Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
Rimping Supermarket ค้าปลีกท้องถิ่นที่ไม่ล้ม ไม่หาย ไม่ตายจากเชียงใหม่
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

Rimping Supermarket ค้าปลีกท้องถิ่นที่ไม่ล้ม ไม่หาย ไม่ตายจากเชียงใหม่

12 มี.ค. 68
17:58 น.
|
213
แชร์

สาขาใหม่ “ริมปิง ซูเปอร์มาร์เก็ต” หรู ปัง อลังการ

เมื่อได้ยินคำว่า “ร้านค้าปลีกท้องถิ่น” หลายคนอาจนึกถึงร้านขายของที่เน้นความเรียบง่าย แต่สินค้าจำเป็นมีครบครัน ตอบโจทย์ลูกค้าในพื้นที่ บรรยากาศอาจจะเก่าสักเล็กน้อย เพราะคนในชุมชนไม่ถือสาสักเท่าไหร่ แต่ไม่ใช่กับ “ริมปิง ซูเปอร์มาร์เก็ต” สาขาใหม่ล่าสุด ที่เปิดบริการไปเมื่อเดือนธันวาคม ปลายปี 2024 ณ โครงการ The Kad Farang คอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ สถานที่แห่งนี้มีตั้งแต่ผักผลไม้จากเกษตรกรในพื้นที่ ไปจนถึงสินค้านำเข้าหลากหลาย อาหาร ขนม ของใช้ที่ถูกจัดวางบนชั้นวางสินค้าอย่างสวยงาม และงานศิลปะสุดคลาสสิก ให้ลูกค้าได้ชอปปิ้งอย่างมีอรรถรส

จากสาขาแรกที่เปิดย่านสะพานนวรัฐ ริมแม่น้ำปิง ตั้งแต่พ.ศ. 2531 จนปัจจุบันขยายตัวสู่สาขาที่ 7 ของแบรนด์ สะท้อนให้เห็นว่าริมปิง ซูเปอร์มาร์เก็ตเติบโตได้ดีในเชียงใหม่ขนาดไหน และก่อนหน้านั้นในช่วงปลายปี 2023 ริมปิง ซูเปอร์มาร์เก็ตก็ได้เปิดสาขาสุดยิ่งใหญ่อลังการ Rimping Supermarket Meta Mall ใกล้แยกแม่วาง เพียบพร้อมทั้งพื้นที่กว้างขวาง ลานจอดรถและตัวเลือกสินค้า ส่วนสาขาอื่น ๆ กระจายตัวอยู่ทั้งกลางเมือง ไม่ว่าจะเป็นสาขานิ่มซิตี้ สาขาห้างเมญ่า และกระจายตัวออกไปในชานเมือง ได้แก่ สาขาโฮมโปร อำเภอสันทราย สาขามีโชค พลาซ่า แถวแม่โจ้ และสาขามะลิ เพลส แม่เหียะ

ริมปิง ซูเปอร์มาร์เก็ต อยู่ภายใต้บริษัท ตันตราภัณฑ์ซุปเปอร์มาร์เก็ต (1994) จำกัด หากย้อนดูรายได้และกำไรสุทธิตั้งแต่ปีพ.ศ. 2561 - พ.ศ. 2565 เห็นว่าตัวเลขของบริษัทเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ยกเว้นในปี พ.ศ. 2562 ที่ขาดทุนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19

ปี พ.ศ. 2561 รายได้ 1,747 ล้านบาท กำไร 25.21 ล้านบาท

ปี พ.ศ. 2562 รายได้ 442 ล้านบาท ขาดทุน 7 แสนบาท

ปี พ.ศ. 2563 รายได้ 1,449 ล้านบาท กำไร 48.20 ล้านบาท

ปี พ.ศ. 2564 รายได้ 1,342 ล้านบาท กำไร 41.85 ล้านบาท

ปี พ.ศ. 2565 รายได้ 1,413 ล้านบาท กำไร 70.76 ล้านบาท

จากโชห่วย “ตั้งฮั่วง้วน” สู่ซูเปอร์มาร์เก็ต 7 สาขา

ในปี พ.ศ. 2475 ตระกูลตันตรานนท์เปิดร้านขายของชำเล็ก ๆ ในตลาดวโรรส ภายใต้ชื่อ “ตัน ฮั่ว ง้วน” ซึ่งมีเถ้าแก่ง่วนชุ้น แซ่ตั้งเป็นต้นตระกูลและเจ้าของร้านแห่งนี้ ซึ่งเติบโตในมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ก่อนจะอพยพมาทำการค้าในจังหวัดเชียงใหม่ และร้านค่อนข้างมีชื่อเสียงตรงที่มีสินค้ามากมายครบครัน ทั้งเกลือ กะปิ น้ำปลา อาหารแห้ง หรือแม้แต่บุหรี่นำเข้าจากอังกฤษ ซึ่งสมัยนั้น ต้องใช้ใบอนุญาตตัวแทนจำหน่ายบุหรี่จากต่างประเทศ จึงต้องมีการเปลี่ยนนามสกุลเป็นชื่อไทยเป็น ‘ตันตรานนท์’ ในที่สุด

