ตลาดน้ำอัดลมสหรัฐฯ ต้องสั่นสะเทือน! เมื่อ Dr Pepper สร้างปรากฏการณ์พลิกโฉมครั้งประวัติศาสตร์ แซงหน้า Pepsi ขึ้นแท่นน้ำดำยอดฮิตอันดับ 2 ได้สำเร็จ หลังจาก Pepsi ครองตำแหน่งนี้มากว่า 3 ทศวรรษ อะไร คือ เคล็ดลับความสำเร็จของ Dr Pepper? มาร่วมหาคำตอบไปพร้อมกัน
Dr Pepper ได้กลายเป็นน้ำอัดลมยอดฮิตอันดับสองในสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ แซงหน้า Pepsi ซึ่งครองตำแหน่งนี้มายาวนานตั้งแต่ปี 1985 ไปได้สำเร็จ จากข้อมูลล่าสุดของ Beverage Digest ระบุว่ายอดขายของ Dr Pepper แซง Pepsi ไปอย่างฉิวเฉียด โดยทั้งสองแบรนด์มีส่วนแบ่งการตลาดเท่ากันที่ 8.3%
แม้ว่าจะสามารถแซง Pepsi ได้ แต่ Dr Pepper ยังคงตามหลัง Coke ซึ่งเป็นผู้นำตลาดน้ำอัดลมอยู่มาก โดย Coke มีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 19.2% นอกจากนี้ แบรนด์อื่นๆ ในเครือ Coca-Cola ยังคงติดอันดับ Top 5 อย่างเหนียวแน่น ได้แก่ Sprite ซึ่งครองอันดับ 4 ด้วยส่วนแบ่ง 8.1% และ Diet Coke ในอันดับ 5 ด้วยส่วนแบ่ง 7.8%
Dr Pepper ได้ถือกำเนิดขึ้นที่เมืองวาโก รัฐเท็กซัส ก่อนที่ Coca-Cola จะถูกสร้างขึ้นในปี 1886 และ Pepsi ในปี 1893 ถึง 1 ปี ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ Dr Pepper นั้นมาจากรสชาติที่หลากหลาย การลงทุนในกลยุทธ์ทางการตลาด และการกระจายสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตามรายงานของ Digest
เมื่อเร็วๆ นี้ ทาง Duane Stanford บรรณาธิการของ Digest ให้สัมภาษณ์กับ CNN หลังจากทราบผลว่า "Dr Pepper มีแนวโน้มเติบโตขึ้น ในขณะที่ Pepsi กำลังลดลง และทั้งสองแบรนด์กำลังมาบรรจบกัน" การก้าวขึ้นสู่อันดับสองของ Dr Pepper เกิดขึ้นหลังจากการเปิดตัวรสชาติใหม่ล่าสุด รสที่ 24 ของแบรนด์ คือ Dr Pepper Creamy Coconut ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
รสชาติลิมิเต็ดอิดิชั่นนี้ มีให้เลือกทั้งแบบธรรมดาและแบบไม่มีน้ำตาล โดยมี "รสชาติมะพร้าวแบบทรอปิคอลหลายชั้น และรสชาติครีมมี่ที่อร่อย" และเป็น "โซดาสีดำรสมะพร้าวครีมเดียวในตลาด" จากข่าวประชาสัมพันธ์ ในการเปิดตัวและทดลองชิมเครื่องดื่มรสชาติใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากฤดูร้อนนี้ PEOPLE สังเกตเห็นกลิ่นหอมของผลไม้เมืองร้อนที่โดดเด่นเมื่อเปิดกระป๋องทั้งแบบธรรมดาและแบบไม่มีน้ำตาล ซึ่งให้ความสมดุลที่ดีระหว่างรสชาติมะพร้าว ซึ่งชวนให้นึกถึง Virgin Piña Colada กับรสชาติของโซดาอันเป็นที่รัก
การขึ้นแท่นน้ำอัดลมยอดฮิตอันดับ 2 ของ Dr Pepper ไม่เพียงแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในตลาดน้ำดำสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่ง และการตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด ตัวอย่างเช่น การเปิดตัวรสชาติใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น Dr Pepper Creamy Coconut ที่มีรสชาติแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ทำให้แบรนด์สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ ได้สำเร็จ นอกจากนี้ การลงทุนในช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย และการสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านสื่อต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ Dr Pepper เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ถึงแม้ว่า Coke จะยังคงเป็นผู้นำตลาดอย่างไม่เปลี่ยนแปลง แต่ Dr Pepper ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง สามารถสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ให้เกิดขึ้นได้เสมอ การแข่งขันในตลาดน้ำอัดลมยังคงดุเดือด และน่าจับตามองว่า Dr Pepper จะสามารถรักษาตำแหน่งนี้ไว้ได้นานแค่ไหน และจะมีกลยุทธ์อะไรใหม่ๆ มาสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดในอนาคต
ที่มา people