นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป(EP) กล่าวว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2564 ที่ผ่านมา มีมติให้ บริษัท อีเทอร์นิตี้ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) (ETP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 81.40% ของทุนที่ชำระแล้ว บริษัท ตะวันออกการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ จำกัด (EPPCO) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 100% ของทุนที่ชำระแล้ว และบริษัท อีพี กรุ๊ป (ฮ่องกง) จำกัด (EP HK) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมที่ถือหุ้นโดยบริษัทย่อย (ETP) ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วน 100% ของทุนที่ชำระแล้ว ดำเนินการขายหุ้นทั้งหมดของบริษัท อีสเทอร์น โคเจนเนอเรชั่น จำกัด (E-COGEN) ที่ถืออยู่รวม 100 % ของทุนที่ชำระแล้ว ให้แก่ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ บีจีพี จำกัด (UVBGP) ในราคาหุ้นละ 491.46 บาท เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 4,914.64 ล้านบาท โดยผู้ซื้อต้องชำระเงินกู้ให้แก่ ETP จำนวนโดยประมาณ 6,419.45 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 11,334.09 ล้านบาท
ขณะที่คาดว่าจะดำเนินการโอนหุ้นและรับชำระค่าหุ้นให้แล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค. 2564
สำหรับบริษัท ยูนิเวนเจอร์ บีจีพี จำกัด (UVBGP) เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บมจ. ยูนิเวนเจอร์(UV) ถือหุ้นในสัดส่วน 55% และ บมจ. บี.กริม เพาเวอร์(BGRIM) ร่วมถือหุ้นสัดส่วน 45% มีวัตถุประสงค์เพื่อลงทุน พัฒนา บริหารจัดการ และดำเนินการโครงการด้านพลังงาน
ทั้งนี้ E-COGEN เป็นบริษัทย่อยทางอ้อมที่ถือหุ้นโดยบริษัทฯ ในสัดส่วน 82.33% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว ซึ่งดำเนินธุรกิจเป็นบริษัท Holding ที่ลงทุนในบริษัท พีพีทีซี จำกัด (PPTC) ในสัดส่วน 74.50% ของทุนที่ชำระแล้ว และบริษัท เอสเอสยูที จำกัด (SSUT) ในสัดส่วน 100.00% ของทุนที่ชำระแล้ว
ขณะที่ก่อนหน้านี้นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บี.กริม เพาเวอร์(BGRIM) เปิดเผยว่า บริษัท ยูนิเวนเจอร์ บีจีพี(UVBGP) บริษัทร่วมทุนของ BGRIM และ บมจ.ยูนิเวนเจอร์( UV) อยู่ระหว่างการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท อีสเทอร์น โคเจนเนอเรชั่น จำกัด หรือ E-COGEN ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป(EP) ใช้เงินลงทุนราว 1.24 หมื่นล้านบาท เพื่อให้ได้มาซึ่งการถือหุ้น 100% ในบริษัท เอสเอสยูที จำกัด หรือ SSUT และ 74.5-100% ในบริษัท พีพีทีซี จำกัด หรือ PPTC ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมรวมทั้งสิ้น 3 โครงการ กำลังการผลิต 360 เมกะวัตต์ (ME) ทุกโครงการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการละ 90 เมกะวัตต์กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นระยะเวลา 25 ปี และจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรม
โดยคาดการณ์ว่าการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ UVBGP ใน E-COGEN จะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2564 ทำให้บริษัทรับรู้รายได้ทันทีหลังจากซื้อหุ้นดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์ โดย BGRIM จะรับรู้กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้น 162 เมกะวัตต์
สำหรับ SSUT เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 2 โครงการ รวมกำลังการผลิตติดตั้งไฟฟ้า 240 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 60 ตัน/ชั่วโมง ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู ซึ่งเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ เมื่อเดือนธันวาคม 2559 และ PPTC เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 1 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งไฟฟ้า 120 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 30 ตัน/ชั่วโมง ในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เมื่อเดือนมีนาคม 2559