True Value ปิดตำนาน 75 ปี ประกาศล้มละลาย ขายกิจการให้คู่แข่ง

วงการค้าปลีกในสหรัฐอเมริกาสั่นสะเทือน! True Value แบรนด์ร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ฮาร์ดชื่อดัง เจ้าของประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 75 ปี ประกาศยื่นล้มละลาย ปิดฉากตำนานธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างที่เคยรุ่งเรือง ท่ามกลางคลื่นความเปลี่ยนแปลงที่ถาโถมเข้าใส่ธุรกิจค้าปลีกยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันที่ดุเดือด พฤติกรรมผู้บริโภคที่พลิกผัน และภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน

คอนเทนต์แนะนำ

ดับแล้ว 5 ศพ! นักท่องเที่ยวต่างชาติสังเวยชีวิตให้เหล้าผสมเมทานอลในลาว

ทำถึง! ทีมเชียร์ลีดเดอร์ขอนแก่นวิทยายน จากไวรัลชุดบอดี้มนุษย์และเปรต

รมช.คลัง แนะเข้าเว็บ Welfare.mof.go.th ยืนยันสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

การล้มละลายของ True Value สะท้อนให้เห็นภาพชัดเจนถึงความเปราะบางของธุรกิจ แม้แต่ยักษ์ใหญ่ที่คร่ำหวอดในวงการมายาวนานก็ไม่อาจต้านทานกระแสการเปลี่ยนแปลงได้ บทความนี้จะพาคุณไปดูหลังการล้มละลายของ True Value วิเคราะห์ปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่จุดจบของแบรนด์ พร้อมถอดบทเรียนธุรกิจเพื่อเตรียมรับมือกับความท้าทาย และสร้างความยั่งยืนในอนาคต

True Value ปิดตำนาน 75 ปี ประกาศล้มละลาย ขายกิจการให้คู่แข่ง

True Value แบรนด์ร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่มีประวัติยาวนานกว่า 75 ปี ได้ยื่นคำร้องขอพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดและประกาศขายกิจการส่วนใหญ่ให้กับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน ตามประกาศของบริษัท True Value ระบุว่าจะยังคงดำเนินธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และของใช้ภายในบ้านให้กับร้านค้าอิสระกว่า 4,500 แห่งต่อไป แม้จะอยู่ระหว่างกระบวนการล้มละลายตามมาตรา 11 โดย Do it Best บริษัทคู่แข่งได้ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการเบื้องต้นที่ 153 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ทั้งนี้ ร้านค้าภายใต้แบรนด์ True Value จะยังคงเปิดให้บริการตามปกติ เนื่องจากไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการยื่นล้มละลาย สำหรับเอกสารที่ยื่นต่อศาลล้มละลายระบุว่า True Value กำลังเผชิญกับภาวะขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากภาวะชะลอตัวของตลาดที่อยู่อาศัยและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดค่าใช้จ่ายในสินค้าที่ไม่จำเป็นเช่นอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ แม้กระทั่งผู้ประกอบการรายใหญ่อย่าง Home Depot และ Lowe’s เองก็ได้รับผลกระทบจากยอดขายที่ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สิ้นสุดช่วงการเติบโตหลังวิกฤตโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ฐานะทางการเงินของทั้งสองบริษัทยังคงแข็งแกร่งกว่า True Value เป็นอย่างมาก

Do it Best ซื้อกิจการ True Value เสริมแกร่งธุรกิจค้าส่งวัสดุก่อสร้าง

อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวไม่ได้จำกัดอยู่เพียง True Value เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่อื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน โดย Big Lots และ LL Flooring ต่างก็ประสบปัญหาทางการเงิน จนต้องยื่นคำร้องขอพิทักษ์ทรัพย์จากภาวะล้มละลายเช่นกัน “ภายหลังจากการพิจารณาทางเลือกเชิงกลยุทธ์อย่างละเอียดถี่ถ้วน คณะกรรมการบริษัทมีมติเห็นชอบให้การขายกิจการเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุด เพื่อสร้างมูลค่าสูงสุดและประโยชน์สูงสุดแก่พันธมิตรร้านค้าปลีก รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายของบริษัท” คริส เคมปา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ True Value กล่าวในแถลงการณ์

