Netflix เดินหน้ารุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หวังเจาะกลุ่มผู้ชมในประเทศด้วยการผลิตคอนเทนต์ท้องถิ่นที่หลากหลายและโดนใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์แนววิทยาศาสตร์เรื่องแรกของอินโดนีเซีย หรือภาพยนตร์ซอมบี้วันสิ้นโลกจากฟิลิปปินส์ พร้อมส่งท้ายปี 2024 ด้วยคอนเทนต์ท้องถิ่นสุดเข้มข้นอีกเพียบ
Netflix เดินหน้าตีตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หวังเจาะกลุ่มผู้ชมในประเทศด้วยการผลิตคอนเทนต์ท้องถิ่นที่หลากหลายและโดนใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์แนววิทยาศาสตร์เรื่องแรกของอินโดนีเซีย หรือภาพยนตร์ซอมบี้วันสิ้นโลกจากฟิลิปปินส์
ปีนี้ Netflix เตรียมปล่อยคอนเทนต์ออริจินัลจากไทย 10 เรื่อง และจากอินโดนีเซียอีก 6 เรื่อง เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด
"เราให้ความสำคัญกับการนำเสนอคอนเทนต์ที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ชมในแต่ละประเทศที่ยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ" รุสลี เอ็ดดี้ ผู้จัดการฝ่าย Netflix Local Originals ในอินโดนีเซีย กล่าว
ล่าสุด Netflix ได้เปิดตัว "Nightmares and Daydreams" ซีรีส์ระทึกขวัญแนววิทยาศาสตร์เหนือธรรมชาติจากอินโดนีเซีย และ "Doctor Climax" ซีรีส์ตลก-ดราม่าจากไทย ซึ่งทั้งสองเรื่องก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมในประเทศตัวเอง แม้เมื่อ Netflix เข้าสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2559 คอนเทนต์จากฮอลลีวูดและเกาหลีใต้จะมาแรง แต่ปัจจุบันคอนเทนต์ท้องถิ่นก็เริ่มได้รับความนิยมไม่แพ้กัน สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสทองของตลาดคอนเทนต์ในภูมิภาคนี้
ไม่เพียงแต่เพิ่มปริมาณคอนเทนต์ท้องถิ่นให้หลากหลายและโดนใจผู้ชมในแต่ละประเทศมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังปรับลดค่าบริการเพื่อรักษาฐานลูกค้าและสู้ศึกกับคู่แข่งในตลาดที่กำลังร้อนแรง
โดยในรายงานล่าสุดจาก Media Partners Asia (MPA) เผยว่า คอนเทนต์ท้องถิ่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังมาแรง ไม่แพ้ซีรีส์เกาหลีหรืออนิเมะญี่ปุ่น ทำให้ Netflix เดินหน้าเพิ่มคอนเทนต์ท้องถิ่นแบบจัดเต็ม ทั้งซีรีส์และภาพยนตร์ จากไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เพื่อตอบรับกระแสความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าเมื่อ Netflix เข้าสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2559 คอนเทนต์จากฮอลลีวูดและเกาหลีใต้จะได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม แต่ในปัจจุบัน รายการท้องถิ่นก็เริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและโอกาสในการเติบโตของตลาดคอนเทนต์ท้องถิ่นในภูมิภาคนี้
อย่างไรก็ตาม Netflix ยังคงเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงกับคู่แข่งทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก แม้ว่าจะยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในกลุ่มผู้ให้บริการวิดีโอออนดีมานด์ระดับพรีเมียมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในไตรมาสแรกของปี 2567 แต่ก็มีการปรับลดค่าบริการสำหรับประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อปีที่แล้ว เพื่อรักษาฐานผู้ชมและดึงดูดผู้ชมใหม่ พร้อมทั้งร่วมมือกับผู้ให้บริการท้องถิ่นเพื่อเสนอแพ็กเกจรวมให้กับสมาชิก