ภาพจาก https://rimping.com/about_us ข้อมูลจาก https://rimping.com/about_us

ร้านโชห่วยตั้งฮั่วง้วน นับว่าเติบโตขึ้นไวเพราะผ่านยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ท่ามกลางภาวะขาดแคลนสินค้าและข้าวยากหมากแพง แต่ร้านค้าแห่งนี้จัดหาของมาได้ จึงทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ จนตัดสินใจก้าวสู่อุตสาหกรรมค้าปลีก โดย ‘ธวัช ตันตรานนท์’ ลูกชายคนที่ 6 ของเถ้าแก่ง่วนชุ้น เป็นผู้สืบทอดกิจการต่อตัดสินใจซื้อที่ดินและสร้าง ‘ห้างตันตราภัณฑ์’ เป็นห้างแห่งแรกบนถนนท่าแพในรูปแบบตึก 3 ชั้น 5 คูหา และรุ่นหลาน ก็พยายามขยายสาขา 2 หรือสาขาช้างเผือกด้วย รวมถึงสร้างศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่างแอร์พอร์ตพลาซ่า แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าใดนัก

น่าเสียดายที่วิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งเข้าถาโถมอย่างหนักในขณะนั้น ห้างตันตราภัณฑ์ทั้งสองสาขาจำเป็นต้องปิดตัวลง ขณะเดียวกันศูนย์การค้าแอร์พอร์ตพลาซ่าก็ขายให้กับเซ็นทรัลพัฒนา และกลายมาเป็นเซ็นทรัลแอร์พอร์ตในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ตระกูลตันตรานนท์เดินเกมปรับตัวตั้งหลักได้ดี โดยตัดสินใจเก็บ ‘ซูเปอร์มาร์เก็ต’ เอาไว้ เพราะมองว่าเป็นสิ่งที่ถนัดที่สุด ด้วยการเติบโตมากับการขายโชห่วย จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่เกิด ‘ริมปิง ซูเปอร์มาร์เก็ต’ สาขาแรกในปี พ.ศ. 2531 ก่อนจะจดทะเบียนในนามบริษัทตันตราภัณฑ์ซุปเปอร์มาร์เก็ต (1994) จำกัด และค่อย ๆ เติบโตมาจนถึงปัจจุบัน

จับตลาดพรีเมียม ตามแนวคิดหลบใต้ท้องช้าง

หากถามว่าอะไรที่ทำให้ค้าปลีกแห่งนี้ อยู่ยืนยาวมาได้ถึงตอนนี้ สิ่งสำคัญคือการเข้าใจจุดแข็งของตัวเอง และหาข้อแตกต่าง หนึ่งในข้อแตกต่างนั้นคือการจับกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ ตามแนวคิดหลบใต้ท้องช้างของผู้บริหาร ซึ่งตลาดหลักในเชียงใหม่เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อไม่สูง ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่จึงมุ่งเน้นไปที่การตัดสินใจเลือกสินค้าที่ปริมาณมากกว่าคุณภาพ แต่ตันตราภัณฑ์เลือกที่จะไม่เอาตัวไปขวางทางช้าง เลือกที่จะไม่แข่งขันด้านปริมาณ เพราะแข่งไปก็จะมีแต่ถูกเหยียบ 

คุณวรวัชร ตันตรานนท์ หนึ่งในผู้บริหารของตันตราภัณฑ์เคยให้สัมภาษณ์ว่า ในขณะที่แบรนด์ใหญ่หลายเจ้ารุกคืบเข้ามาในเชียงใหม่และภาคเหนือ ริมปิง ซูเปอร์มาร์เก็ตเลือกที่จะวาง Positioning เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตระดับไฮเอนด์จับลูกค้าระดับบนที่ยังไม่เคยมีมาก่อนในตลาดเชียงใหม่ จับกลุ่มเป้าหมายเป็นชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในเชียงใหม่ และกลุ่มผู้ที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งผลลัพธ์ของความเติบโตในปัจจุบัน เป็นบทพิสูจน์การวางแนวคิดที่ถูกต้องมาตลอดหลายสิบปี

