ธนาคารกสิกรไทย ประกาศเป้าหมายยอดผู้ใช้งาน K PLUS เพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านรายในปี 2568 จาก 22.8 ล้านรายในปัจจุบัน เป็น 23.9 ล้านราย ย้ำจุดยืนผู้นำดิจิทัลแบงกิ้ง ด้วยแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย สะดวก และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ลูกค้า โดย K PLUS ครองส่วนแบ่งตลาดธุรกรรมโมบายแบงกิ้งสูงสุดถึง 30% พร้อมเสริมด้วยบริการเวลธ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านการลงทุนและการบริหารความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ท่ามกลางความท้าทายที่เกิดขึ้น ธนาคารยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงในชีวิตและธุรกิจของลูกค้า โดยเน้นการสร้างความประทับใจในทุกมิติ พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ยุทธศาสตร์สำคัญในปีนี้และปีต่อไป ได้แก่
K PLUS ยังคงเป็นศูนย์กลางของบริการดิจิทัลแบงกิ้งของธนาคาร โดยมีผู้ใช้งานมากที่สุดในประเทศ ด้วยความสามารถในการเชื่อมต่อผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ครองความไว้วางใจจากลูกค้า และได้รับคะแนนความพึงพอใจอันดับ 1 (Net Promoter Score: NPS) จากการสำรวจโดย NielsenIQ
ธนาคารมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าในทุกช่วงชีวิต ผ่านบริการ Private Banking และกองทุนรวม ซึ่งมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) สูงสุดในประเทศไทย สะท้อนความเชื่อมั่นของลูกค้าในผลิตภัณฑ์ด้านความมั่งคั่ง
เน้นให้สินเชื่อที่มีความรับผิดชอบ ควบคู่กับการส่งเสริมวินัยทางการเงินและให้ความรู้ด้านการเงิน เพื่อสร้างฐานลูกค้าที่แข็งแรงในระยะยาว
ธนาคารตั้งเป้าหมายผลักดันอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) สู่ระดับ 2 หลักภายในปี 2569 โดยจะดำเนินยุทธศาสตร์ 3+1 อย่างต่อเนื่อง พร้อมขับเคลื่อนการเติบโตที่ยั่งยืนในทุกมิติ
จากผลสำรวจของ IPSOS พบว่าธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารที่ลูกค้าเอสเอ็มอีไว้วางใจมากที่สุด โดยครองตำแหน่งธนาคารหลักที่ลูกค้าเลือกใช้บริการ (Main Banking Status) นอกจากนี้ ธนาคารยังมีบริการและช่องทางที่หลากหลาย สร้างความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าทุกกลุ่ม
ธนาคารกสิกรไทยยังคงมุ่งมั่นสร้างนวัตกรรมและโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า พร้อมส่งมอบคุณค่าที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง