กรณีที่ล่าสุดอธิบดีกรมปศุสัตว์แถลงพบโรคโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) จากโรงฆ่าสัตว์นครปฐม พร้อมประสานหารือภาคีเครือข่ายเพื่อควบคุมโรค ย้ำชัดไม่แพร่ระบาดติดต่อสู่คน ขณะที่ครม.อนุมัติงบกลางปี 2565 จำนวน 574.11 ล้านบาท เยียวยาผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย ป้องกันโรคระบาดร้ายแรง ในสุกรหรือหมูป่าพื้นที่ 56 จังหวัด ขณะที่กรมการค้าภายในเพิ่มจุด ขายหมูราคาถูกจาก 662 จุด เพิ่มขึ้นอีก 1,500 จุด
บริษัทหลักทรัพย์(บล.) บัวหลวง ประเมินว่าจากราคาหมูและไก่ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจะเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจของ บมจ.จริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF) หลังจากสถานการณ์ราคาหมูไทยปรับตัวขึ้นสูง เนื่องจากซัพลลายขาดแคลนไปอย่างน้อยช่วงครึ่งแรกของปีนี้ อีกทั้งคาดว่าจะมีผู้บริโภคบางส่วนเปลี่ยนไปเป็นไก่แทนสนับสนุนให้ดรมานด์เนื้อไก่และราคาปรับเพิ่มตาม
ดังนั้นคาดว่าราคาไก่เป็นไทยจะปรับ 42-45 บาท/กก. ช่วง 3-4 เดือนข้างหน้า จากล่าสุดอยู่ที่ 38-40 บาท/กก.
ดังนั้นจึงมีการปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรของ CPF ปีนี้จะขึ้นอีก 3% เป็น 19,100 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นการเติบโตที่สูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับกำไรช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 มีกำไรรวมที่ 536.65 ล้านบาท จากสมมติฐานราคาไก่สดเพิ่ม 6% เป็น 37 บาท/กก. โดยคิดเป็นเฉลี่ยราคาไก่จะเพิ่มขึ้น 15% ในปีนี้
นอกจากนี้ ยังเห็นแนวโน้มธุรกิจในต่างประเทศจะปีนี้ดีขึ้นทั้งในประเทศฟิลิปินส์ กัมพูชา จีน เวียดนาม และแคนาดา จากแนวโน้มราคาสินค้าเกษตรฟื้นตัว และกำไรขยายตัว
คำแนะนำซื้อเก็งกำไรปรับราคาเป้าหมายขึ้น 4% เป็น 35 บาท
บริษัทหลักทรัพย์(บล.) กสิกรไทย ประเมินว่า ประเด็นดังดกล่าวนี้รวมถึงราคาหมูที่แพงขึ้นขณะนี้จะส่งผลบวกต่อธุรกิจต่อผู้ประกอบของทั้ง บมจ.จริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF) และบมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) ที่ยังมีผลผลิตขายได้เพราะมีฟาร์มที่ได้มาตรฐาน และสายป่านที่ยาวกว่า จึงได้รับความเสียหายจากโรคระบาดน้อยกว่า เมื่อเทียบกับเกษตรกรรายกลางและรายเล็ก
สำหรับราคาสุกรที่เพิ่มสูงขึ้นคาดว่าจะส่งผลบวกต่อผู้ผลิตรายใหญ่ที่มีความปลอดภัยทางชีวภาพสูงและสามารถจำกัดความสูญเสียจากโรคระบาดสุกร รวมถึงผู้ผลิตเนื้อไก่ จากราคาเนื้อไก่ที่เพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้มีประเด็นบวกดังนี้
-ราคาสุกรในประเทศพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 113 บาท/กก. ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากอุปทานที่ตึงตัวและอุปสงค์ที่ฟื้นตัว
-ความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการระบาดของโรค ASF อาจส่งผลกระทบต่อฟาร์มสุกรขนาดเล็กและส่งผลบวกต่อฟาร์มแบบปิดที่มีความปลอดภัยทางชีวภาพสูง
-จากเหตุการณ์ในประเทศจีนและเวียดนามบ่งชี้ว่าราคาสุกรอาจเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าและต้องใช้ระยะเวลามากกว่าหนึ่งปีเพื่อทำให้ราคากลับมาสู่ระดับก่อนเกินโรค ASF
บริษัทหลักทรัพย์(บล.) กรุงศรี ระบุว่า คาดราคาสุกรและเนื้อสัตว์อื่นจะอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องในครึ่งแรกของปีนี้เป็นอย่างน้อย เนื่องจากวงจรการผลิตสุกรที่ยาวถึง 300 วันและคาดว่าราคาสุกรที่สูงขึ้นจะหนุนกำไรช่วงไตรมาส 4 ปี 2564 และปีนี้ของ CPF จากธุรกิจหลักที่เริ่มฟื้นตัวตามราคาเนื้อสัตว์ที่สูงขึ้นและส่วนแบ่งกำไรที่ฟื้นตัว
เนื่องราคาสุกรหน้าฟาร์มเดือนธ.ค.2564 ในไทยและเวียดนามเพิ่มขึ้นเป็น 84.00 บาทต่อกก. และ 48,000 ดงเวียดนาม/กก. ตามลำดับ เป็นผลจาก (1) เกษตรกรรายย่อยได้ขายสุกรเพื่อหลีกเลี่ยงการโดดเชือดเพื่อควบคุมโรคเพิร์สในสุกร (PRRS) ในไทยและโรค ASF ในเวียดนามในไตรมาส 3 ปี 2564 และ (2) การขาดแคลนอุปทานในไตรมาส 4 ปี 2564
สำหรับตลาดจีนราคาสุกรได้ฟื้นตัวเป็น 23.03 หยวน/กก. โดยมองว่าราคาสุกรในประเทศที่สูงช่วยดึงราคาไก่และกุ้งในประเทศให้เพิ่มขึ้นจากการเป็นสินค้าทดแทน ล่าสุดราคาไก่เนื้อเพิ่มเป็น 37 บาทต่อกก. ในเดือน ธ.ค. 2564 ขณะที่ราคากุ้งในประเทศเพิ่มเป็น 175 บาท/กก.
คงคำแนะนำ ซื้อ CPF ราคาเป้าหมาย 32 บาทต่อหุ้น