Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
Minor เผย ‘ลิซ่า’ ทํายอดจองรร.พุ่ง 40%  ดึงกลุ่มนทท.ลักซูเที่ยวไทย
โดย : ปาณิสรา สุทธิกาญจนวงศ์

Minor เผย ‘ลิซ่า’ ทํายอดจองรร.พุ่ง 40% ดึงกลุ่มนทท.ลักซูเที่ยวไทย

17 ก.พ. 68
19:14 น.
|
978
แชร์

ประเทศไทย’ หนึ่งในโลเคชั่นยอดฮิตที่ภาพยนต์ต่างประเทศนิยมเลือกมาถ่ายทำ โดยในปี 2567 มีภาพยนต์มาถ่ายทำในไทยแล้วกว่า 242 เรื่อง สร้างเงินสะพัดกว่า 3,600 ล้านบาท และนี่คือความภูมิใจของคนไทยที่ได้เห็นบ้านเมืองของเราถูกเลือกเป็นโลเคชั่นถ่ายหนังระดับโลก

แต่หนึ่งในซีรีส์ที่สร้างความตื่นเต้นให้แก่ชาวไทยเป็นอย่างมากนั่นก็คือ The White Lotus ซีซั่น 3 เพราะนอกจากจะเป็นซีรีส์ดังระดับโลกของ HBO แล้ว ยังมีนักแสดงแถวหน้าของโลกมาแสดงด้วย และที่สุดของความภาคภูมิใจของคนไทยคือการที่ ‘ลิซ่า - ลลิษา มโนบาล’ หรือ ‘ลิซ่า Black Pink’ ได้ร่วมแสดงและเป็นหนึ่งในตัวละครหลักอีกด้วย

ซึ่ง Minor หรือ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ตัวย่อในตลาดหุ้นไทยคือ MINT ได้เผยว่ากระแส ‘ลิซ่า’ ทําให้ยอดจองโรงแรมพุ่งขึ้นถึง 40% อานิสงส์จากซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 พร้อมดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับลักซูรี่เที่ยวประเทศไทย

ลิซ่า The White Lotus ซีซั่น 3  แม็กเน็ตท่องเที่ยวไทย ยอดจองรร.พุ่ง 40%

นายดิลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ได้เล่าว่า ซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ที่  ‘ลิซ่า’ ได้ร่วมแสดง จะมีส่วนช่วยผลักดันโปรโมทการท่องเที่ยวไทยสู่สายตาระดับโลก และจะดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับลักซูรี่เดินทางเที่ยวไทยมากขึ้น หวังตามรอยสถานที่ที่ถ่ายทำซีรีส์

เพราะขนาดตอนที่ ซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ยังไม่ทันออกอากาศ โรงแรมในเครือ MINT ที่เป็นสถานที่ถ่ายทำถึง 4 แห่ง ก็ยังได้รับอานิสงส์เต็มๆ โดยมียอดจองโรงแรมเพิ่มขึ้นกว่า 40% และคาดว่าหลังซีรีส์ได้ออนแอร์นักท่องเที่ยวน่าจะเพิ่มขึ้นตามลำดับ

เปิด 4 โรงแรมสถานที่ถ่ายทำ The White Lotus ซีซั่น 3 ในเครือ MINT

1.โฟร์ซีซั่นส์ รีสอร์ท เกาะสมุย

ค่าห้องแพงสุด 1 คืน สำหรับ 2 ท่าน  : 71,695 บาท

Serenity Pool Villa King 103 ตารางเมตร

2. อนันตรา ลาวาณา เกาะสมุย รีสอร์ท

ค่าห้องแพงสุด 1 คืน สำหรับ 2 ท่าน  : 30,147 บาท

Anantara Pool Villa 160 ตารางเมตร

3. โรงแรมอนันตรา ไม้ขาว ภูเก็ต วิลล่า

ค่าห้องแพงสุด 1 คืน สำหรับ 2 ท่าน  : 56,976 บาท

1 วิลล่า (ได้ทั้งหลัง) 199 ตารางเมตร

4. อนันตรา บ่อผุด เกาะสมุย รีสอร์ท

ค่าห้องแพงสุด 1 คืน สำหรับ 2 ท่าน : 24,215 บาท

ห้องลักชัวรี่สวีทวิวริมชายหาด 80 ตารางเมตร

*ทีม SPOTLIGHT ได้ค้นหาห้องพักใน Booking.com ณ ห้องที่ว่างวันที่ 20 ก.พ.-21 ก.พ.68

