เพราะการทำธุรกิจไม่มีสูตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด เมื่อเจอกับวิกฤตบางอย่าง เจ้าของกิจการต้องรู้จักการ cut lose ทิ้งบางอย่างเพื่อรักษาบริษัทไว้
ทีมงาน SPOTLIGHT ได้รวบรวมสาระสำคัญหัวข้อการบรรยาย Challenges and Journey of Entrepreneur เสียดาย...คนเป็นเจ้าของกิจการไม่เคยรู้ โดย คุณปรมินทร์ เปรื่องเมธางกูร Founder & CEO Yuzu Group และ คุณธนพงศ์ วงศ์ชินศรี เจ้าของร้าน Penguin Eat Shabu และเพจ Torpenguin จากงาน CTC 2023 Festival ซึ่งรับรองได้ว่าเป็นประโยชน์กับการทำธุรกิจในยุคใหม่ที่เจ้าของกิจการหลายคนบ่นว่า “กว่าจะสำเร็จมันช่างยากเหลือเกิน”
เมื่อธุรกิจไม่มีสูตรสำเร็จ เจ้าของกิจการควรรับมือยังไง
1.ก่อนมาเป็นเจ้าของธุรกิจ ถามตัวเองว่าทำใจได้หรือยังกับการทำทุกอย่าง?
: เมื่อเราเป็นเจ้าของธุรกิจ เราต้องมีความรู้ลึก รู้จริง รู้รอบด้าน และรู้กว้างในทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของธุรกิจเรา ธุรกิจคู่แข่ง การตลาด บัญชี พนักงาน ฯลฯ เรียกได้ว่า ‘การเป็นเจ้าของกิจการ เป็นอะไรที่น่าปวดหัว เพราะคุณจะเจอเรื่องใหญ่ในทุกๆวัน’ เพราะคำว่า SME ไม่ได้ย่อมาจากคำว่า Small and Medium Enterprises แต่ย่อมาจาก Super Man Can Do Everything
2.อย่าเริ่มต้นธุรกิจด้วยคำว่า ขายอะไร ?
: ให้เริ่มหาโอกาส มองหาช่องว่างในตลาด หากลุ่มลูกค้า รวมถึงมองหาผลลัพธ์ และวิธีการแก้ไขกับปัญหา จึงค่อยหา’สินค้า’ ที่มาตอบโจทย์กับเค้า เรียกได้ว่าต้อง Identify opportunity , Identify gap และ Identify Problem แล้วค่อยกลับมาพร้อม Products
3.หาจุดแข็งของแบรนด์ให้เจอ ก่อนขึ้นสังเวียน
: การทำธุรกิจเหมือนกับการขึ้นชกมวย ก่อนที่เราจะขึ้นชกเรารู้อยู่แล้วว่าคู่ชกของเราคือใคร(คู่แข่งในตลาด) และอะไรหมัดน็อคของเค้า เพราะเราไม่ใช่เจ้าเดียวในตลาดที่ขายของ เพราะฉะนั้นเราต้องหาจุดแตกต่าง หรือจุดแข็งของแบรนด์เราให้เจอ ‘ถ้าดูไม่ดีกว่า ก็ต้องดูแตกต่างไปเลย’ แต่อย่าหาจุดแข็งที่เราไม่มีทางสู่คู่ต่อสู้ได้
4.อย่าคิดว่ามี ‘สินค้า’ ที่ดีแล้วจะขายได้
: ธุรกิจสามารถเริ่มต้นด้วยการขาย’สินค้า’ที่ดี แต่ธุรกิจที่อยู่รอดแค่คุณภาพสินค้าอย่างเดียวไม่เพียงพอ เจ้าของกิจการต้องพัฒนาเรื่องอื่นควบคู่กันไปด้วย เช่น ระบบภายในร้าน, พนักงาน หรือการตลาด
