั้มทำผิดหรือไม่ผิด รวมทั้งยืนยันว่านี่ไม่ใช่เป็นการดิสเครดิตทางการเมือง และไม่เคยรู้จักทนายตั้มเป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด ตนมองเพียงแค่ว่า สิ่งไหนประจักษ์ไม่ชัดเจน ตนก็แค่ยื่นเรื่องเพื่อตรวจสอบให้ประจักษ์ชัดว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ นอกจากนี้ ตนเตรียมจะยื่นเรื่องดังกล่าวให้ประธานวุฒิสภาตรวจสอบด้วยภายในสัปดาห์หน้า

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส