Spotify กลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีอีกรายที่จะเลย์ออฟพนักงาน หลังมีแหล่งข่าวออกมาแจ้งแก่สำนักข่าว Bloomberg ว่า แพลตฟอร์มสตรีมเพลงชื่อดังรายนี้จะประกาศปลดพนักงานภายในสัปดาห์นี้ เพื่อลดต้นทุนสู้เศรษฐกิจซบเซา และชดเชยกับรายได้จากโฆษณาที่ลดลง
จากการรายงานของ Bloomberg แหล่งข่าวยังไม่เปิดเผยว่า Spotify วางแผนที่จะปลดพนักงานเป็นจำนวนเท่าไหร่ในครั้งนี้ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Spotify เลย์ออฟพนักงาน โดยในเดือนตุลาคมในปี 2022 ที่ผ่านมา Spotify เลย์ออฟพนักงานไปแล้ว 38 คนจากหน่วยงานสายพอดแคสต์
ปัจจุบัน จากรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 Spotify มีพนักงานทั้งหมด 9,800 คน
มูลค่าหุ้นของ Spotify ตกลงถึง 66% ในปี 2022 หลังไม่สามารถทำกำไรและสร้างผลตอบแทนจากธุรกิจพอดแคสต์ได้ ถึงแม้จะลงทุนไปมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
คนทำงานสายเทคฯ ถูกเลย์ออฟกว่า 55,000 แล้วในเวลาไม่ถึงเดือน
ตั้งแต่เริ่มปี 2023 มา พนักงานสายเทคโนโลยีก็เกิดอาการหนาวๆ ร้อนๆ กัน เมื่อบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็น Microsoft, Intel และ Alphabet บริษัทแม่ของ Google ต่างทยอยออกมาประกาศเลิกจ้างพนักงานเป็นจำนวนมาก เป็นจำนวนรวมกว่า 55,000 คน เพื่อรับมือกับรายได้ที่ลดลงจากเศรษฐกิจที่ซบเซาจากภาวะเงินเฟ้อ และความต้องการใช้เทคโนโลยีที่ลดลงหลังช่วงการระบาดของโควิด-19
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจในภาคส่วนเทคโนโลยีไม่ใช่ภาคส่วนเดียวที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อและสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน เพราะภาคส่วนที่มีการเลย์ออฟเช่นกันคือ ธนาคาร อีคอมเมิร์ซ คริปโทเคอร์เรนซี และสื่อ โดยตั้งแต่ต้นปี 2023 บริษัทที่มีการประกาศเลย์ออฟมีดังนี้
CNN รายงานว่า เทรนด์การเลย์ออฟนี้เกิดจากการที่รายได้ของบริษัทเทคโนโลยีลดลงอย่างมากในช่วงหลังโควิด หลังจากคนส่วนมากกลับไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ และไม่ต้องใช้เทคโนโลยีในการใช้ชีวิตประจำวันอย่างเดิมแล้ว ทำให้เงินทุนที่ลงไปกับการจ้างงานพนักงานเพิ่มในช่วงที่ธุรกิจกำลังรุ่งเรืองเริ่มไม่สมเหตุสมผล และเป็นภาระทางการเงินของบริษัท
ในช่วงปี 2019-2022 จำนวนพนักงานในบริษัทเทคโนโลยีต่างเพิ่มขึ้นเกิน 50% ทั้งหมด เช่น Amazon ที่จำนวนพนักงานเพิ่มขึ้น 106%, Meta ที่จำนวนพนักงานเพิ่มขึ้น, 103% Salesforce ที่จำนวนพนักงานเพิ่มขึ้น 67%, Alphabet ที่จำนวนพนักงานเพิ่มขึ้น 64%, Microsoft ที่จำนวนพนักงานเพิ่มขึ้น 53% มีเพียง Apple ที่เพิ่มขึ้นเพียง 20%
ที่มา: Bloomberg, CNN(1), CNN(2)