หากใครยังพอจำกันได้ ช่วงเวลานี้ของปีที่แล้ว Taylor Swift ได้มีการประกาศ The Eras Tour 2024 ทั่วโลก ซึ่งพบว่ามีเพียง 2 ประเทศเท่านั้นในโซนเอเซียที่ได้รับชม นั่นก็คือประเทศญี่ปุ่น และสิงคโปร์
การพลาดโอกาสได้จัดคอนเสิร์ตของ Taylor Swift ในประเทศไทยจะเรียกว่าเป็นบทเรียนให้กับภาครัฐก็เป็นไปได้เพราะผลที่ได้ตามมาคืนสู่เศรษฐกิจอย่างมหาศาล เห็นได้ชัดคือการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของสิงคโปร์หลังการจัดคอนเสิร์ตของ Taylor Swift จน ถูกเรียกว่าเป็น Swiftonomics สร้างเงินสะพัดให้แก่ประเทศราว10,000 ล้านบาท หนุน GDP ประเทศกว่า 2.9% ด้านนายกรัฐมนตรีไทยขณะนั้น นายเศรษฐา ทวีสิน ถึงกับออกปากว่า “หากรู้เร็วกว่านี้ ตนอาจจะไปทำข้อตกลงก่อนสิงคโปร์ก็เป็นได้”
โดยรัฐบาลสิงคโปร์ได้มีการเจรจาและทำข้อตกลงดันให้สิงคโปร์เป็นหมุดหมายเดียวสำหรับการจัดคอนเสิร์ต The Ears Tour ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมกับสนับสนุนเงินกว่า 500 ล้านบาท และในช่วงเวลานั้นสิงคโปร์ได้เกิด Swiftonomics
ผ่านมาแล้วเกือบ 1 ปี มาในปี 2568 นี้ Lady Gaga ศิลปินระดับโลกชาวอเมริกัน ก็ยังคงเลือกสิงคโปร์แสดงคอนเสิร์ตประเทศเดียวในเอเชีย ยังไร้เงาประเทศไทยในสายตา ทำไมเราถึงไม่ถูกเลือก? หรือนี่อาจซ้ำรอย Taylor Swift บทความนี้ SPOTLIGHT ชวนทุกคนมาหาคำตอบ
ล่าสุด Lady Gaga ศิลปินระดับโลกชาวอเมริกัน เจ้าของเพลงฮิตติดหูอย่างเพลง Die with A Smile ได้ประกาศ World Tour และได้เลือกสิงคโปร์ เป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ตนจะจัดแสดงคอนเสิร์ตในครั้งนี้
โดยจะมีการจัดแสดงถึง 4 รอบด้วยกัน ในวันที่ 18, 19, 21 และ 24 พ.ค.68 ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ (Singapore National Stadium) ซึ่งคาดว่าสิงคโปร์จะสามารถต้อนรับผู้ชมได้มากกว่า 200,000 คน
ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มีการโพสต์ลงบน Facebook ส่วนตัวทันทีหลัง Lady Gaga ประกาศเลือกสิงคโปร์
ยินดีกับสิงคโปร์ด้วยที่สามารถเซ็นสัญญากับ Lady Gaga จัดคอนเสิร์ต 4 รอบ ซึ่งกลายเป็นประเทศเดียวในเอเชียที่จะมีการแสดง โดยคอนเสิร์ตจะจัด ขึ้นที่ Singapore National Stadium ซึ่งรองรับผู้ชมได้ราว 55,000 คน ทุกคนลองจินตการภาพเม็ดเงินที่สิงคโปร์จะได้รับจากการจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ดูครับ
“ความจริงประเทศไทยเราทำได้นะครับ และนี่เป็นเหตุผลที่เมื่อวานในงาน ‘The NEXT REAL’ ผมพูดถึงเรื่องการสนับสนุนให้ประเทศไทยลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และการมี Entertainment complex เราต้องมีเพื่อโอกาสของประเทศ และโอกาสของประชาชนที่จะมีรายได้เข้ากระเป๋าครับ” นายเศรษฐา ระบุ
