โดยคุณศิริพร วงศ์ตรีภพ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยกับ SPOTLIGHT ว่า ธนาคารได้มีการสำรวจความสนใจของกลุ่มลูกค้าเกี่ยวกับลายบัตรเดบิตที่ชื่นชอบ จากกลุ่มตัวอย่าง พบว่า มีผู้ที่ให้ความสนใจลายบัตรสายมูถึง 52%
ทั้งนี้ มีพฤติกรรมที่ชื่นชอบการดูดวงมากที่สุด รองลงมา เป็นการแต่งตัวสีมงคลตามวัน และการบูชาองค์เทพ ซึ่งจากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างลูกค้าธนาคาร พบว่า กลุ่มที่มีความสนใจในเรื่องมูเตลู มีอายุระหว่าง 22-40 ปี และเป็นกลุ่มพนักงานบริษัท และอาชีพอิสระ
ด้วยอินไซต์ดังกล่าว ธนาคารจึงนำพฤติกรรมและความต้องการลูกค้าที่มีความสนใจในเรื่องดังกล่าว มาผนวกให้เข้ากับชีวิตประจำวัน และไลฟ์สไตล์ที่เหมาะสมกับลูกค้ามากที่สุด โดยลายองค์เทพบนหน้าบัตรถือเป็นเรื่องของคุณค่าทางจิตใจเพิ่มเติม นอกเหนือจากประโยชน์ด้านความสะดวกในการใช้จ่าย สิทธิพิเศษและส่วนลดสินค้าและบริการในชีวิตประจำวันจากแบรนด์พันธมิตรที่มีอยู่แล้วของบัตรเดบิตกสิกรไทย
เปิดเหตุผลทำไมถึงเป็นภาพจากแบรนด์วัตถุมงคล KARAVA THAILAND
เนื่องจากแบรนด์ KARAVA THAILAND หรือ คารวะ เป็นแบรนด์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวสิ่งศักดิ์สิทธิ์และวัตถุมงคล ด้วยมุมมองของคนรุ่นใหม่ โดยมีการออกแบบองค์เทพ และวัตถุมงคลในสไตล์โมเดิร์นแบบเหนือกาลเวลา ซึ่งเป็นการผสมผสานความเชื่อ และความทันสมัยออกมาได้อย่างลงตัว ทำให้ผู้ที่มีความศรัทธาเข้าถึงมิติใหม่แห่งการบูชาองค์เทพได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Z และ กลุ่มคน Gen Y ที่เป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายโดยตรงของบัตรเดบิตลายองค์เทพ กสิกรไทย
ธนาคารกสิกรไทยจึงเปิดตัวบัตรเดบิตใหม่ลายองค์เทพ เอาใจสายมู ให้เหมือนมีองค์เทพคอยอวยพรให้ชีวิตดีรอบด้าน ทั้งการงาน การเงิน และความรัก พร้อมรับธีม K PLUS ลายองค์เทพเพิ่ม เมื่อเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ K-eSavings
โดยทุกลายองค์เทพถูกออกแบบในสไตล์โมเดิร์นจากแบรนด์วัตถุมงคล Karava Thailand พร้อมผ่านพิธีปลุกเสกจากวัดพระศรีนาคาทุรคาเทวี
ทั้งนี้ บัตรเดบิตลายองค์เทพกสิกรไทย มีลายให้เลือกทั้งหมด 4 แบบตามองค์เทพที่นับถือ หรือสิ่งที่ต้องการให้องค์เทพคอยอวยพร ได้แก่
นอกจากนี้ ธนาคารยังมีของที่ระลึกสายมู ฟรีแบบยกเซต ทั้งพวงกุญแจหินหยกจักรพรรดิ มูลค่า 299 บาท ธีม K PLUS และวอล เปเปอร์สำหรับโทรศัพท์ลายตามหน้าบัตรที่เลือก และส่วนลดพิเศษเครื่องรางและวัตถุมงคลจากร้าน HARMENSTONE และ KARAVA เมื่อสมัครบัตรเดบิตองค์เทพกสิกรไทย ตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2568 (ของที่ระลึกมีจำนวนจำกัด) สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถสมัครด้วยตัวเองได้ที่ K PLUS แล้วรอรับบัตรได้ที่บ้านแบบสบายๆ ภายใน 7 วัน หรือสมัครที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา (เฉพาะลายหน้าบัตรที่กำหนด)
สำหรับลูกค้าใหม่ที่ต้องการเปิดบัญชีไว้ออมเงิน และอยากมูให้ปังแบบสุด ธนาคารมอบธีม K PLUS ลายองค์ท้าวเวสสุวรรณให้นำไปใช้ได้ฟรี เหมือนมีองค์เทพคอยอวยพรให้ร่ำรวยด้วยเงินเก็บ เพียงดาวน์โหลด K PLUS พร้อมเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ K-eSavings และตั้งชื่อบัญชีใน K PLUS เป็นคำว่า “เงินเก็บ” ตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม 2567
โดยบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ K-eSavings เป็นบัญชีเงินฝากออนไลน์ที่เปิดบัญชีสะดวกผ่าน K PLUS โดยไม่ต้องไปสาขา ไม่มีขั้นต่ำในการเปิดบัญชี (0 บาท) รับดอกเบี้ยสูง 1.50% ต่อปี ไม่เคยมีบัญชีกสิกรไทยมาก่อนก็สามารถเปิดบัญชีได้ โดยสามารถยืนยันตัวตนได้ที่จุด K CHECK ID กว่า 20,000 จุดทั่วประเทศ เช่น ตู้ ATM ธนาคารกสิกรไทย ร้านสะดวกซื้อ 7-11 Big C mini และ ตู้บุญเติม (ฟรีไม่มีค่าธรรมเนียม)
ในปี 2567 ธนาคารตั้งเป้ายอดสมัครบัตรเดบิตทุกหน้าบัตรไว้ที่ 100,000 ใบ โดยมีแผนกระตุ้นยอดสมัครบัตรด้วยการเพิ่มสิทธิพิเศษ และส่วนลดสินค้าและบริการในชีวิตประจำวัน ทั้งการเดินทาง ร้านอาหาร ฟู้ดเดลิเวอรี ซุปเปอร์มาร์เก็ต ซื้อของออนไลน์ และดูหนัง ส่วนการออกบัตรเดบิตลายองค์เทพ กสิกรไทย ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่จะนำไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้เช่นกัน
ถือเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดของกสิกรไทยที่นำอินไซต์ พฤติกรรมลูกค้าจริงๆ เข้ามาเจาะตลาดให้สามารถตรงกลุ่มเป้าหมาย ตรงกับความต้องการ และเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันได้อย่างแท้จริง จากนี้คงต้องจับตาดูว่า บัตรเดบิต เอาใจคนสายมูนี้จะทะลุเกินความคาดหวังของธนาคารหรือไม่ แล้วในแง่ของธุรกิจการเงินถือ กสิกรไทย กล้าที่จะทำอะไรที่แปลกใหม่และโดนใจผู้บริโภคได้ดีทีเดียว