Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
SAPPE จากร้านขนมเล็กๆ สู่ผู้นำตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพกำไร 1 พันล้าน
โดย : อมรินทร์ทีวีออนไลน์

SAPPE จากร้านขนมเล็กๆ สู่ผู้นำตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพกำไร 1 พันล้าน

3 ส.ค. 67
00:13 น.
|
1.1K
แชร์

จากธุรกิจครอบครัวเล็กๆ สู่ผู้นำตลาดโลกด้านเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ SAPPE หรือ เซ็ปเป้ เป็นแบรนด์ไทยที่สร้างชื่อเสียงและความสำเร็จในระดับสากล ด้วยการผสานนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และความสนุกสนานเข้าไว้ด้วยกัน SAPPE ไม่เพียงแต่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ แต่ยังสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งและเป็นแรงบันดาลใจ

บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจเส้นทางความสำเร็จของ SAPPE ตั้งแต่จุดเริ่มต้นเล็กๆ จนถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปัจจุบัน พร้อมเผยเบื้องหลังความสำเร็จในปี 2024 ที่น่าจับตามอง

SAPPE จากร้านขนมเล็กๆ สู่ผู้นำตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพกำไร 1 พันล้าน

SAPPE จากร้านขนมเล็กๆ สู่ผู้นำตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพกำไร 1 พันล้าน

บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE ผู้นำด้านนวัตกรรมเครื่องดื่ม Functional drink และเจ้าของแบรนด์เครื่องดื่มชั้นนำของไทย ขับเคลื่อนองค์กรด้วยปณิธาน "เราจะทำให้ชีวิตของผู้คนดีขึ้น ผ่านจิตวิญญาณที่สร้างสรรค์ของเรา" โดยผสานนวัตกรรมเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ พลัง และความสนุกสนาน สะท้อนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์และวัฒนธรรมองค์กรที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ SAPPE ได้ผ่านเส้นทางการเติบโตที่น่าสนใจมาอย่างยาวนาน

วันนี้ SPOTLIGHT จะพาไปทำความรู้จัก SAPPE แบรนด์เครื่องดื่มของคนไทย ที่ประสบความสำเร็จในตลาดโลก

จุดเริ่มต้นของ SAPPE และ ก้าวสำคัญสู่ตลาดเครื่องดื่ม

บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2516 โดยคุณอนันท์ รักอริยะพงศ์ และคุณสมนึก ไอศูรย์พิศาลศิริ เริ่มต้นจากการผลิตขนมไทยภายใต้แบรนด์ "ปิยจิต" ก่อนจะพัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพระดับโลก

SAPPE ไม่หยุดนิ่งเพียงแค่ขนมไทย ในปี 2544 บริษัทได้เปิดตัวเครื่องดื่มชนิดแรก "โมกุ โมกุ" ซึ่งเป็นนวัตกรรมน้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าวที่ไม่เคยมีมาก่อนในโลก และในปี 2549 ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญอีกครั้งด้วยการเปิดตัว "เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์" เครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริ้งค์ (Functional Drink) เจ้าแรกในประเทศไทยภายใต้แนวคิด "แค่ดื่ม...ก็สวย" ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูง

การเติบโตและขยายตลาดสู่เอเชีย

SAPPE จากร้านขนมเล็กๆ สู่ผู้นำตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพกำไร 1 พันล้าน

ด้วยวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล SAPPE ได้ขยายกำลังการผลิตด้วยการเปิดโรงงานแห่งใหม่ในปี 2553 ณ ลำลูกกาคลอง 13 จังหวัดปทุมธานี และขยายตลาดสู่ยุโรปด้วยการจัดตั้ง Sappe Europe s.r.o. ในประเทศสโลวาเกียในปี พ.ศ. 2554 ก่อนจะจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี พ.ศ. 2557

ความสำเร็จของ SAPPE ทวีคูณขึ้นอีกเมื่อบริษัทได้จดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2557 และ SAPPE เดินหน้าขยายธุรกิจในเอเชียด้วยการจัดตั้ง Sappe Hong Kong Ltd. ในปี พ.ศ. 2558 และ Sappe Trading (Hong Kong) Ltd. และ Sappe Trading (Shanghai) Ltd.