Do it Best เป็นธุรกิจค้าส่ง ดำเนินงานภายใต้รูปแบบสมาชิก โดยจัดจำหน่ายสินค้าประเภทฮาร์ดแวร์ ไม้แปรรูป และของใช้ภายในบ้านให้กับร้านค้าปลีกอิสระ “Do it Best มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น มุ่งเน้นการสร้างผลกำไร และบริหารจัดการธุรกิจด้วยระบบปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในอุตสาหกรรม” แดน สตาร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Do it Best กล่าว “การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ หากบรรลุผลสำเร็จ จะเป็นการสร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับ True Value และร้านค้าฮาร์ดแวร์อิสระในระยะยาว” ทั้งนี้ คาดว่ากระบวนการเข้าซื้อกิจการโดย Do it Best จะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้ เว้นแต่จะมีข้อเสนออื่นที่ให้ผลประโยชน์สูงกว่า

เมื่อยักษ์ใหญ่ล้ม กรณีศึกษา True Value สะท้อนความผันผวนของธุรกิจค้าปลีกยุคใหม่

กรณีศึกษาการล้มละลายของ True Value นับเป็นบทเรียนสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายอันหลากหลายที่ภาคธุรกิจค้าปลีกต้องเผชิญในยุคปัจจุบัน ทั้งในด้านการแข่งขันที่ทวีความรุนแรง พฤติกรรมผู้บริโภคที่มีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่ผันผวน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความยั่งยืนขององค์กร แม้แต่ธุรกิจที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและเครือข่ายการดำเนินงานที่ครอบคลุมก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงผลกระทบจากกระแสการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้

การเข้าซื้อกิจการ True Value โดย Do it Best อาจนำมาซึ่งโอกาสในการพลิกฟื้นธุรกิจและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง โดยอาศัยการผนึกกำลังในด้านทรัพยากร ความเชี่ยวชาญ และเครือข่ายธุรกิจของทั้งสององค์กร อย่างไรก็ดี ความสำเร็จของการควบรวมกิจการในครั้งนี้ยังคงต้องอาศัยการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ในหลากหลายมิติ เช่น การบูรณาการวัฒนธรรมองค์กร การรักษาฐานลูกค้า และการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจให้สอดคล้องกับพลวัตของตลาด

อนาคตของ True Value และผู้ประกอบการค้าปลีกอิสระรายอื่นจะเป็นอย่างไร ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องจับตามอง แต่สิ่งหนึ่งที่ปรากฏชัดเจนคือ ธุรกิจค้าปลีกในยุคปัจจุบันต้องมีความสามารถในการปรับตัว พัฒนา และสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ประเด็นสำคัญที่ได้จากกรณีศึกษา True Value

• ความสามารถในการปรับตัว: องค์กรต้องมี agility ในการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค หรือสภาพเศรษฐกิจ
• เสถียรภาพทางการเงิน: การรักษาสถานะทางการเงินให้มีความมั่นคง มีสภาพคล่องสูง และบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นปัจจัยสำคัญในการรับมือกับวิกฤตการณ์และความท้าทายต่างๆ
• กลยุทธ์สร้างความแตกต่าง: การสร้างคุณค่า เอกลักษณ์ และความได้เปรียบในการแข่งขัน เป็นสิ่งจำเป็นในการดึงดูดลูกค้า และรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด

กรณีศึกษาการล้มละลายของ True Value จึงเป็นกรณีศึกษาที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการกำหนดนโยบาย การบริหารจัดการ และการวางแผนเชิงกลยุทธ์ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่องค์กร ท่ามกลางสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจที่มีความผันผวนและความไม่แน่นอนสูง

อ้างอิง CNN