เปิดแผนปี 2568 ของ MINT มั่นใจท่องเที่ยวไทยคึกคัก อานิสงค์ The White Lotus ซีซั่น 3

MINT เตรียมพร้อมก้าวสู่อีกปีที่แข็งแกร่งในปี 2568 โดยใช้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากการเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3

นอกจากนี้ MINT อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดตัวโรงแรมเชิงกลยุทธ์ในประเทศสิงคโปร์ ญี่ปุ่น และซาอุดีอาระเบีย เพื่อขยายการดำเนินงานในตลาดสำคัญที่มีการเติบโตสูง ตลอดจนการเติบโตของร้านอาหารผ่านนวัตกรรมของแบรนด์ การปรับรูปแบบร้านค้าให้มีความหลากหลาย และการขยายแฟรนไชส์

ส่วนหนึ่งของแผนงานเชิงกลยุทธ์สำหรับปี 2567–2570 MINT ตั้งเป้า

  • อัตราการเติบโตของรายได้ต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่ร้อยละ 6-8
  • การเติบโตของกำไรสุทธิจากการดำเนินงานที่ร้อยละ 15-20
  • อัตราผลตอบแทนต่อเงินลงทุนมากกว่าร้อยละ 12
  • การขยายกลุ่มธุรกิจทั่วโลกสู่โรงแรม 850 แห่งและร้านอาหาร 4,000 แห่งภายในปี 2570

MINT โชว์ท็อปฟอร์มปี 67 กำไรพุ่ง 43% กวาด 7,750 ล้านบาท

ล่าสุด MINT ได้รายงานผลการดำเนินงานทางการเงินที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท โดยในปี 2567 มีรายได้จากการรดำเนินงานของบริษัทเติบโต8 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 166,034 ล้านบาท มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 43% หรืออยู่ที่ 7,750 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรอยู่ที่อยู่ที่ 3,632 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจโรงแรมขับเคลื่อนโดยการเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนและการขยายตัวของตลาด ควบคู่ไปกับผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของธุรกิจร้านอาหารที่ได้รับแรงหนุนจากนวัตกรรมของแบรนด์และจำนวนลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น

ธุรกิจโรงแรมเติบโตแกร่ง แรงหนุนท่องเที่ยวฟื้นตัว

ธุรกิจโรงแรมของ MINT ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการเดินทางทั่วโลกและการดำเนินการเชิงกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จในตลาดสำคัญ

  • ยุโรปและอเมริกา: รายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับปีก่อน นำโดยราคาห้องพักเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 ซึ่งได้รับแรงหนุนจากวินัยด้านการกำหนดราคาและการเดินทางในภูมิภาคที่สม่ำเสมอ โดยสเปนเป็นประเทศที่มีผลงานการเติบโตดีที่สุด รองลงมาคือยุโรปกลาง เบเนลักซ์ และอิตาลี
  • ประเทศไทย: รายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนพุ่งสูงขึ้น 17% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น การขยายเส้นทางการบิน และกลยุทธ์การขายแบบกำหนดเป้าหมายที่ดึงดูดนักเดินทางคุณภาพสูงจากสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย

โดยในปี 2567 MINT ยังคงขยายธุรกิจเชิงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง โดยเปิดโรงแรมใหม่ 30 แห่งที่มีห้องพักกว่า 3,000 ห้อง ภายใต้โมเดลธุรกิจ Asset-light Model เป็นหลัก ส่งผลให้ MINT มีฐานการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในเมืองสำคัญต่างๆ ทั่วทวีปเอเชีย ตะวันออกกลาง ยุโรป และโอเชียเนีย โดยการเปิดตัวโรงแรมครั้งสำคัญ ได้แก่ โรงแรม NH Collection Helsinki Grand Hansa ในประเทศฟินแลนด์ โรงแรม Anantara Stanley & Livingstone Victoria Falls ในประเทศซิมบับเว และ Anantara Jewel Bagh Jaipur Hotel ในรัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย ซึ่งช่วยเสริมสร้างความเป็นผู้นำของ MINT ในตลาดใหม่ๆ ที่มีอัตราการเติบโตสูง