5.เมื่อหมด ‘Passion’ สิ่งที่มาแทนที่คือ ‘Systems’
: เริ่มแรกเจ้าของกิจการอาจเริ่มต้นธุรกิจด้วย Passion ของตน แต่พอเราอยู่กับสิ่งนี่เรื่อยๆในทุกๆวัน มันจะกลายเป็นความจำเจ จนเบื่อไปในที่สุด สิ่งที่จะมาช่วยให้ธุรกิจเราอยู่รอดในวันที่เราหมดไฟ ‘ระบบหลังบ้านที่ดี’ เพราะไม่มีธุรกิจไหนเติบโตโดยที่ไม่มีระบบ
6.วางคนให้ถูกกับงาน และ วางงานให้ถูกกับคน
: อาจเป็นหนึ่งในโจทย์ที่ท้าทายสำหรับเจ้าของกิจการ เพราะนอกจากเราต้องวางแผนกลยุทธ์ของบริษัท ดูภาพรวมทั้งเล็กและใหญ่ ไปจนถึงดึงศักยภาพของพนักงานแต่ละคนออกมาให้ดีและเยอะที่สุดเเล้ว เรายังต้องวิเคราะห์จุดด้อยและจุดเด่นของพนักงานแต่คนให้ได้ และหากเราสร้างฐานให้มั่นคง สร้ามทีมที่ดี มีความสามารถ ซื่อสัตย์กับเรา และมองเห็นเป้าหมายเดียวกันกับเรา ธุรกิจเราจะไปได้ดี ไปได้ไกล และไปเร็วกว่าคนอื่น
7.หัวใจของ Marketing คือสร้างกำไรและยอดขาย
: ‘หากคุณภาพของสินค้าเราดี แต่ไม่มีใครตะโกนออกไป มันจะมีประโยชน์อะไร’ หัวใจหลักของการทำธุรกิจ คือการสร้างกำไร เพื่อมาต่อยอดในการทำธุรกิจต่อไป และการตลาดที่ดี ต้องสามารถสร้างกำไรและยอดขายให้กับบริษัทได้ เพราะนอกจากจะสามารถทําให้ลูกค้าเข้ามาเป็น First time customers ได้เเล้ว’สินค้า’และ’การบริการที่ดี’ จะทำให้ลูกค้ากลายมาเป็น Repeat customers
8.อย่าไปกลัวหากคิดว่าจะเริ่มทำ
: อย่ายอมแพ้อะไรง่าย ๆ เราจะไม่แพ้เลย ถ้าเราไม่ยอมแพ้ และถ้าเราไม่ยอมแพ้ ก็จะมีสิ่งเดียวที่จะเกิดขึ้นเลยคือ ชนะ
9.พร้อมปรับตัว และพร้อมเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา
: นักธุรกิจสมัยใหม่ ต้องรู้จักการปรับเปลี่ยนตามบริบท สถานที่ ลูกค้า และเวลา เพราะ ไม่มีคนทำธุรกิจไหนที่วางแผนธุรกิจมา แล้วทำได้ตามนั้น 100% เราอาจจะคิดแบบนึง เริ่มต้นแบบนึง เติบโตแบบนึง และวันนึงเทรนด์มันเปลี่ยน เราก็ต้องเปลี่ยนตาม
10.ถ้าไม่รอด ไม่เวิร์ค อย่าฝืน
: นับเป็นเรื่องธรรมดาของนักธุรกิจที่ต้องล้มลุกคลุกคลาน ลองผิดลองถูก กว่าจะเจอสิ่งที่ใช่ แต่ถ้าผลลัพธ์ยังไม่ได้ตามที่คาดหวัง ก็ต้องเปลี่ยนวิธี แต่หากเปลี่ยนวิธี แล้วยังไม่เวิค ก็ต้องรู้จักกับคำว่า’ช่างเม่ง’ และกล้าที่จะ Cut Loss เพราะหากเราเลือกที่จะยื้อไว้ ระยะยาวมันอาจจะเจ็บปวดกว่า