โวยลั่น! คนไข้หายตัวสุดท้ายจมน้ำดับ ญาติฉะรพ.ปัดรับผิดชอบแถมกล้องเสียทุกจุด (คลิป)

27 ธ.ค. 63

กรณีเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.63 เวลา 01.00 น. นายชยพล สุขสร หรือ เชษฐ อายุ 46 ปี ชาวอ.เชียรใหญ่ เดินทางไปรักษาอาการป่วยที่ รพ.เชียรใหญ่ และหายตัวไป กระทั่งไปพบร่างนายชัยพล ลอยขึ้นอืดอยู่กลางคลอง กู้ภัยต้องใช้เรือเพื่อที่จะใช้เชือกคล้องแล้วลากศพผู้ตายเข้ามาฝั่งคลองเชียรใหญ่ บ้านเภาเคือง หมู่ 3 ต.เชียรใหญ่ อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช

560535

ล่าสุดวันที่ 27 ธ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช นายนิยม มากเมือง อาสากู้ภัยใต้เต็กเชียรใหญ่ พาทีมข่าวไปยังสะพานข้ามคลองเชียรใหญ่ ซึ่งคาดว่าเป็นจุดที่นายชยพล พลัดตกน้ำลงไป ตั้งอยู่ห่างจาก รพ.เชียรใหญ่ ประมาณ 2.6 กิโลเมตร

443048

นายนิยม เปิดเผยว่า นายชยพล หายออกจากโรงพยาบาล ตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค.63 เวลา 01.00 น. ซึ่งที่ผ่านมาทางญาติได้ออกตามหาจนทั่วแต่ก็ไม่เจอตัว จึงคิดว่านายชยพล อาจจะพลัดตกน้ำ ญาติจึงได้ประสานทางกู้ภัยล่องเรือตามหา ซึ่งใช้เวลาตามหาอยู่ 1-2 ชั่วโมง ก็เห็นร่างของนายชยพล ลอยติดผักตบชวา ห่างจากฝั่งประมาณ 20 เมตร กู้ภัยจึงได้ใช้เชือกผูกที่อกและขาของผู้เสียชีวิต พร้อมกับลากขึ้นฝั่ง

573177

ทั้งนี้สภาพศพของนายชยพล ลักษณะเหมือนเสียชีวิตมา 4-5 วัน ศพเริ่มอืดพอง ผิวหนังหลุดลอก ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย สวมเสื้อโรงพยาบาล และสวมกางเกงในตัวเดียว แต่ไม่สวมกางเกงของโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม ตนคาดว่านายชยพล น่าจะเสียชีวิตตั้งแต่วันที่หนีออกจากโรงพยาบาลแล้ว ทำให้ไม่มีใครเจอตัว

426779

ล่าสุดวันที่ 29 ธ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับ แม่ชีพรศรี สุขสอน อายุ 56 ปี พี่สาวของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นคนเฝ้าไข้ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้น้องชายมีอาการชัก เนื่องจากดื่มเหล้าจึงเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.63 ซึ่งในคืนเกิดเหตุนั้น น้องชายบอกกับตนว่าอยากกลับบ้าน ซึ่งเริ่มพูดเยอะขึ้นเรื่อย ๆ หมอจึงได้ฉีดยาระงับประสาทให้กับน้องชาย ในเวลา 23.30 น. แต่แทนที่จะดีขึ้น อาการกลับแย่ลง เพราะน้องชายเริ่มมีอาการเบลอ ตัวสั่น นอนร้องไห้และบ่นว่าจะกลับบ้าน

382907

ทั้งนี้น้องชายได้ออกไปนั่งพักตากอากาศที่ระเบียงริมทางเดิน ซึ่งตนเห็นว่าน้องชายไม่ได้มีอาการคลุ้มคลั่ง จึงได้เข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ 5 นาที แต่เมื่อออกมาจากห้องน้ำ ก็พบว่าน้องชายหายตัวไปแล้ว ตนและพยาบาลจึงรีบออกเดินตามหา และไปหา รปภ. หน้าโรงพยาบาล เพราะโรงพยาบาลเข้าออกได้ทางเดียว ซึ่ง รปภ.ยืนยันว่าไม่มีผู้ป่วยเดินผ่านประตูออกนอกโรงพยาบาลไป ตนจึงได้โทรแจ้งตำรวจ โดยตำรวจ สภ.เชียรใหญ่ จึงได้เดินทางมาที่โรงพยาบาล ซึ่งตอนนั้นค่อนข้างดึก ตำรวจจึงบอกให้ตนไปแจ้งความในวันรุ่งขึ้น และค่อยช่วยกันหาภายหลัง

