คนใช้รถยนต์ไฟฟ้าใน "จีน" ทำอย่างไร ในวันที่ประเทศเจอวิกฤตขาดแคลนไฟฟ้า

เราตื่นตัวหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าก็เพราะว่าน้ำมันแพง ในขณะที่ค่าไฟถูกกว่า แต่ถ้าหากว่าค่าไฟแพง หรือเกิดไฟฟ้าขาดแคลนขึ้นมา เราจะทำอย่างไร?


สถานการณ์นี้กำลังเกิดขึ้นที่ประเทศ "จีน" ซึ่งเวลานี้กำลังเผชิญวิกฤตการณ์ภัยแล้งครั้งใหญ่ จนรัฐบาลต้องประกาศสถานการณ์ภัยพิบัติ(ภัยแล้ง) ทั่วประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี

คลื่นความร้อนครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของจีน ส่งผลให้ปริมาณน้ำสำหรับการผลิตกระแสไฟฟ้าลดลงอย่างมาก รัฐบาลต้องออกคำสั่งระงับการจ่ายไฟฟ้าให้กับภาคอุตสาหกรรมในหลายพื้นที่ ทำให้กระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ที่กำลังเฟื่องฟูในจีนไปด้วย


เขื่อนในเมืองหนานจิง มณฑลเจียงซู อยู่ในสภาพแห้งผาก

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า ผู้ให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถอีวีหลายรายในจีน ได้ปรับลดปริมาณ/หรือระงับการจ่ายไฟฟ้า ในหลายจุดทั่วประเทศโดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งหนักที่สุด โดยคาดว่ามีการปรับลดการจ่ายกระแสไฟในสถานีชาร์จมากถึงราว 400,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการใช้งานรถอีวีมากกว่า 1 ล้านคัน

“สเตท กริด” ซึ่งเป็นผู้ให้บริการไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของจีน ครอบคลุมถึงอุตสาหกรรมชาร์จรถอีวีด้วย ได้ประกาศลดการจ่ายกระแสไฟสำหรับสถานที่สาธารณะในชั่วโมงเร่งด่วน ระหว่างเวลา 15.00-22.00 น. ครอบคลุมพื้นที่มณฑลเจ้อเจียง หูเป่ย์ เสฉวน และเหอหนาน รวมถึงนครฉงชิ่ง โดยสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถอีวีบางแห่งมีการลดปริมาณการจ่ายไฟฟ้า ขณะที่บางแห่งระงับการให้บริการอย่างไม่มีกำหนด

ส่วน “นีโอ” (Nio) ผู้ผลิตรถอีวี และผู้ให้บริการสถานีสลับแบตเตอร์รีรายใหญ่ในจีน ได้ประกาศปิดสถานีสลับแบตหลายแห่งใน 2 เมืองใหญ่ คือ เฉิงตู และ ฉงชิ่ง และขอให้ผู้ใช้รถช่วยแชร์สถานีชาร์จที่บ้านให้ผู้ใช้รถอีวีคนอื่นๆ ที่ไม่มีที่ชาร์จในบ้านด้วยในระหว่างวันที่ 20 ส.ค. - 20 ก.ย.

ขณะที่ “เทลด์ นิว เอ็นเนอร์จี” ผู้ให้บริการสถานีชาร์จอีวีกว่า 300,000 จุดทั่วประเทศจีน ได้แจ้งว่า ระงับการให้บริการชั่วคราวในบางจุด และเสนอส่วนลดพิเศษให้ผู้ที่ไปใช้บริการชาร์จไฟฟ้านอกเวลาที่มีความต้องการไฟฟ้าสูง อย่างช่วงเวลาดึกหรือตอนเช้า



มีรายงานว่ารัฐบาลจีนนั้น ถึงขั้นมีคำสั่งให้ปิดสถานีชาร์จเร็วแบบซูเปอร์ชาร์จเจอร์ทั้งหมดในเฉิงตูและฉงชิ่ง เป็นการชั่วคราวแล้วด้วย ยกเว้นเพียงสถานีชาร์จ 2 แห่ง ของค่าย "เทสลา" (Tesla)

ทั้งนี้ก็เพราะว่า มณฑลเสฉวน เป็นพื้นที่พึ่งพิงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานน้ำมากถึง 40% ดังนั้น เมื่อพื้นที่ทางตอนใต้ประสบภัยแล้งสาหัสเช่นนี้ การผลิตไฟฟ้าในเสฉวนจึงได้รับผลกระทบอย่างหนักตามไปด้วย

อย่างไรก็ตาม เป็นที่คาดว่าวิกฤตการณ์ขาดแคลนไฟฟ้าในจีนครั้งนี้อาจจะไม่กระทบต่ออุตสาหกรรมรถอีวีมากนัก เพราะคนส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าเป็นวิกฤตที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย อีกทั้งผู้บริโภคยังให้ความสำคัญกับมาตรการที่รัฐช่วยอุดหนุนราคารถอีวีด้วย

ผู้จัดการฝ่ายขายของอี้โหยว ออโต้ เซอร์วิส ในเซี่ยงไฮ้ เปิดเผยว่า ยอดซื้อรถอีวีในช่วงนี้ยังเติบโตได้ดีอยู่ และจะยิ่งดีขึ้นอีกในช่วง 3 - 4 เดือนข้างหน้า เพราะคนจะรีบซื้อก่อนที่มาตรการอุดหนุนราคารถยนต์อีวีจะหมดลงในต้นปีหน้า 2023 ขณะที่ธนาคารยูบีเอส ประเมินว่า การใช้รถอีวีทั่วประเทศจีนจะยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะเพิ่มเป็น 30% ของรถยนต์ในจีนทั้งหมด ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้