สำนักข่าว The Independent ได้รายงานว่า หลังสิงคโปร์ กลายเป็นจุดหมายเดียวของ Lady Gaga ในเอเชีย และแม้ว่าตอนนี้ราคาตั๋วจะยังไม่ถูกประกาศออกมาและจะเริ่มเปิดให้จองก่อนในสัปดาห์หน้า (18 มีนาคม) แต่แพลตฟอร์มออนไลน์ด้านการท่องเที่ยว Agoda เผยว่า จำนวนการค้นหาที่พักในสิงคโปร์ได้เพิ่มขึ้นถึง 358% สะท้อนให้เห็นถึงการรอคอยของแฟนๆที่กำลังเตรียมเดินทางมายังสิงคโปร์ ความนิยมที่เพิ่มขึ้นนี้ ไม่ใช่แค่สะท้อนความดังระดับโลกของ Lady Gaga เท่านั้นแต่ยังเป็นตัวชี้วัดถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นจาก "คอนเสิร์ตเศรษฐกิจ" ที่สิงคโปร์วางยุทธศาสตร์มาอย่างยาวนาน ด้วยการเป็น "เมืองหลวงแห่งงานกิจกรรมและความบันเทิงของเอเชีย" เช่นเดียวกันกับตอนคอนเสิร์ต Eras ของ Taylor Swift ที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้สิงคโปร์
อย่างไรก็ตาม อย่างกันที่เรารู้กันว่าตอนคอนเสิร์ต Eras ของ Taylor Swift รัฐบาลสิงคโปร์ได้มีเจรจาส่วนตัว "ได้ให้การสนับสนุนงานนี้ผ่านเงินช่วยเหลือ" พร้อมกับสนับสนุนเงินครั้งละ 100 ล้านบาท/โชว์ 1 ครั้ง หรือราว 500 ล้านบาท (แสดง 5 ครั้ง) ทำให้แฟนๆหลายๆคนต่างตั้งคำถามว่าครั้งนี้จะเกิดดีลลับอีกหรือไม่
ล่าสุด สำนักข่าว CNA ได้รายงานว่า รัฐบาลสิงคโปร์ได้ยืนยันไม่ได้ให้เงินอุดหนุนใดๆ เพื่อจัดคอนเสิร์ตของ Lady Gaga ที่กำลังจะเกิดขึ้นที่สิงคโปร์
นายเอ็ดวิน ตง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ชุมชน และเยาวชน ได้เล่าว่า การจัดการคอนเสิร์ตนั้นดำเนินการโดย Kallang Alive Sport Management (KASM) โดยตรง
“พวกเขาเจรจากับศิลปินและทีมงานของเธอโดยตรง รวมถึง Live Nation ด้วย และไม่มีการให้เงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเพื่อรับรองงานนี้ นี่เป็นข้อตกลงเชิงพาณิชย์ล้วนๆ ระหว่างศิลปินและสถานที่จัดงาน”
โดย KASM ทำหน้าที่คล้ายคลึงกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ของบ้านเรา ที่ดูแลท่องเที่ยว แต่บทบาทของKASM คือการรับผิดชอบด้านการบันเทิงและกีฬากีฬา มีหน้าที่ประสานส่งเสริมให้มหกรรมกีฬาหรือการแสดงโชว์ต่างๆในระดับนานาชาติ เลือกสิงคโปร์ เพื่อผลักดันให้สิงคโปร์หลายเป็นหมุดหมายที่น่าสนใจสำหรับงานระดับโลก ซึ่งข้อตกลงของการดีลงานต่างๆก็จะมีการสนับสนุนและเจรจารที่แตกต่างกันออกไป
สำหรับแฟนๆ Lady Gaga ชาวไทย คงอดตั้งคำถามเดียวกันกับผู้เขียนไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงไม่เลือกเราแต่เลือกประเทศเพื่อบ้านอย่างสิงคโปร์ และก็คงอดเปรียบเทียบไม่ได้ว่าสนามกีฬาแห่งชาติของเราอย่าง ‘ราชมังคลากีฬาสถาน’ ก็มีไซส์ใหญ่เทียบเท่าและสามารถจุคนได้เยอะกว่า 50,000 คนไม่ต่างอะไรกับ Singapore National Stadium เลย