นอกจากนี้ SAPPE ไม่เพียงแต่เติบโตด้วยตนเอง แต่ยังมองหาโอกาสในการสร้างความแข็งแกร่งผ่านความร่วมมือและการลงทุน ในปี 2559 บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัท โคโคนัท แฟคทอรี่ จำกัด (ปัจจุบันคือ บริษัท ออล โคโค กรุ๊ป จำกัด) เพื่อขยายตลาดน้ำมะพร้าวไปทั่วโลก และในปี 2562 ได้ร่วมมือกับ MYEN PTE. LTD. (Danone) จัดตั้งบริษัท ดาน่อน เซ็ปเป้ เบฟเวอเรจส์ จำกัด พร้อมเปิดตัว Blue น้ำผสมวิตามิน

SAPPE ในปัจจุบันยังคงสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ

SAPPE ยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ในปี 2562 ร่วมมือกับ บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดตัว "ลูกอมครูเพ็ญศรี" และในปี 2564 ร่วมมือกับ 'ตะขาบ 5 ตัว' พัฒนาเครื่องดื่มสมุนไพรแบบขวดช็อต "Sappe x Takabb" นอกจากนี้ SAPPE ยังได้เข้าถือหุ้นใน M-Intel บริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีชั้นนำ เพื่อต่อยอดธุรกิจสู่โลกดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

ปัจจุบัน SAPPE ได้พัฒนาสินค้าหลากหลายประเภทครอบคลุม 5 หมวดหมู่ โดยร่วมมือกับทั้งทีมงานภายในและพันธมิตรทางธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางคือ "เซ็ปเป้ บิวติ" ซึ่งครองตำแหน่งผู้นำตลาดเครื่องดื่ม Functional ในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ SAPPE ยังให้ความสำคัญกับการใช้วัตถุดิบจากเกษตรกรไทยในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพ อาทิ โมกุ โมกุ, เซ็ปเป้ อโลเวร่า และออลโคโค่ ซึ่งส่งออกไปจำหน่ายในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ SAPPE ในการสร้างแบรนด์ไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

SAPPE โชว์ผลงานไตรมาส 2 ปี 2024 สุดปัง คาดกำไรพุ่ง 378 ล้านบาท จนทำลายสถิติใหม่

บริษัท SAPPE หรือ เซ็ปเป้ ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวชั้นนำของไทย เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2024 ที่น่าประทับใจ โดยคาดการณ์กำไรปกติที่ 378 ล้านบาท เติบโต 14.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และ 3.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ตัวเลขดังกล่าวไม่รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 5 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการบริหารจัดการความเสี่ยงทางการเงินของบริษัท

ยอดขายในประเทศและต่างประเทศเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

SAPPE จากร้านขนมเล็กๆ สู่ผู้นำตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพกำไร 1 พันล้าน

ยอดขายในประเทศคาดว่าจะอยู่ที่ 326 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.0% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับภาพลักษณ์แบรนด์เครื่องดื่มเพื่อความงาม (Beauti Drink) ให้โดนใจผู้บริโภคมากขึ้น รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด เช่น เครื่องดื่ม GUMMI และเครื่องดื่ม HIGH ที่มีส่วนผสมของวิตามินและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ

ในขณะที่ยอดขายต่างประเทศคาดว่าจะอยู่ที่ 1,622 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.0% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหลักมาจากการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังตลาดใหม่ๆ ในยุโรป และความสำเร็จของแคมเปญการตลาดระดับโลกที่นำ SEVENTEEN บอยแบนด์ชื่อดังจากเกาหลีใต้มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์

