ข่าวใหญ่ในธุรกิจสื่อช่วงนี้มีมาอย่างต่อเนื่อง อีกหนึ่งดีลที่น่าสนใจคือกรณีบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัทมีมติอนุมัติให้ บริษัท ไทยบรอดคาสติ้ง จำกัด (“THB”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ WORK เข้าไปลงทุนโดยการซื้อหุ้นสามัญเดิม และหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท โคตรคูล จำกัด (“KK”) ของศิลปินชื่อดัง โอ๊ต ปราโมทย์ ในวงเงินไม่เกิน 216 ล้านบาท
ภายหลังการเข้าลงทุนดังกล่าวจะทำให้ THB มีสัดส่วนในการถือหุ้นร้อยละ 49 และผู้ถือหุ้นเดิมมีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 51 ของหุ้นสามัญทั้งหมดใน KK
โดย KK เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจผลิตและออกอากาศรายการในช่องทางออนไลน์ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เป็นหลัก และการลงทุนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างศักยภาพธุรกิจรายการต่าง ๆ ในช่องทางออนไลน์และเพิ่มความหลากหลายของการคำเนินธุรกิจ รวมทั้งสร้างโอกาสในการเดิบโตร่วมกันของทั้ง 2 ฝ่าย
โอ๊ต ปราโมทย์ หลายท่านคุ้นเคยกับบทบาทของศิลปินนักร้องที่ประสบความสำเร็จ แต่เมื่อเจาะลึกเข้าไปดูธุรกิจนั้่นคือ บริษัท โคตรคูล ที่โอ๊ต ปราโมทย์ เป็นเจ้าของอยู่ ก็พบความน่าสนใจในทิศทางการเติบโตในอนาคต จึงไม่แปลกใจ หากเวิร์คพอยท์ จะเล็งเห็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจร่วมกัน โดยประเมินจากมูลค่าโคตรคูล ที่ เวิร์คพอยท์ ลงทุน 216 ล้านในสัดส่วน 49% นั่นเท่ากับมูลค่าของรวมของโคตรคูลสูงกว่า 400 ล้านบาททีเดียว
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า บริษัท โคตรคูล ก่อตั้งโดย โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อ 6 มิ.ย. 2560 ด้วยทุนจดทะเบียน 1,026,100.00 บาท
ธุรกิจหลักของ โคตรคูล คือการ ผลิตและออกอากาศรายการในช่องทางออนไลน์ของตัวเอง โดยเพจ FB ของโคตรคูล มีผู้ติดตาม 1 ล้าน Followers ส่วนช่อง Youtube 3.03 ล้าน Subscribers ตัวอย่างรายการของโคตรคูล ส่วนใหญ่เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ เช่น Camp ปลิ้น , Vlog นะเด็กโง่ , จีบหนูหน่อย หนูอ่อยไม่เป็น , โต้วาเทย และอื่นๆอีกหลายรายการ รวมถึงล่าสุดที่ร่วมกับ Workpoint ในการจัดทอล์คโชว์ อุนเนอร์ แมน STAND ALONE โดย อุล ภาคภูมิ จงมั่นวัฒนา
ปี 2562 รายได้ 29.65 ล้านบาทกำไร4.65 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 37.41 ล้านบาท กำไร 2.51 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 80.22 ล้านบาท กำไร 6.08 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 112.46ล้านบาท กำไร 18.18 ล้านบาท
ขณะที่ วันนี้ราคาหุ้นของWORK ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.68% ราคาอยู่ที่ 11.50 บาท/หุ้น ซึ่งนอกจากข่าวการเข้าลงทุนในโคตรคูลแล้ว ก่อนหน้านี้ WORK ได้แจ้งผลประกอบการไตรมาส 3/66 บริษัทมีกำไร 14.72 ล้านบาท ลดลง 78% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 65.53 ล้านบาท โดยมีรายได้รวมไตรมาส 3/66 เท่ากับ 614.18 ล้านบาท ลดลง 1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งมีรายได้จากธุรกิจรายการโทรทัศน์รวมเท่ากับ 506.53 ล้านบาท ลดลง 4% เป็นไปตามการลดลงของเม็ดเงินโฆษณาซึ่งได้รับผลกระทบทั้งจากสภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้นการลงทุนใหม่ๆ จึงอาจเป็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจในอนาคต