แม้สถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายลง ธุรกิจส่งอาหารในประเทศไทยยังคงร้อนแรงไม่แพ้รสชาติอาหารยอดนิยม แม้คาดการณ์ว่าตลาดจะชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่ 3 แพลตฟอร์มหลักอย่าง Grab, LINE MAN, foodpanda ( Robinhood กำลังจะปิดตัวในวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 นี้) ยังคงขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาด ท่ามกลางความท้าทายจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ต้นทุนที่สูงขึ้น และการแข่งขันที่รุนแรง บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจภาพรวมธุรกิจเดลิเวอรี่ในปี 2567 และปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดอนาคตของธุรกิจนี้ในประเทศไทย
ตลาดบริการส่งอาหาร (Food Delivery) ในประเทศไทยยังคงเป็นสมรภูมิที่ดุเดือดสำหรับ 4 แพลตฟอร์มหลัก ได้แก่ Grab, LINE MAN, foodpanda และ Robinhood โดยแต่ละแพลตฟอร์มต่างนำเสนอกลยุทธ์ที่หลากหลายเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาด ท่ามกลางการคาดการณ์ของศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่ระบุว่ามูลค่าตลาด Food Delivery ในปี 2567 ยังคงซบเซา ประเมินว่ามูลค่าตลาดจะอยู่ที่ราว 8.6 หมื่นล้านบาท ลดลง 1.0% จากปี 2566 แม้ว่าราคาเฉลี่ยต่อครั้งจะเพิ่มขึ้น 2.8% เป็น 185 บาท แต่จำนวนครั้งและปริมาณการสั่งอาหารกลับลดลง สวนทางกับราคาที่สูงขึ้น
จากสถานการณ์ชี้ให้เห็นว่า Grab ยังคงรักษาสถานะผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 30% และรายได้ในปี 2566 สูงถึง 15,622 ล้านบาท แม้ว่าอัตราการเติบโตจะไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในขณะที่ LINE MAN ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาด 30% เท่ากัน กลับมีรายได้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยเพิ่มขึ้นจาก 7,802 ล้านบาทในปี 2565 เป็น 11,634 ล้านบาทในปี 2566
ในขณะที่ Grab และ LINE MAN สามารถสร้างผลกำไรได้แล้ว แต่ foodpanda ยังคงประสบปัญหาขาดทุนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม foodpanda มีแนวโน้มขาดทุนลดลงจาก 3,255 ล้านบาทในปี 2565 เป็น 522 ล้านบาทในปี 2566
ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด SCBX ประกาศยุติบริการ Robinhood ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 โดยให้เหตุผลว่า Robinhood ได้บรรลุภารกิจช่วยเหลือสังคมในช่วงโควิด-19 แล้ว และการยุติบริการเป็นไปตามกรอบการบริหารเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืน และจะไม่ส่งผลกระทบต่อแผนกลยุทธ์ของกลุ่ม SCBX ในการมุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีทางการเงิน
Grab
LINE MAN
foodpanda
แม้ว่าตลาด Food Delivery ในปี 2567 อาจมีการชะลอตัวลง แต่ก็ยังคงมีศักยภาพในการเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายและมีกำลังซื้อสูง นอกจากนี้ แพลตฟอร์มต่างๆ ยังสามารถขยายขอบเขตการให้บริการไปยังเมืองรองและพื้นที่ห่างไกล เพื่อขยายฐานลูกค้าได้อีกด้วย
ธุรกิจ Food Delivery ในประเทศไทยยังคงเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโต แต่ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายที่หลากหลาย การยุติบริการ Robinhood เป็นเครื่องเตือนใจถึงความยากลำบากในการทำกำไรในตลาดนี้ แพลตฟอร์มต่างๆ จำเป็นต้องปรับตัวและพัฒนากลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความยั่งยืนและเติบโตในระยะยาว
แม้ภาพรวมธุรกิจ Food Delivery ในปี 2567 จะเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าบริการนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคนไทยไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นมื้อเร่งด่วนในวันทำงาน หรือมื้อพิเศษในวันหยุด Food Delivery ก็พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการ
การแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดนี้ อาจทำให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์จากโปรโมชั่นและส่วนลดที่หลากหลาย แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นบททดสอบสำคัญสำหรับผู้ให้บริการที่จะต้องปรับตัวและพัฒนานวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสร้างความแตกต่างและความยั่งยืนในระยะยาว
เราคงต้องติดตามกันต่อไปว่า แพลตฟอร์มใดจะสามารถครองใจผู้บริโภคและก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาด Food Delivery ที่มีการแข่งขันสูงนี้ได้อย่างแท้จริง แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ ธุรกิจนี้จะยังคงเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย และสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการรายย่อยอีกมากมายในอนาคต
ที่มา ศูนย์วิจัยกสิกรไทย Grab, LINE MAN, foodpanda