Netflix เตรียมส่งท้ายปี 2024 ด้วยคอนเทนต์ท้องถิ่นจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สุดเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็น "Borderless Fog" ภาพยนตร์ระทึกขวัญสืบสวนสอบสวนจากอินโดนีเซีย ที่จะพาผู้ชมไปสัมผัสกับคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสุดระทึกใกล้ชายแดนมาเลเซียบนเกาะบอร์เนียว หรือ "Tomorrow and I" ซีรีส์กวีนิพนธ์จากประเทศไทย ที่จะสำรวจจุดตัดระหว่างเทคโนโลยีล้ำยุคและวัฒนธรรมไทยอันเป็นเอกลักษณ์ และที่พลาดไม่ได้คือ "Outside" ภาพยนตร์ซอมบี้สัญชาติฟิลิปปินส์เรื่องแรกของ Netflix ที่จะพาผู้ชมหนีตายจากฝูงซอมบี้สุดระทึกในฟาร์มห่างไกล
กระแสความนิยมคอนเทนต์ท้องถิ่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสทองของตลาดคอนเทนต์ในภูมิภาคนี้
ทั้งนี้ รายงานจาก Media Partners Asia (MPA) ระบุว่า ภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด 10 อันดับแรกในช่วงต้นปี 2024 ในอินโดนีเซีย มีภาพยนตร์ที่ผลิตในประเทศถึง 7 เรื่อง ซึ่งเป็นการพลิกโฉมจากแนวโน้มในอดีตที่ภาพยนตร์ฮอลลีวูดและภาพยนตร์ต่างประเทศอื่นๆ ครองตลาด
Carlo Ledesma ผู้กำกับภาพยนตร์ "Outside" กล่าวว่า "ความฝันของผมคือการเล่าเรื่องที่ดึงดูดความสนใจของผู้ชมทั่วโลก และส่องแสงให้โลกได้เห็นด้านของเรา" นี่คือเสียงสะท้อนความมุ่งมั่นของผู้ผลิตคอนเทนต์ในภูมิภาค ที่ต้องการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพเพื่อเข้าถึงผู้ชมในวงกว้าง
โดยจากข้อมูลของ YouGov ในช่วงปี พฤศจิกายน 2023 พบว่า Netflix ยังคงเป็นผู้นำตลาดอันดับหนึ่งในไทย ด้วยส่วนแบ่งตลาด 35% เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ใช้บริการ VDO Streaming บอกรับสมาชิกทั้งหมด รองลงมาได้แก่ TrueID (22%), Disney+Hotstar (13%), Viu (11%), WeTV (11%), iQIYI (10%), AIS Play (7%), Amazon Prime Video (4%) และ Apple TV+ (3%)
นอกจากนี้ ข้อมูลจาก WeTV พบว่า คนไทยสมัครเป็นสมาชิก VDO Streaming มากถึง 26 ล้านคน และมากถึง 92% ใช้บริการ VDO Streaming มากกว่า 1 แพลตฟอร์ม และแม้ว่าเมื่อ Netflix เข้าสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2559 คอนเทนต์จากฮอลลีวูดและเกาหลีใต้จะได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม แต่ในปัจจุบัน รายการท้องถิ่นก็เริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและโอกาสในการเติบโตของตลาดคอนเทนต์ท้องถิ่นในภูมิภาคนี้
โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลัก คือ ความต้องการคอนเทนต์ท้องถิ่นที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากข้อมูลของ YouGov ที่ระบุว่า Netflix ยังคงเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทยด้วยส่วนแบ่ง 35% และข้อมูลจาก WeTV ที่แสดงให้เห็นว่า คนไทยนิยมใช้บริการ VDO Streaming มากกว่า 1 แพลตฟอร์ม บ่งชี้ว่าผู้บริโภคมีความต้องการคอนเทนต์ที่หลากหลายและพร้อมที่จะจ่ายเงินเพื่อรับชมคอนเทนต์ที่ตรงกับความสนใจของตนเอง
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดสตรีมมิ่งยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ผู้ให้บริการต่างๆ พัฒนาคุณภาพและความหลากหลายของคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงนำเสนอแพ็กเกจและโปรโมชั่นที่น่าสนใจเพื่อดึงดูดผู้บริโภค ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้บริโภคในระยะยาว
นอกจากนี้ การเติบโตของตลาดสตรีมมิ่งในไทยยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ เช่น ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ การแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ให้บริการรายใหม่ และความผันผวนของเศรษฐกิจ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของตลาดได้
แต่ด้วยแนวโน้มการเติบโตของผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนในประเทศไทย รวมถึง การลงทุนอย่างต่อเนื่องของผู้ให้บริการสตรีมมิ่งในการผลิตคอนเทนต์ท้องถิ่นที่มีคุณภาพ ตลาดสตรีมมิ่งในประเทศไทยยังคงมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
ที่มา NikkeiAsia และ YouGov