นินเท็นโด (Nintendo) เจ้าพ่อเกมคอนโซลชื่อดัง กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก เมื่อยอดขายเครื่องเล่นเกม Switch รุ่นปัจจุบันร่วงลงอย่างหนัก ส่งผลให้กำไรของบริษัทลดฮวบ สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนและแฟนๆ เกมทั่วโลก ขณะที่บริษัทกำลังพยายามประคับประคองสถานการณ์ด้วยการเปิดตัวเกมใหม่และภาพยนตร์จากแฟรนไชส์ชื่อดัง แต่ก็ยังไม่วายถูกกดดันให้เร่งเปิดตัวเครื่องเล่นรุ่นใหม่เพื่อกู้สถานการณ์
นินเท็นโด (Nintendo) รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปีงบประมาณ (เมษายน-มิถุนายน) โดยยอดขายเครื่องเล่นเกม Switch รุ่นปัจจุบันลดลงเกือบครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้กำไรของบริษัทลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
บริษัทเกมชั้นนำจากเกียวโตนี้มียอดขาย Switch ซึ่งเปิดตัวมาแล้ว 8 ปี จำนวน 2.1 ล้านเครื่องในช่วงไตรมาสแรก อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงยืนยันเป้าหมายยอดขาย Switch ทั้งปีที่ 13.5 ล้านเครื่อง โดยคาดว่าจะได้รับแรงหนุนจากการเปิดตัวเครื่องเล่นรุ่นใหม่ในปีงบประมาณนี้
กำไรจากการดำเนินงานของนินเท็นโดลดลง 71% สู่ระดับ 54,500 ล้านเยน (ประมาณ 12,000 ล้านบาท) ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้กว่าหนึ่งในสาม นอกจากนี้ ธุรกิจเกมมือถือและทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทยังมีรายได้ลดลง 54% สู่ระดับ 14,700 ล้านเยน (ประมาณ 3,200 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความสำเร็จของภาพยนตร์ "Super Mario Bros."
ด้าน เซอร์คาน โทโท ผู้ก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาอุตสาหกรรมเกม Kantan Games ให้ความเห็นว่า "นินเท็นโดอาจประเมินสถานการณ์ในปีนี้สูงเกินไป" "ตัวเลขเหล่านี้ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้นินเท็นโดต้องเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ Switch 2" เขากล่าว พร้อมเสริมว่าไตรมาสกรกฎาคม-กันยายนก็มีแนวโน้มที่จะยังไม่สดใส
นินเท็นโดมีแผนเปิดตัวเกมใหม่ในปีนี้น้อยมาก โดยมีเพียง "The Legend of Zelda: Echoes of Wisdom" และ "Mario & Luigi: Brothership" ที่ประกาศออกมาแล้ว ด้านภาพยนตร์ "Super Mario" ภาคใหม่มีกำหนดเข้าฉายในเดือนเมษายน 2026 นอกจากนี้ บริษัทยังได้ประกาศความร่วมมือในการสร้างภาพยนตร์คนแสดงจากเกม "The Legend of Zelda"
อุตสาหกรรมเกมกำลังเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นและอำนาจในการกำหนดราคาที่ลดลง Bungie ซึ่งเป็นสตูดิโอพัฒนาเกมภายใต้ Sony ประกาศลดพนักงานเกือบหนึ่งในห้าในสัปดาห์นี้ ส่วนหุ้นของนินเทนโดลดลง 2.3% ในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวก่อนการประกาศผลประกอบการ และเพิ่มขึ้น 7.6% นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน
สถานการณ์ของนินเทนโดในปัจจุบันสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่อุตสาหกรรมเกมกำลังเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น การแข่งขันที่รุนแรง และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป แม้ว่านินเทนโดจะยังคงเป็นหนึ่งในบริษัทเกมชั้นนำของโลก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าบริษัทกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ
การเปิดตัวเครื่องเล่น Switch รุ่นใหม่จะเป็นกุญแจสำคัญในการพลิกฟื้นสถานการณ์ของนินเทนโด อย่างไรก็ตาม บริษัทต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ ทั้งในด้านเทคโนโลยี ราคา และการตลาด เพื่อให้เครื่องเล่นรุ่นใหม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและสร้างความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน ส่วน อนาคตของนินเทนโดจะเป็นอย่างไร? คำตอบนี้คงต้องรอดูกันต่อไป แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ บริษัทจะต้องปรับตัวและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมเกมที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้
ที่มา Reuters