แต่หากเราเคยไปดูไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตของศิลปิน หรือการแข่งขันฟุตบอล เราจะรู้สึกได้เลยว่า ข้อเสียที่หลายๆคนกลัว คือเรื่องของ “การเดินทาง” และเป็นที่ร่ำลือกันว่าประเทศไทยอยู่ที่ไหนก็ต้องเจอแต่รถติด และลองคิดดูว่าคนดูกว่า 50,000 คนกลับบ้านพร้อมกัน จะน่าขนหัวลุกขนาดไหน
สำหรับคนที่เอารถยนต์ส่วนตัวมาขากลับก็คงต้องติดหงักค้างอยู่ในสนามกว่าชั่วโมง ใครที่เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะก็จะพบว่าการเดินทางนั้นต้องเดินทางหลายต่อ เช่น
ส่วนใครที่ออกไปเรียกรถข้างนอก ไม่ว่าจะเป็นแท็กซี่ หรือ มอเตอร์ไซต์รับจ้างก็ไม่พ้นต้องโดนต้องเรียกแบบเหมาจ่าย ไม่กดมิเตอร์ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาตินาทีนั้นก็คงต้องยอมกับพวกเขาโกงราคากันสุดๆเพื่อแลกกับการกลับบ้านไว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้เขียนจะยังไม่เคยมีโอกาสไปดูคอนเสิร์ตที่ Singapore National Stadium ของสิงคโปร์แต่เคยได้มีโอกาสไปดูคอนเสิร์ตที่ Sydney Olympic Park ที่เป็นสนามกีฬาของซิดนีย์ครั้งเมื่อเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก (สามารถจุคนได้มากกว่า 83,000 คน) แต่จากประสบการณ์การพบว่าทั้งผู้จัดและรัฐบาลออสเตรเลียมีการจัดการที่ดีเยี่ยม เช่น สนามกีฬา Sydney Olympic Park สามารถเดินทางโดยรถไฟโดยไม่ต้องมีการแวะเปลี่ยนสถานีใด และในวันที่มีการคอนเสิร์ตใหญ่ รถไฟนี้จะแวะแค่สถานีหลักๆและมุ่งตรงสู่ Sydney Olympic Park ไม่เกิน 30 นาที จากสถานี Central Station (เหมือนสถานีสยาม) และที่สำคัญคือเดินทางฟรีในวันงาน
หลังจากหาข้อมูลพบว่าการเดินทางไปสนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์นั้นก็เดินทางง่ายมากโดยสามารถเดินทางผ่าน MRT ได้โดยตรง
ซึ่งจากการที่ Lady Gaga และ Taylor Swift ไม่เลือกประเทศไทยเป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตของพวกเธอ ก็อาจทำให้รัฐบาลไทยต้องคิดหนักว่าเราควรมีอะไรเพื่อไปเจรจารต่อรองให้สำเร็จ และหากเราเลือกมาจัดที่ประเทศไทยจริงๆ แล้วรัฐบาลจะสามารถอำนวยความสะดวกในเรื่องของระบบขนส่งสาธารณะ และโครงสร้างพื้นฐานต่างๆได้สมบูรณ์แค่ไหน?
สำหรับประชาชนคนไทยอย่างเราก็ได้แต่หวังให้ประเทศไทยของเราได้ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นไม่แพ้เพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ และวันนั้นเราคงถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในหมุดหมายของการจัดคอนเสิร์ตระดับโลกได้อย่างไม่ยาก
อ้างอิง :