SCG ขยายโรงงานผลิต โครงหลังคาสำเร็จรูป เหล็กมาตรฐานอุตสาหกรรมญี่ปุ่น
แม้ความเสียหายของอาคารบ้านเรือนในประเทศไทยจะยังไม่อยู่ในระดับวิกฤตหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว 28 มีนาคม 2568 (ไม่นับรวมตึก สตง.) แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ "ความตื่นตัว" ของผู้บริโภค และเจ้าของโครงการก่อสร้าง ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของวัสดุก่อสร้างมากขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลให้ความต้องการวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะในหมวดที่เกี่ยวข้องกับ “ความแข็งแรง” และ “ความปลอดภัยของโครงสร้าง” เพิ่มสูงขึ้นในระยะต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่เริ่มขยับทันทีคือ SCG ที่ประกาศขยายกำลังการผลิตโครงหลังคาสำเร็จรูป โดยมีเป้าหมายเพื่อรองรับดีมานด์ที่เติบโตต่อเนื่อง พร้อมลดระยะเวลาขนส่งและต้นทุนในการกระจายสินค้าไปยังภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ คาดว่า การขยายโรงงานการผลิตจะช่วยทำให้กเิดยอดขายเพิ่มขึ้นได้ 20%
“การขยายโรงงานครั้งนี้ เป็นอีกก้าวสำคัญของ เอสซีจี ในการส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้า เราไม่เพียงเพิ่มกำลังการผลิต แต่ยังลดต้นทุนด้านการขนส่ง ทำให้ลูกค้าได้รับวัสดุในราคาที่คุ้มค่ายิ่งขึ้น สะดวกมากขึ้น และช่วยให้โครงการก่อสร้างสามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่นและตรงตามกำหนด นอกจากนี้ยังเพิ่มความพร้อมด้วยกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน คลังสินค้าขนาดใหญ่ และระบบขนส่งที่ทันสมัย เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าจะถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็ว ตรงเวลา และมีคุณภาพสูงสุด” – คุณฎายิน เกียรติกวานกุล, Smart System Business Director บริษัท เอสซีจี ลิฟวิง แอนด์ เฮาส์ซิง โซลูชัน จำกัด
วัสดุที่ตอบโจทย์ ‘ความมั่นใจ’ หลังเหตุแผ่นดินไหว
โครงหลังคาสำเร็จรูปจาก SCG ได้รับการออกแบบและผลิตจากเหล็กที่ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (JIS) พร้อมควบคุมคุณภาพตามกฎหมายโครงสร้างอาคารปี 2567 ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่เข้มงวดยิ่งขึ้นทำให้มั่นใจได้ในเรื่องความแข็งแรง ปลอดภัย และรองรับน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ SCG ยังมีระบบติดตั้งที่รวดเร็วและแม่นยำ ลดความผิดพลาดในการทำงานหน้างาน และช่วยให้โครงการก่อสร้างสามารถดำเนินงานได้ตามกำหนดเวลาและยังได้รับเครื่องหมาย Green choice ที่การันตีเรื่องกระบวนการติดตั้งที่ช่วยลดขยะหน้างานได้อย่างน้อย 5%
แรงสั่นสะเทือนทางเศรษฐกิจ = โอกาสของธุรกิจวัสดุก่อสร้าง?
สถานการณ์แผ่นดินไหวนี้กระตุ้นการซ่อมแซมและปรับปรุงโครงสร้างที่อยู่อาศัยในหลายพื้นที่มากขึ้น รวมถึงเจ้าของบ้านที่อาจเริ่มกลับมาให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานที่มองข้ามไปก่อนหน้านี้
ในระยะถัดไป คาดว่าผู้บริโภคจะมองหาวัสดุที่ไม่ใช่แค่ “ใช้งานได้” แต่ต้อง “มั่นคง ปลอดภัย และลดความเสี่ยง” ซึ่งนั่นอาจทำให้วัสดุก่อสร้างกลุ่มโครงสร้าง โดยเฉพาะแบบสำเร็จรูปที่ผลิตด้วยมาตรฐานสูง กลายเป็นตัวเลือกหลักในตลาด
สำหรับ SCG การขยายโรงงานผลิตในครั้งนี้ป็นการเตรียมพร้อมในเชิงระบบ ทั้งการผลิต คลังสินค้า การขนส่ง และการให้บริการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในช่วงเวลาที่ความปลอดภัยกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญ
คอนเทนต์แนะนำ