กลยุทธ์การตลาดระดับโลกส่งเสริมการเติบโต

SAPPE ได้แต่งตั้งบอยแบนด์เกาหลีใต้ชื่อดัง SEVENTEEN เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลก ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายในกลุ่มวัยรุ่นทั่วโลก นอกจากนี้ บริษัทยังคงขยายช่องทางการขายไปยังตลาดใหม่ๆ ในยุโรป และปรับปรุงภาพลักษณ์แบรนด์เครื่องดื่มเพื่อความงามในประเทศไทย

นอกจากนี้ด้านกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นรองรับการเติบโตเพราะในปี 2024 SAPPE ได้เพิ่มกำลังการผลิตขึ้น 25% จากปีก่อนหน้า โดยอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 79% ซึ่งเพิ่มขึ้น 100bps เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

ผลประกอบการย้อนหลัง 4 ปี บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE

SAPPE จากร้านขนมเล็กๆ สู่ผู้นำตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพกำไร 1 พันล้าน

  • ปี 2564 รายได้ 3,712 ล้านบาท กำไรสุทธิ 411 ล้านบาท
  • ปี 2565 รายได้ 4,900 ล้านบาท กำไรสุทธิ 653 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 6,198 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,074 ล้านบาท
  • ปี 2567 ไตรมาสแรก รายได้ 1,904 ล้านบาท กำไรสุทธิ 352 ล้านบาท

จากเรื่องราวความสำเร็จของ SAPPE เราสามารถนำมาปรับใช้ในธุรกิจอะไรได้บ้าง

SAPPE จากร้านขนมเล็กๆ สู่ผู้นำตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพกำไร 1 พันล้าน

นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์เป็นหัวใจสำคัญ

SAPPE ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และสร้างสรรค์สิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนในตลาด การคิดนอกกรอบและกล้าที่จะแตกต่างเป็นสิ่งที่ทำให้ SAPPE โดดเด่นและประสบความสำเร็จ แนวทางปรับใช้ อาทิ

  1. สำรวจตลาดอย่างต่อเนื่อง: มองหาช่องว่างในตลาดและความต้องการที่ยังไม่ถูกเติมเต็ม
  2. สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่แตกต่าง: ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่ใหม่ทั้งหมด แต่อาจเป็นการปรับปรุงสิ่งที่มีอยู่ให้ดีขึ้นหรือตอบโจทย์ลูกค้าได้มากขึ้น
  3. ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนความคิดสร้างสรรค์: สร้างบรรยากาศที่เปิดกว้างให้พนักงานกล้าคิด กล้าแสดงออก และกล้าทดลองสิ่งใหม่ๆ

การตลาดที่แข็งแกร่งและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย

SAPPE มีกลยุทธ์การตลาดที่หลากหลายและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์ชื่อดัง การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การใช้สื่อสังคมออนไลน์ ไปจนถึงการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้าและผู้จัดจำหน่าย แนวทางปรับใช้ อาทิ

  1. กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน: ใครคือลูกค้าหลักของเรา? พวกเขามีความต้องการและพฤติกรรมอย่างไร?
    เลือกช่องทางการตลาดที่เหมาะสม: ช่องทางไหนที่กลุ่มเป้าหมายของเราใช้งานมากที่สุด? เราจะเข้าถึงพวกเขาได้อย่างไร?
  2. สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและมีคุณค่า: เนื้อหาที่ดึงดูดความสนใจและให้ประโยชน์กับกลุ่มเป้าหมายจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความภักดีต่อแบรนด์
  3. วัดผลและปรับปรุงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง: การตลาดเป็นสิ่งที่ต้องปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ การวัดผลและวิเคราะห์ข้อมูลจะช่วยให้เรารู้ว่าอะไรได้ผลและอะไรไม่ได้ผล เพื่อนำไปปรับปรุงกลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การขยายตลาดสู่ต่างประเทศ

SAPPE ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในประเทศไทย แต่ยังมองหาโอกาสในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง การมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและกล้าที่จะก้าวออกไปสู่ตลาดโลกเป็นสิ่งที่ทำให้ SAPPE เติบโตอย่างก้าวกระโดด แนวทางปรับใช้ อาทิ

