เปิดคลิปเสียง EP.1  ทนายเสน่หา 71 ล้าน พี่อ้อย ตอบแล้วรู้จัก ทนายตั้มได้ยังไง?

28 ต.ค. 67

 

เปิดคลิปเสียง EP.1  ทนายเสน่หา 71 ล้าน พี่อ้อย ตอบแล้วรู้จัก ทนายตั้มได้ยังไง?ก่อนโดนต้มสูญเงิน 71 ล้าน ลากไส้กินหรูอยู่แพง ค่าใช้จ่ายออกให้ทุกอย่าง 

จากกรณีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ พี่อ้อย เศรษฐินีเจ้าของธุรกิจในประเทศฝรั่งเศส เข้าร้องเรียนกับ นาย สนธิ ลิ้มทองกุล นักข่าวอาวุโส ผู้ก่อตั้งสื่อในเครือผู้จัดการ กรณีที่แจ้งความดำเนินคดีกับนาย ษิทธา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ทนายความชื่อดัง ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน จำนวนเงิน 71 ล้านบาท 

สืบเนื่องจาก ทนายตั้มเสนอทำแพลตฟอร์มขาย ลอตเตอรี่ออนไลน์ โดยผู้เสียหายหลงเชื่อให้เงินลงทุน 2 ล้านยูโร หรือประมาณ 71 ล้านบาท แต่การดำเนินงานไม่สำเร็จตามกำหนดเวลา เมื่อทวงถามขอเงินคืนกลับเรื่องเงียบ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ 

ต่อมาวันที่ 28 ต.ค. 67 เฟซบุ๊กเพจ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” โพสต์คลิปวิดีโอพี่อ้อย และพี่น้อย ซึ่งเป็นเลขาพี่อ้อย เดินทางมาร้องเรียน และให้ข้อมูลกับนาย สนธิ และทีมงานถึงเรื่องดังกล่าว 

พร้อมข้อความระบุว่า “จุดเริ่มต้นที่มา ทนายเสน่หา 71 ล้าน EP.1 เปิดที่มา จากปากผู้เสียหาย รู้จัก “ทนายตั้ม” ก่อนโดนต้ม สูญเงิน 71 ล้าน พร้อมลากไส้ กินหรูอยู่แพง ค่าใช้จ่ายออกให้ทุกอย่าง” 

เมื่อถามว่า พี่อ้อยรู้จักชื่อเสียงของนายษิทธา เบี้ยบังเกิดได้อย่างไร 

พี่อ้อย : ในเฟซบุ๊ก เป็นแฟนเพจเขา เป็นแฟนคลับตั้งแต่เขาดังเรื่องลอตเตอรี่ ครูปรีชา ไม่ได้ติดต่อส่วนตัว ผ่านเลขาติดต่อให้หน่อย เป็นเรื่องโรงเรียน เพราะโรงเรียนกำลังก่อสร้าง กำลังจะรีโนเวทโรงเรียนใหม่ ก็ให้เลขาดำเนินการหมดเลย 

พี่น้อย เลขาฯพี่อ้อย : ให้มาดูแลเรื่องกฎหมาย สัญญาว่าจ้างเหมาผู้รับเหมา และเป็นที่ปรึกษาของพี่อ้อย เนื่องจากเพิ่งกลับมาอยู่ไทย และไม่ค่อยเก่งเรื่องกฎหมายไทย จึงให้มาคอยดูแล และคอยซัพพอร์ต คอยแนะนำทุกอย่าง 

ช่วงต้นปี 65 ตอนที่แตงโมตายพอดี นัดวันนั้นเลย วันที่ 24 ก.พ. เขาก็ร่างสัญญา กลับไปปุ๊บเราก็จ้างเขา 30,000 บาท ในการเดินทางมาวันนั้น และพอเขากลับไปเขาก็ร่างสัญญาส่งมา และเก็บค่าร่างสัญญา 300,000 บาท หลังจากนั้นก็คุยกันว่าจะให้เป็นที่ปรึกษา จ้างเดือนละ 300,000 บาท แต่ไม่ได้โอนเข้าบัญชีเขา โอนเข้าบัญชีพี่สาวเมีย เขาบอกว่าไม่ต้องโอนเข้าบัญชีบริษัท ทุกเรื่องโอนเข้าบุคคลหมด 

พี่อ้อย : เดือนละ 300,000 บาท เป็นเวลาหนึ่งปี แล้วเราบอกยกเลิก เพราะเขาไม่มาทำอะไรให้เลย 

พี่น้อย : เราก็เลยบอกว่า งั้นเราก็ตกลงจ้างเป็นเคสก็แล้วกัน ถ้าเคสไหนมีความต้องการปรึกษาก็จะจ่ายเป็นเคสไป แต่เขาก็เคยมาคุยกับว่าให้ช่วยคุยกับพี่อ้อยให้หน่อยว่า ขอต่ออีกหนึ่งปีได้มั้ย เราก็ไม่กล้าพูด เพราะคิดว่าเขาก็ไม่ได้ทำอะไร แล้วจะมานั่งกินเงิน 300,000 บาท ให้ลูกเขาไม่ดีกว่าเหรอ เราก็มานั่งคิด 

เมื่อถามว่าระหว่างนั้นเขาไปหาพี่อ้อยที่ฝรั่งเศสหรือไม่ 

พี่อ้อย : บ่อยมาก ก็เงินพี่อ้อยนี่แหละ ออกให้ทุกอย่าง บิสสิเนสคลาส เขาจองเอง เขาไปกันทั้งครอบครัว อย่างล่าสุดก่อนที่จะแตกแยกกันคือไปเที่ยวฟินแลนด์ 

เมื่อถามว่า สมมติเขาไม่คืนเงินแล้วมาขอโทษเฉยๆ จะยอมหรือไม่ 

พี่อ้อยและพี่น้อยประสานเสียงเดียวกันว่า “ไม่” 

เมื่อถามว่า และสมมติว่าเขายอมหาเงินมาคืนให้ 

พี่น้อย : ก็แล้วแต่ศาล ยืนยันว่าไม่ยอมความ เอาให้ถึงที่สุด เพราะรู้สึกเจ็บใจ แบบเคยให้ใจคนไปให้มาก 

พี่น้อย : มันไม่ใช่ครั้งสองครั้ง เรามาเจอหลังจากที่เจอรถเบนซ์ค่ะ 

พี่อ้อย : เราคิดว่าที่ผ่านมาๆ เอาทุกช็อต 

พี่น้อย : พี่อ้อยให้กุญแจบ้านชีวาด้วยนะคะ กุญแจรถทุกอย่างไว้ใจมาก 

พี่อ้อย : เหมือนพี่เหมือนน้อง เวลามานอนโรงแรมก็ขนลูกขนเต้ามาอยู่โรงแรมเดียวกันหมด ก็นึกอยู่ว่าเอามาทำไม แต่เราก็จ่ายให้ ใช้ชีวิตแบบหรูหรา 

ขณะที่เพจดังกล่าวโพสต์ข้อความอีกว่า “EP.1 เปิดที่มา จากปากผู้เสียหาย รู้จัก “ทนายตั้ม” ก่อนโดนต้ม สูญเงิน 71 ล้าน พร้อมลากไส้ กินหรูอยู่แพง ค่าใช้จ่ายออกให้ทุกอย่าง รอฟังคลิป ต่อไป EP.2 วันนี้ (28-10-67) หนึ่งทุ่มตรง 19.00 น. ความจริงมีหนึ่งเดียว”

 

ขอบคุณภาพ/ข้อมูล : เพจ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ”

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส