เมื่อวันที่ 19 พ.ค.64 เฟซบุ๊ก Maruth Bae Saengsastra ของนายมารุต แสงศาสตรา ทายาทเจ้าของกลุ่มบริษัท DCC - บริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด (มหาชน) โพสต์ภาพและคลิปรถบิ๊กไบก์ดูคาติคันหนึ่ง ที่ขี่เฉี่ยวรถหรู McLaren 720S คู่ใจ แต่ดูเหมือนคู่กรณีไม่ยอมหยุดลงมาดู กลับขี่หนีออกไปดื้อ ๆ
โดยนายมารุต ได้โพสต์ข้อความว่า “คุณชนผมแล้วหนี รถผมเป็นรอย อย่าคิดว่าคุณจะรอด ใครทราบเบาะแสช่วยแจ้งผมด้วยครับ ขอบคุณครับ (2 ขฬ 8641 Ducati สีแดง) ปล.ผมมีคลิปหน้าหลัง กล้องความละเอียด 4k #เจอตัวยอมรับสารภาพเรียบร้อยครับ #รายละเอียดในคอมเมนต์”
หลังจากที่มีการโพสต์เฟซบุ๊กและช่วยให้ตามหาเจ้าของบิ๊กไบก์คันนี้ออกไป พร้อมทั้งมีหลักฐานทั้งกล้องหน้ากล้องหลังชัดระดับ 4K ทำให้ตำรวจ สน.สุทธิสาร สามารถควบคุมตัวคู่กรณีได้เรียบร้อยแล้ว
ล่าสุดวันที่ 19 พ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยัง สน.สุทธิสาร พบว่ารถบิ๊กไบก์คันสีแดง ป้ายทะเบียน 2 ขฬ กรุงเทพมหานคร 8641 จอดอยู่ที่ สน.สุทธิสาร มีร่องรอยขูดบริเวณท่อของรถ ส่วนรถของนายมารุต ผู้เสียหาย ได้นำเข้าศูนย์ซ่อมแล้ว
นายมารุต แสงศาสตรา เจ้าของรถผู้เสียหาย กล่าวว่า ขณะที่ตนกำลังขับรถกลับบ้าน ก็ได้มีรถบิ๊กไบก์คันดังกล่าว ได้ขี่เข้ามาเบียดชนที่บริเวณประตูนั่งผู้โดยสารอย่างแรง ขณะนั้นตนก็รู้สึกตกใจ สังเกตเห็นว่าคนขับรถบิ๊กไบก์ขี่หนีไปอย่างรวดเร็ว ไม่จอดรถมาสอบถามแม้แต่น้อย ตอนนั้นถ้าคู่กรณีจอดรถพูดคุยกัน เรื่องทุกอย่างก็คงจะจบ ตนจะไม่เอาเรื่องอะไรด้วยถ้าได้พูดจาขอโทษกันดี ๆ
ต่อมาตนได้โพสต์เพื่อตามหาคู่กรณี และใช้คำพูดว่า "หนีไม่พ้นแน่นอน" ไม่นานผ่านไป 2 ชั่วโมง คู่กรณีก็ได้เข้ามาติดต่อสารภาพกับตนว่าเป็นคนขี่ชนเอง ตนก็ได้เรียกให้มาพูดคุยกันวันนี้ ส่วนรถของตนคือรถ McLaren 720S ซึ่งเป็นรถซูเปอร์คาร์ ราคา 35 ล้านบาท จุดเด่น คือ เครื่องยนต์ Twin Turbo V8 Engine ขนาด 4 ลิตร 720 แรงม้า ขับด้วยแรงบิดสูงสุด 770 นิวตันเมตร และเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด สามารถขับได้เร็วสูงสุด 341 กิโลเมตรต่อชั่วโม หากเกิดอุบัติเหตุรถคันนี้ไม่สามารถให้ช่างทั่วไปซ่อมได้ ต้องสั่งอะไหล่จากต่างประเทศมาเปลี่ยนยกชุด
ขณะนี้รถของตนถูกส่งไปศูนย์เพื่อซ่อมแล้ว ความเสียหายสังเกตว่ามีรอยขูดที่ช่วงประตูผู้โดยสาร มูลค่าความเสียหาย จำนวนกว่า 1 แสนบาท ซึ่งวันนี้ได้พูดคุยกับทาง ผกก.สน.สุทธิสาร พร้อมกับคู่กรณีแล้ว ตนไม่ได้เรียกร้องเงินค่าซ่อมจากคู่กรณี แค่อยากจะฝากเตือนให้เป็นอุทาหรณ์ว่าหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ไม่ควรที่จะหนีเอาตัวรอด จากที่ได้พูดคุยกับคู่กรณีวันนี้ เขาก็ยกมือไหว้ขอโทษตนแล้ว ตนก็ได้รับไหว้และฝากเป็นบทเรียนให้ระมัดระวังมากกว่านี้
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้พบกับ นายนิค (นามสมมติ) อายุ 20 ปี เจ้าของรถบิ๊กไบก์ กล่าวว่า ตนขอยอมรับว่าขณะที่ขี่หลบรถเพื่อเปลี่ยนเลน ตอนนั้นได้เบียดไปชนกับรถของผู้เสียหายและได้ขี่หนีจริง โดยที่ไม่ได้ลงมาสอบถามเรื่องความเสียหาย และยอมรับว่าตอนนั้นตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูกรีบกลับบ้าน
สำหรับรถบิ๊กไบก์คันดังกล่าว แม่ของตนเป็นคนที่ซื้อให้ ใช้ชื่อแม่ของตนเป็นเจ้าของรถในราค 350,000 บาท ตนจะใช้ขี่ไปเรียนและทำงาน เพื่อเก็บเงินผ่อนรถเอง ซึ่งในวันนี้ตนเดินทางมาพูดคุยและขอโทษเจ้าของรถผู้เสียหาย โดยเจ้าของรถก็ไม่ได้เอาผิดอะไรกับตน ตนขอรับปากว่าต่อไปนี้จะไม่ขี่รถคันนี้อีกต่อไปแล้ว ตั้งแต่ที่ซื้อรถมา 1 ปีไม่เคยเกิดเหตุการณ์เฉี่ยวชนกับใครเลย ต่อไปตนก็คงจะขับรถยนต์ในการใช้เดิน เพราะเข็ดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ภูริส จินตรานันท์ ผกก.สน.สุทธิสาร ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้นายนิค เจ้าของรถบิ๊กไบก์ ได้กล่าวขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ส่วนเจ้าของรถหรูที่เสียหายก็พร้อมจะยกโทษให้ และไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ในทางคดีแล้วนายนิค จะต้องได้รับโทษในข้อหา ขับขี่รถโดยประมาท พร้อมทั้งใบขับขี่หมดอายุ จ่ายค่าปรับในจำนวน 1,000 บาท ส่วนรถบิ๊กไบก์คันดังกล่าวจะจอดไว้ที่โรงพักจนกว่าแม่ของนายนิค จะเดินทางมารับรถเอง เนื่องจากรถบิ๊กไบก์เป็นชื่อแม่ครอบครองรถ