ธุรกิจร้านอาหาร เฉลี่ยยอดขายรวมโตหมดทุกสาขา

ไมเนอร์ ฟู้ดประสบความสำเร็จในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งอีกปี โดยมียอดขายโดยรวมทุกสาขา (TSS) ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 8 % และสิงคโปร์มียอดขายรวมเติบโตขึ้น 12 %เป็นผลมาจากการขยายตัวของยอดขายต่อร้านเดิมและจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น

ความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนานวัตกรรมและแนวคิดที่ขับเคลื่อนโดยผู้บริโภคนำไปสู่การเปิดตัวแบรนด์และรูปแบบร้านค้าใหม่ๆ ที่ประสบความสำเร็จ เช่น ร้าน สเต็ก แอนด์ มอร์ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นตัวเลือกการรับประทานอาหารระดับพรีเมียมในราคาที่เข้าถึงได้ และร้าน แบทเทอร์แคช (สิงคโปร์) ซึ่งเป็นแนวคิดร้านฟิชแอนด์ชิปส์สมัยใหม่ที่ดึงดูดผู้บริโภคในเมือง

ในขณะเดียวกัน ไมเนอร์ ฟู้ดได้เร่งการขยายธุรกิจด้วย Asset-light Model ผ่านความสำเร็จของการขายแฟรนไชส์ทรัพย์สินทางปัญญาระดับโลกที่บริษัทเป็นเจ้าของ เช่น เบนิฮานา, ซิซซ์เล่อร์ และกาก้า โดยมีการเปิดร้านเบนิฮานาที่กรุงปารีส การเปิดสาขาซิซซ์เล่อร์หลายแห่งในประเทศญี่ปุ่นและเวียดนาม และการขยายสาขาร้านกาก้าทั่วประเทศไทย

ฐานะการเงินที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นสนับสนุนการเร่งการเติบโต

ความมุ่งมั่นของ MINT ในการรักษาวินัยทางการเงินช่วยลดภาระหนี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยสามารถบรรลุเป้าหมายสำคัญดังต่อไปนี้

  • อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นปรับตัวดีขึ้นจาก 1.0 เท่าในปี 2566 เป็น 0.8 เท่าในปี 2567
  • อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อกำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษีและค่าเสื่อมลดลงจาก 4.9 เท่าเป็น 4.3 เท่า

การลดภาระหนี้สินจำนวน 1 หมื่นล้านบาท ในปี 2567 ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงิน ลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย และเพิ่มศักยภาพในการสนับสนุนโครงการเติบโตที่ให้ผลตอบแทนสูง

นายดิลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม MINT แสดงความมั่นใจในแนวโน้มการเติบโตของบริษัท โดยกล่าวว่า “ผลการดำเนินงานที่เป็นประวัติการณ์ของ MINT ตอกย้ำความแข็งแกร่งของโมเดลธุรกิจและการดำเนินการเชิงกลยุทธ์ของเรา ด้วยงบแสดงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เราพร้อมที่จะเร่งการเติบโตในปี 2568 และในอนาคต เราจะยังคงใช้ประโยชน์จากแนวโน้มการท่องเที่ยวทั่วโลก ขยายโมเดลธุรกิจ Asset-light Model และขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมในธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารของเราต่อไป เราจะมุ่งเน้นไปที่การส่งมอบผลกำไรที่ยั่งยืนและเพิ่มมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาวขณะที่เราขยายฐานการดำเนินงานไปทั่วโลก”

ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

แชร์
Minor เผย ‘ลิซ่า’ ทํายอดจองรร.พุ่ง 40%  ดึงกลุ่มนทท.ลักซูเที่ยวไทย