ต้อนรับเปิดเทอมที่ดูเหมือนว่า ในการเปิดเทอมเดือนพฤษภาคมนี้จะเป็นการกลับมาเรียนหนังสือที่ใกล้เคียงสถานการณ์ปกติ เนื่องจากสถานการณ์โควิดในประเทศเริ่มคลี่คลาย จากเรียนออนไลน์ มาสู่การเรียน on-siteหรือการกลับไปเรียนที่โรงเรียนนั่นเอง
แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายของการกลับมาเรียนที่โรงเรียนของพ่อ แม่ ผู้ปกครอง คือค่าชุดนักเรียน เครื่องแบบนักเรียนที่เพิ่มขึ้นจากตอนเรียนออนไลน์ ซึ่งในภาวะของแพง ค่าครองชีพสูงแบบนี้เป็นภาระของผู้ปกครองที่ต้องแบกไว้ แต่ล่าสุดภาครัฐได้มีมาตรการลดภาระผู้ปกครองด้วยการสั่งการให้องค์การค้าฯ หาแนวทางในการลดราคาสินค้าที่ผู้ปกครองจำเป็นต้องซื้อให้นักเรียน และให้ประสานความร่วมมือกับเครือข่ายผู้ค้าร่วม เพื่อลดราคาสินค้าทั่วประเทศ
การจัดโครงการลดราคาอุปกรณ์การเรียน เครื่องแบบนักเรียนจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 พฤษภาคม ถึงวันที่ 15 มิถุนายนนี้ที่ร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ส่วนลด10-50% โดยเฉพาะชุดนักเรียนทั้งชายและหญิง สามารถซื้อได้ในราคาครึ่งหนึ่ง หรือลด 50%
"แต่วันนี้ทีมงาน SPOTLIGHT พาไปสำรวจบรรดาร้านขายเสื้อผ้าชุดนักเรียนเจ้าดัง 3 แบรนด์หลัก นั่นคือ น้อมจิตต์ สมใจนึก และตราสมอ ซึ่งทั้ง 3 แบรนด์ล้วนแล้วแต่มีอายุเก่าแก่มากกว่า 50 ปี และธุรกิจเครื่องแบบนักเรียนต่างเผชิญผลกระทบทั้งโควิด 19 ที่เกิดกรเรียนออนไลน์ขึ้นความต้องการเครื่องแบบนักเรียนเกือบเป็นศูนย์ ส่วนในระยะยาว จำนวนเด็กเกิดใหม่ในไทยที่ค่อยๆลดน้อยลงไปเรื่อยๆและสุดท้ายคือ กระแสของการไม่ใส่เครื่องแบบนักเรียน"
3 แบรนด์หลักที่อยู่ในตลาดมานาน ผ่านร้อนผ่านหนาวและปรับกลยุทธ์ทั้งคุณภาพของชุดเรียนให้ดีขึ้น ไม่ขาดง่าย ระบายความร้อน คงทน เหมาะกับการใช้งานจริง รวมไปถึงช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีทั้งหน้าร้าน ระบบตัวแทนจำหน่าย ที่สำคัญคือ ระบบออนไลน์ ที่มีการทำทั้งเว็บไซต์เอง Social Media และ แพลตฟอร์ม shopee , Lazada รวมถึงการเปลี่ยนมือการบริหารกิจการมาสู่รุ่นที่ 2 กันแล้ว
สมใจนึกเทเวศร์ เป็นแบรนด์ชุดนักเรียนเก่าแก่ที่สุดใน 3 แบรนด์ เกิดขึ้นจากธุรกิจครอบครัวตระกูลอมรวัฒนา เดิมทีใช้ชื่อว่า “สมใจนึกบางลำภู” ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2498 หากนับจนถึงปัจจุบันมีอายุถึง 67 ปี โดยในปี พ.ศ. 2515 มีการแยกตัวออกมาแล้วใช้ชื่อว่า “สมใจนึกเทเวศร์” อาจจะกล่าวได้ว่านี่คืออีกหนึ่งแบรนด์ชุดนักเรียนที่เป็นผู้นำในตลาด ด้วยความเก่าแก่ คุณภาพ ทำให้ผู้ปกครองเชื่อมั่นที่จะเลือกซื้อให้กับบุตรหลาน
แม้ว่าจะผ่านมาถึง 67 ปี แต่สภาพธุรกิจปัจจุบันของสมใจนึกยังคงผลิตชุดนักเรียน และให้บริการเกี่ยวกับชุดนักเรียนครบวงจร โดยยังมีหน้าร้านที่สาขา สาขาเทเวศร์ รวมไปถึงช่องทางออนไลน์ที่ทั้ง 3 แบรนด์ ให้ความสำคัญเป็นช่องทางหลักเช่นกัน สามารถซื้อ บริการปักชื่อ ผ่านช่องทางออนไลน์นี้ได้สะดวกมากขึ้น