512850

กระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 22 ธ.ค.63 ตนก็ไปที่ รปภ. เพื่อติดต่อขอดูกล้องวงจรปิด แต่ทาง รปภ. อ้างว่าไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง และกำลังจะออกเวร ตนจึงเดินทางไปที่ สภ.เชียรใหญ่ อีกครั้ง ซึ่งทางตำรวจก็ออกตามหาน้องชาย และทางญาติก็ประกาศตามหาทั้งทางเฟซบุ๊กและใบประกาศ แต่ก็ไม่มีใครเจอ โดยสถานที่สุดท้ายมีคนเจอน้องชายเดินไปนั่งอยู่ที่คอสะพานข้ามคลองเชียรใหญ่ จึงเชื่อว่าน้องชายอาจจะพลัดตกน้ำ ซึ่งสุดท้ายก็เจอศพน้องชายจริง ๆ

959087

อย่างไรก็ตาม ญาติไม่ได้ติดใจการเสียชีวิตของน้องชาย แต่ติดใจเรื่องการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ เพราะโรงพยาบาลก็ไม่ยอมเปิดกล้องให้ดู กล้องของเทศบาลก็เสีย ทำให้ตามหาน้องชายได้ล่าช้า ซึ่งจนถึงตอนนี้ทาง รพ.เชียรใหญ่ ก็ไม่เคยติดต่อหรือแสดงความรับผิดชอบ

480177

สำหรับงานศพของนายชยพล สุขสอน จัดขึ้นที่บ้านในพื้นที่หมู่ 5 ต.ไสหมาก อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า โดยนายสมปอง สุขสอน อายุ 58 ปี พี่ชายของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้น้องชายเคยดื่มเหล้าหนัก แต่เนื่องจากสุขภาพไม่ดีจึงได้หยุดดื่มไปนานแล้ว กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ น้องชายได้เริ่มดื่มเหล้าอีกครั้งจนมีอาการชัก และนำตัวส่ง รพ.เชียรใหญ่ เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.63 ซึ่งตนยืนยันว่าน้องชายไม่ได้มีอาการป่วยทางจิต แต่ในวันเกิดเหตุนั้นเจ้าตัวเริ่มโวยวายเพราะอยากกลับบ้าน จนหมอต้องฉีดยาระงับประสาท แต่ในทางกลับกัน เมื่อน้องชายได้รับยานั้น ทำให้เริ่มสติหลุดมากขึ้น ส่งเสียงดัง ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จนสุดท้ายน้องชายก็เดินออกจากโรงพยาบาล

940088548915

นายสมปอง กล่าวต่อว่า ตั้งแต่เกิดเรื่อง ตนก็ยังไม่รู้เลยว่าน้องชายออกจากโรงพยาบาลได้อย่างไร แม้จะขอดูกล้องวงจรปิดก็ไม่มีใครมาอำนวยความสะดวก และตั้งข้อสงสัยว่า รปภ.ของโรงพยาบาลทำอะไรอยู่ตอนที่น้องชายเดินออกจากโรงพยาบาล ซึ่งตนมั่นใจว่าเขาเดินออกจากทางประตูหน้าแน่นอน เพราะเขาคงจะปีนกำแพงโรงพยาบาลไม่ไหว ซึ่งตนไม่ได้ติดใจเรื่องการตายของน้องชาย แต่ติดใจเรื่องมาตรฐานการดูแลคนไข้ของโรงพยาบาล

602441

อย่างไรก็ตาม จริง ๆ แล้วตนก็คิดว่าน้องชายอาจจะถูกรถชน หรือมีเหตุร้ายเกิดกับเขาจนตกลงไปในน้ำ แต่ก็ไม่มีหลักฐาน จึงไม่สามารถเอาผิดกับใครได้ ซึ่งตนก็ทำใจไม่ได้กับการตายของน้องชาย แต่คิดเสียว่าถึงวาระที่น้องชายต้องตาย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม