การมาของ ChatGPT ปัญญาประดิษฐ์รูปแบบ Generative AI ได่สร้างความตื่นตัวให้กับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอย่างมาก เราจะเห็นได้ว่าตั้งแต่ต้นปี 2023 หลายธุรกิจปรับตัวเพื่อใช้ประโยชน์จาก AI มากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งธุรกิจสิ่งพิมพ์ และสื่อประเภทต่างๆ ธุรกิจการแพทย์ ธุรกิจท่องเที่ยว อาหาร และอีกมากมาย
งานวิจัยใหม่จาก Goldman Sachs ระบุว่า ความสามารถของ AI กำลังจะส่งผลกระทบต่อมนุษย์ที่ทำงานประจำกว่า 300 ล้านตำแหน่ง โดยมีการวิเคราะห์ข้อมูลจากตำแหน่งงานในอาชีพต่างๆทั้งสหรัฐฯและยุโรป แต่โดยรวมเทคโนโลยีใหม่นี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพแรงงานให้ดีขึ้น ประเมินว่า AI สามารถเพิ่ม GDP ทั่วโลก ได้ถึง 7%/ปี ในระยะ 10 ปีจากนี้ไป
2 นักวิจัยคือ Joseph Briggs และ Devesh Kodnani ระบุในรายว่า ปัจจุบัน AI ได้เข้ามามีบทบาทกับงานของเราแล้ว ประมาณ 2 ใน 3 และเป็นไปไดว่า Generative AI สามารถทดแทนงานปัจจุบันได้ถึง1 ใน 4 ในรายงานยกตัวอย่างในสหรัฐอเมริกา งานที่ต้องทำราว 25-50% เจ้า AI สามารถเข้ามาทำแทนได้
Generative AI คือ ปัญญาประดิษฐ์ประเภทหนึ่งที่สามารถสร้างสิ่งใหม่ได้ โดยเรียนรู้จากข้อมูลมหาศาล มนุษย์ทำหน้าที่เป็นผู้บอกความต้องการ (Prompt) เพื่อให้AI สร้างสิ่งที่ต้องการออกมา เหมือนอย่างที่ ChatGPT ของ OpenAI สร้างความฮือฮาอยู่นั่นเอง
ก่อนหน้านี้นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Princeton, University of Pennsylvania และมหาวิทยาลัย New York ประเมินว่า มนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย เป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบจากความสามารถของ AI โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่กฏหมายและธุรการ เป็นสาขาที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด
รายงานของ Goldman ชี้ว่า หากภาคธุรกิจต่างๆสามารถนำ Generative AI มาใช้อย่างแพร่หลาย จะส่งผลดีให้เกิดการบดต้นทุนลงได้ โดยเฉพาะต้นทุนด้านแรงงาน และยังทำให้เกิดการสร้างงานใหม่ๆได้อีกมาก ตัวอย่าง ตำแหน่งงานที่ได้เกิดขึ้นแล้วปัจจุบัน เช้น Prompt Engineer ซึ่งเป็นงานที่มีการเขียนข้อความแทนโค้ดเพื่อทดสอบ AI Chatbot เป็นต้น
อ้างอิงจาก Business Insider , CNN