  1. ศึกษาตลาดต่างประเทศ: ทำความเข้าใจวัฒนธรรม ความต้องการ และกฎระเบียบของตลาดที่เราสนใจ
  2. สร้างความร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่น: การมีพันธมิตรที่รู้จักตลาดและวัฒนธรรมท้องถิ่นจะช่วยให้เราเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น
  3. ปรับปรุงผลิตภัณฑ์หรือบริการให้เหมาะสมกับตลาดต่างประเทศ: อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนรสชาติ บรรจุภัณฑ์ หรือวิธีการสื่อสารให้สอดคล้องกับความชอบและความต้องการของลูกค้าในแต่ละประเทศ

การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและมีเอกลักษณ์

SAPPE สร้างแบรนด์ที่ไม่เพียงแต่เป็นที่รู้จัก แต่ยังมีความหมายและคุณค่าในใจผู้บริโภค การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งต้องอาศัยความสม่ำเสมอในการสื่อสารคุณค่าของแบรนด์ สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์หรือบริการ สำหรับแนวทางปรับใช้อาทิ

  1. กำหนดคุณค่าหลักของแบรนด์: อะไรคือสิ่งที่แบรนด์ของเราเป็นตัวแทน? เราต้องการให้ลูกค้าจดจำเราในด้านใด?
  2. สื่อสารคุณค่าของแบรนด์อย่างสม่ำเสมอ: ใช้ทุกช่องทางในการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นโลโก้ สโลแกน เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย หรือแม้แต่การบริการลูกค้า
  3. สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า: ทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจและอยากกลับมาใช้บริการของเราอีก
  4. รักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์หรือบริการ: คุณภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการสร้างความเชื่อมั่นและความภักดีต่อแบรนด์

การบริหารจัดการความเสี่ยง

แม้ว่า SAPPE จะประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่บริษัทก็ยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความเสี่ยงต่างๆ เช่น ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ การแข่งขันในตลาด และความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน การมีแผนรับมือความเสี่ยงที่ดีจะช่วยให้ธุรกิจสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แนวทางที่น่าจำนำไปปรับใช้อาทิ

  1. ระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น: ความเสี่ยงอะไรบ้างที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเรา?
  2. ประเมินความรุนแรงและโอกาสในการเกิดขึ้นของแต่ละความเสี่ยง: ความเสี่ยงไหนที่รุนแรงที่สุด? ความเสี่ยงไหนมีโอกาสเกิดขึ้นมากที่สุด?
  3. วางแผนรับมือความเสี่ยง: เราจะทำอย่างไรหากความเสี่ยงนั้นเกิดขึ้นจริง?
  4. ทบทวนและปรับปรุงแผนรับมือความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ: สถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา การทบทวนแลปรับปรุงแผนรับมือความเสี่ยงจะช่วยให้เรามีความพร้อมอยู่เสมอ

เรื่องราวของ SAPPE เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการทุกคน แสดงให้เห็นว่า ธุรกิจไทยสามารถประสบความสำเร็จในระดับโลกได้ด้วยการผสานนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และกลยุทธ์ทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง การนำบทเรียนจาก SAPPE มาปรับใช้จะช่วยให้ธุรกิจของเราเติบโตอย่างยั่งยืนและประสบความสำเร็จในระยะยาว

SAPPE อาจจะเริ่มจุดเริ่มต้นเล็กๆ ในธุรกิจขนมไทย แต่ก็สามารถที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นแบรนด์ระดับโลก ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและนวัตกรรม SAPPE ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความสำเร็จที่ยั่งยืนนั้นเกิดขึ้นได้จากการไม่หยุดพัฒนาและแสวงหาโอกาสใหม่ๆ อยู่เสมอ

ที่มา SAPPE  และ KSecurities

แชร์

SAPPE จากร้านขนมเล็กๆ สู่ผู้นำตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพกำไร 1 พันล้าน