คุณเดฟ แม็คคอย ลูกค้าชาวอเมริกันวัย 67 ปี ซึ่งอาศัยอยู่กับครอบครัวชาวไทยมาเป็นเวลา 7 ปีแล้ว เล่าให้ฟังว่า ปกติเขาจะซื้อสินค้าจากริมปิง ซูเปอร์มาร์เก็ตเมื่อเดินทางเข้ากลางเมืองเชียงใหม่ โดยจะแวะที่สาขาเมญ่า สาขานิ่มซิตี้ ประมาณเดือนละ 1-2 ครั้ง แต่พอริมปิงมาเปิดสาขาล่าสุดที่แม่ริม ซึ่งใกล้บ้านเขามากกว่า ก็จะมีความสะดวกในการช็อปปิ้งและสังเกตว่ามาซื้อของถี่ขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย แต่ก่อนจะซื้อพวกแฮม เนื้อสัตว์แปรรูปนำเข้า เป็นหลัก พอมีสาขาใกล้บ้านก็หันมาซื้ออาหารสำเร็จรูป ผักและผลไม้จากที่นี่ด้วย

เข้าใจผู้บริโภคทุกยุค สายกรีน สายเฮลท์ สายด่วน!

อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ริมปิง ซูเปอร์มาร์เก็ตมาถูกทาง คือการปรับตัวให้เข้ากับยุคและเข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ในยุคที่ประเทศไทยเริ่มรณรงค์เรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม และมีการโต้เถียงกันถึงการลดใช้ถุงพลาสติก ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้เป็นเจ้าแรก ๆ ที่มีนโยบายงดแจกถุง และหันมาส่งเสริมให้ลูกค้าใช้ถุงผ้า รวมถึงบรรจุภัณฑ์ของสินค้า ยังเน้นที่การใช้วัสดุรักษ์โลกเป็นหลัก นับว่าได้ใจสายกรีนไปเต็ม ๆ และการใส่ใจสิ่งแวดล้อมยังเป็นแนวทางปฏิบัติและเป็นภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งของริมปิง ซูเปอร์มาร์เก็ตมาจนถึงทุกวันนี้

ทีมข่าว Spotlight สำรวจโซนผัก-ผลไม้ ที่มีตั้งแต่ผักจากไร่ท้องถิ่นในภาคเหนือ ผลไม้จากอุตสาหกรรมเกษตรทั่วไทย ไปจนถึงผักผลไม้นำเข้าจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะมาจากที่ไหน แพคเกจจิงจะมีสติกเกอร์กลม ๆ ติดอยู่ บางห่อเป็นสีขาว สีฟ้า สีแดงและอื่น ๆ นี่คือหนึ่งในกลยุทธ์ 5 Colors Coded Vegetables ที่เป็นการบ่งบอกแหล่งที่มาของผัก จำแนกระบบเพาะปลูก โดยสติ๊กเกอร์สีเขียว คือผักอินทรีย์ออร์แกนิค ไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์ใด ๆ ซึ่งได้เป็นฟาร์มที่มีใบรับรองถูกต้อง เช่นเดียวกันกับสีฟ้าเป็นผักปลอดสาร แต่ฟาร์มอาจไม่มีใบรับรอง สีเหลืองคือผักปลอดภัยที่ใช้สารเคมีในกระบวนการผลิตในปริมาณที่เหมาะสม  สีขาว คือผักไฮโดรโพนิกส์ และสีแดง คือผักทั่วไปที่วางขายตามตลาด

การแบ่งสีดังกล่าว นับว่าได้ใจลูกค้าสายรักษ์สิ่งแวดล้อมและรักสุขภาพเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในยุคที่ตัวเลขโรคร้ายของคนไทยพุ่งสูงขึ้น และผู้คนที่มีกำลังซื้อมักมองหาวัตถุดิบที่ปลอดภัยต่อสุขภาพมากกว่า ซึ่งริมปิง ซูเปอร์มาร์เก็ตจับจุดเด่นทางการตลาดได้เป็นอย่างดี หลังจากพูดคุยกับผู้จัดการร้านสาขา The Kad Farang ทางผู้จัดการเปิดเผยว่า กระแสตอบรับของลูกค้ารู้สึกพึงพอใจกับการแบ่งสีบนแพ็คเกจจิงของผัก เพราะช่วยสร้างความมั่นใจและทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ

มาจนถึงยุคที่โรคระบาดโควิด-19 สร้างแรงกระเพื่อมต่อพฤติกรรมผู้บริโภค ให้มีความคุ้นเคยกับการสั่งอาหาร สั่งของใช้ ผ่านบริการเดลิเวอรี ริมปิง ซูเปอร์มาร์เก็ตก็ปรับตัวได้ดี เปิดช่องทางเข้าถึงลูกค้าออนไลน์มากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากการทำโปรโมชัน ลดราคาแบบจัดเต็มให้กับการสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์


แชร์
Rimping Supermarket ค้าปลีกท้องถิ่นที่ไม่ล้ม ไม่หาย ไม่ตายจากเชียงใหม่