ในปีที่ผ่านมา เราได้ยินชื่อ “อีลอน มัสก์” มานับครั้งไม่ถ้วน ทั้งในฐานะ เจ้าพ่อบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าเทสลา ป๋าดัน “Dogecoin” และล่าสุด ในฐานะมหาเศรษฐีผู้ที่เสียภาษีมากสุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ จากการได้รับผลตอบแทนเป็นหุ้นบริษัทที่ปัจจุบัน มีมูลค่าทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์ ในปีที่ผ่านมา
ล่าสุดมหาเศรษฐีใจถึงคนนี้ ได้บริจาคหุ้นบริษัท มูลค่ากว่า 5.7 พันล้านดอลลาร์ (1.84 แสนล้านบาท) เพื่อการกุศล ซึ่งนับการบริจาคครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐเลยทีเดียว
โดย อีลอน มัสก์ ได้บริจาคหุ้นเทสลามากกว่า 5 ล้านหุ้น ในระหว่างวันที่ 19 - 29 พ.ย. 21 คิดเป็นมูลค่าราว 5.7 พันล้านดอลลาร์ อิงตามราคาในช่วงวันที่ขายหุ้น ตามที่ระบุในเอกสารที่เทสลา ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC)
แต่ในเอกสารดังกล่าว ไม่ได้ระบุชื่อขององค์กรการกุศลที่ได้รับเงิน รวมถึงจำนวนว่ามีทั้งหมดกี่องค์กร
เป็นไปได้ว่า หุ้นจำนวน 5.7 พันล้านดอลลาร์นี้ จะถูกบริจาคเข้าสู่ “มูลนิธิมัสก์” องค์กรการกุศลที่ตัวเขาเอง ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2002 ปลายเดือนมิถุนายน 2022 ที่ผ่านมาพบว่า มีทรัพย์สินอยู่ราว 1 พันล้านดอลลาร์ (3.2 หมื่นล้านบาท) อ้างอิงจากเอกสารที่ยื่นต่อทางการ
การโยกย้ายหุ้นที่ตนเองถืออยู่ เข้าสู่องค์กรการกุศลในชื่อของตัวเอง แล้วค่อยนำไปทำประโยชน์อื่นๆ ต่อสังคม เป็นสิ่งที่มหาเศรษฐีนิยมทำกัน
โดยนักวิเคราะห์คาดว่า การบริจาคหุ้นให้องค์กรการกุศลของมัสก์ในครั้งนี้ จะช่วยแบ่งเบาภาระทางษีให้กับเขาได้มหาศาล เพราะมัสก์ไม่ได้รับผลตอบแทนจากการทำงานเป็นเงินเดือนเหมือนคนทั่วไป แต่จะได้รับ “สิทธิ์ในการซื้อหุ้นบริษัทในราคาถูก” แทน ซึ่งถ้าเขาใช้สิทธิ์ดังกล่าวซื้อหุ้นของบริษัท แล้วขายออกไปเพื่อนำเงินมาใช้ จะทำให้เขา โดนเก็บภาษีจากการขายหลักทรัพย์ (Capital gain tax)
วิธีดังกล่าว จะช่วยเขาประหยัดภาษี ที่จะต้องเสียจากการขายหุ้นมูลค่า 5.7 พันล้านดอลลาร์ ไปได้ สูงถึง 40 - 50% เลยทีเดียว ทั้งได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากการบริจาค แถมยังไม่โดนเก็บภาษีจากการหลายหลักทรัพย์
การบริจาคหุ้นจำนวนมหาศาลในครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากมัสก์ ปะทะคารมกับสองนักการเมืองจากพรรคเดโมแครตของสหรัฐ คือ เบอร์นี แซนเดอร์ส และเอลิซาเบธ วอร์เรน ในเรื่อง ปัญหาความไม่เท่าเทียมและการเก็บภาษีตามความมั่งคั่ง
ปีที่แล้ว มัสก์เคยกล่าวว่า เขาจะขายหุ้นเทสลาเพื่อทำการบริจาค หากสหประชาชาติ (UN) พิสูจน์ได้ว่าเงินดังกล่าวจะช่วยแก้ไขปัญหาความอดอยากแก่โลกใบนี้ได้จริง หลังจากที่ เดวิด บีสลีย์ ผู้อำนวยการโครงการอาหารโลก (WFP) ภายใต้ UN เรียกร้องให้มหาเศรษฐีเช่น มัสก์ ออกมาบริจาคทรัพย์สินช่วยตัวเพื่อช่วยแก้ปัญหาความอดอยาก
มัสก์ มักถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่อง การเผื่อแผ่ความมั่งคั่งของเขาให้กับสังคม โดยมหาเศรษฐีอันดับ 1 และ 2 ของโลก อย่าง เจฟฟ์ เบโซส แห่ง Amazon และ อีลอน มัสก์ แห่ง เทสลา บริจาคเงินเพื่อการกุศล เพียง 1% ของทรัพย์สินทั้งหมด ในขณะที่มหาเศรษฐีอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ และ จอร์จ โซรอส บริจาค 20% ของความมั่งคั่งสุทธิของพวกเขา เพื่อประโยชน์ของสังคม อ้างอิงจากนิตยาสาร Forbes