Wall Street Journal รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า Apple ได้พูดคุยกับซัพพลายเออร์หลายรายว่าบริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิตนอกประเทศจีน หลังจากที่ประเทศจีนยังล็อกดาวน์อย่างเข้มข้น ส่งผลต่อการผลิตสินค้าของบริษัทอย่างมาก
กำลังการผลิตมากกว่า 90% ของ Apple อยู่ในประเทศจีน โดยยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีนั้นได้จ้าง บริษัทผู้ประกอบสินค้ารายใหญ่อย่าง Foxconn รวมถึง Wistron ซึ่งมีโรงงานนอกประเทศจีน เช่น เวียดนาม หรือแม้แต่อินเดีย ซึ่ง 2 ประเทศดังกล่าวเริ่มมีบทบาทในการผลิตสินค้าของ Apple เพิ่มมากขึ้น เช่น ในประเทศอินเดียเริ่มมีการผลิตสินค้าของ Apple ตัวใหม่ ไม่ว่าจะเป็น iPhone 13 บ้างแล้ว
นอกจากนี้ Apple เองยังกล่าวกับผู้ประกอบสินค้าบางรายให้เตรียมสร้างโรงงานเพื่อที่จะเพิ่มกำลังการผลิตนอกประเทศจีนให้มากกว่านี้ด้วย
การเพิ่มกำลังการผลิตนอกประเทศจีนนั้น สาเหตุสำคัญมาจากนโยบายโควิดเป็นศูนย์ และล่าสุดมาตรการดังกล่าวนั้นก็ยังใช้ในเมืองใหญ่อย่างเช่น เซี่ยงไฮ้ ส่งผลทำให้ห่วงโซ่การผลิตที่ต้องพึ่งพาภาคการผลิตในประเทศจีนได้รับผลกระทบอย่างมาก ซึ่ง Apple เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว
นอกจากนี้ปัญหาด้านพลังงานในประเทศจีนก็ยังเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้บริษัทมีแผนต้องย้ายกำลังการผลิตออกมาด้วย
บริษัทวิจัยอย่าง Counterpoint ได้วิเคราะห์ว่ากำลังการผลิต iPhone จากอินเดียในปี 2022 นี้จะมีสัดส่วนมากถึง 7% จากเดิมอยู่ที่ 3.1%
ก่อนหน้านี้ Apple เองมีแผนทยอยโยกย้ายกำลังการผลิตออกนอกประเทศจีนนับตั้งแต่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน อย่างไรก็ดีแผนการดังกล่าวกลับทำได้ช้าลงกว่าที่คาด โดยสื่ออย่าง Nikkei Asia รายงานว่าการย้ายกำลังการผลิตนั้นได้รับผลกระทบจากโควิด เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ รวมถึงการคุมเข้มชายแดนของหลายๆ ประเทศ