ชุดนักเรียนน้อมจิตต์ เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ชุดนักเรียนเก่าแก่เช่นกัน อายุธุรกิจคือ 60 ปีแล้ว ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2505 โดยคุณสุมิตร จิตรมีศิลป์ และคุณน้อมจิตต์ จิตรมีศิลป์ ซึ่งเริ่มแรกนั้นทำธุรกิจร้านขายเสื้อผ้าทั่วไปในตึกแถวบนถนนสามเสน ก่อนจะเปลี่ยนมาผลิตชุดนักเรียน เพราะมองเห็นถึงโอกาสความต้องการของตลาดที่ยังมีคู่แข่งเพียงไม่กี่รายในยุคนั้น
ปัจจุบันชุดนักเรียนน้อมจิตต์ บริหารงานโดยทายาทรุ่นสองแล้ว คือรุ่นลูก คือ คุณอรนุช จิตรมีศิลป์, คุณอนันต์ จิตรมีศิลป์,คุณอานนท์ จิตรมีศิลป์, คุณเอนก จิตรมีศิลป์ และคุณอาณัติ จิตรมีศิลป์
แม้ว่าสภาพธุรกิจปัจจุบัน จะยังคงผลิตและจำหน่ายชุดนักเรียนทุกระดับ รับผลิตชุดนักเรียน รวมถึงการจำหน่ายที่หน้าร้าน และ รูปแบบออนไลน์ทั้งโซเชี่ยลมีเดีย รวมถึงชอปปี้ ลาซาด้า แต่ทายาทรุ่นที่ 2 ก็มีการพัฒนาต่อยอดคุณภาพของสินค้าให้ดีขึ้น
ก่อนหน้านี้ทายาทชุดนักเรียนน้อมจิตต์ได้เคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า
"ชุดนักเรียนเป็นสินค้าที่ไม่ค่อยขึ้นราคา เฉลี่ย 3 ปี จะปรับขึ้น ซัก1 ครั้ง และปรับขึ้นราวประมาณ 5-7% กำไรต่อตัวถือว่าน้อย แต่ได้ปริมาณการซื้อเข้ามาช่วย โดยเฉพาะช่วง 2 เดือนก่อนเปิดเทอม อย่างเมษายน พฤษภาคม ช่วงทำรายได้ราว 80% ถ้าช่วงเศรษฐกิจดียอดขายบวกลบไม่เกิน 5-7% แต่ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีก็ขายได้บวกลบไม่เกิน 5%"
สำหรับแบรนด์สุดท้าย คือชุดนักเรียนตราสมอ อายุ 65ปีก่อตั้ง พ.ศ. 2500 โดยผู้ก่อตั้ง คุณกิตติ - คุณลักษณ์สุนีย์ ศิริปทุมมาศ ปัจจุบันทายาทรุ่นที่ 2 คือ คุณ อาภาพร ศิริปทุมมาศ โดยบริษัทสมอทองการ์เมนท์ จำกัด
สโลแกนของแบรนด์นี้เชื่อว่าหลายคนยังจำได้ คือ ใส่สมอ เท่ห์เสมอ เป็นคำฮิตติดปากและสื่อถึงชุดนักเรียนตราสมอได้อย่างยาวนาน ส่วนใช้รูป “สมอ” เป็นโลโก้ ยังแนวคิดนี้มาจากสมอเรือที่ทอดลงทะเลจะช่วยให้เรือที่โคลงเคลงในทะเลมีความมั่นคง ก็เหมือนกับการทำธุรกิจที่ต้องมีความมั่นคงแข็งแรงเช่นกัน ต้องบอกว่า มั่นคงมาจนถึงรุ่นลูกแล้ว
แม้ว่าชุดนักเรียนจะเป็นธุรกิจที่ไม่หวือหวา เป็นสินค้าจำเป็นสำหรับผู้ปกครอง และด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานจนเรียกว่าทั้ง 3 แบรนด์เป็นเจ้าตลาดไปแล้ว แต่! มองไปข้างหน้าก็เป็นความท้าทายของธุรกิจมากเช่นกัน เพราะเทรนด์ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป คนไทยแต่งงานช้า ไม่นิยมมีบุตร หรือมีเพียงแค่คนเดียว สังคมไทนยเข้าสู่สังคมสูงอายุ ในขณะที่เด็กรุ่นใหม่เริ่มมีประเด็นในการควบคุมให้ต้องใส่เครื่องแบบ เป็นต้น ดังนั้นในธุรกิจนี้อาจจะไม่ได้ดึงดูดให้มีรายใหม่เข้ามาแข่งเพิ่มมากนักในอนาคต แต่ก็ไม่ได้ง่ายนักสำหรับรายเดิมเช่นกัน
ที่มา
https://www.smartsme.co.th/content/242728
เว็บไซต์ สมใจนึก , ตราสมอ ,น้อมจิตต์
https://www.kasikornresearch.com/th/analysis/k-social-media/Pages/BackToschool-FB-13-05-2022.aspx
https://www.longtunman.com/13996