กรณีที่กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ (DoJ) พิจารณาขอให้ผู้พิพากษาของรัฐบาลกลาง ยุบ ‘Google’ จากข้อหาการผูกขาดระบบค้นหาออนไลน์ และบังคับให้ Google ขายส่วนหนึ่งของธุรกิจ หลังมีการครองตลาดการค้นหาของ Google ได้ปิดกั้นการแข่งขัน และทำร้ายผู้บริโภค
ล่าสุด รายงานจาก Business Insider ระบุว่า เจ้าหน้าที่จากกระทรวงยุติธรรมกำลังวางแผนที่จะขอให้ผู้พิพากษา สั่งให้ Google ขายเบราว์เซอร์ ‘Chrome’ รวมถึงจะขอให้ผู้พิพากษา ‘Amit Mehta’ บังคับใช้กฎการอนุญาตข้อมูลและมาตรการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ AI และสมาร์ทโฟน Android
อัยการได้เสนอแนวทางแก้ไขที่เป็นไปได้หลายประการ เพื่อจัดการกับการละเมิดดังกล่าว และ DOJ กำลังพิจารณาทางเลือกเหล่านี้ หนึ่งในนั้น คือ การแตกธุรกิจหลักของ Google ที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงเครื่องมือค้นหา
หากผู้พิพากษา Mehta อนุมัติข้อเสนอเหล่านี้จริง คดีดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงตลาดการค้นหาออนไลน์และอุตสาหกรรม AI ที่กำลังเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ คดีนี้ยื่นฟ้องครั้งแรกในช่วงรัฐบาลทรัมป์ และส่งต่อไปยังประธานาธิบดีไบเดน ถือเป็นความพยายามในการควบคุมบริษัทเทคโนโลยี นับตั้งแต่ความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการแยกบริษัท Microsoft ออกจากกันเมื่อ 20 ปี แม้ล้มเหลวก็ตาม
Lee-Anne Mulholland รองประธานฝ่ายกิจการกำกับดูแลของ Google กล่าวกับ Business Insider ว่า กระทรวงยุติธรรมยังคงผลักดันวาระที่รุนแรง ซึ่งไปไกลเกินกว่าประเด็นทางกฎหมายในคดีนี้ การที่รัฐบาลใช้อำนาจเกินขอบเขตเช่นนี้ จะส่งผลเสียต่อผู้บริโภค นักพัฒนา และผู้นำด้านเทคโนโลยีของอเมริกาในช่วงเวลาที่จำเป็นที่สุด
การแยก Chrome ออกจาก Google จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อแผนกบริการของ Google ซึ่งสร้างรายได้ส่วนใหญ่จากการโฆษณา โดย Business Insider เคยรายงานไว้ว่า รายได้จากการค้นหาทั้งหมดของ Google สูงถึงเกือบ 2.80 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 9.67 ล้านล้านบาทในปี 2022
นอกจากนี้ ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีรายนี้ ยังต้องรับมือกับผลกระทบจากคดีต่อต้านการผูกขาดอีกคดีหนึ่ง ที่เกี่ยวข้องกับ ‘Play Store’ เมื่อเดือนที่ผ่านมา หลังผู้พิพากษาได้ตัดสินว่า Google ต้องอนุญาตให้มีแอปสโตร์ของบุคคลที่สามบน Android
Peter Cohan ศาสตราจารย์จาก Babson College กล่าวว่า คำตัดสินดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในการบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการผูกขาดที่เน้นไปที่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ รัฐบาลพยายามจำกัดอำนาจของบริษัทเทคโนโลยีที่ครองตลาดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
การเป็นเจ้าของเว็บเบราว์เซอร์ยอดนิยมของโลก ถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับธุรกิจโฆษณาของ Google บริษัทสามารถดูกิจกรรมของผู้ใช้ที่ลงชื่อเข้าใช้ และใช้ข้อมูลนั้นเพื่อกำหนดเป้าหมายโปรโมชันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งช่วยสร้างรายได้ส่วนใหญ่ให้กับบริษัท
นอกจากนี้ Google ยังใช้ Chrome เพื่อนำผู้ใช้ไปยังผลิตภัณฑ์ AI เรือธงของบริษัทอย่าง ‘Gemini’ ซึ่งมีศักยภาพที่จะพัฒนาจากโปรแกรมตอบคำถามอัตโนมัติ เป็นโปรแกรมผู้ช่วยที่ติดตามผู้ใช้ทั่วทั้งเว็บ
ที่มา Business Insider, Bloomberg