ปัจจุบันสำหรับใครที่มีร้านโชห่วยในพื้นที่ชุมชนต่างๆอยู่แล้วหรือสนใจอยากทำธุรกิจร้านโชห่วย มีโมเดลในการปรับปรุงพัฒนาร้านให้ทันสมัยขึ้นและทำให้ธุรกิจเราแข็งแรงขึ้น โดยมีพี่เลี้ยงรายใหญ่อย่าง ‘แมคโคร’ ร่วมลงทุนและสร้างระบบการบริหารจัดการร้านให้อย่างครบวงจร โมเดลนี้อยู่ภายใต้แบรนด์ ‘บัดดี้มาร์ท’
ก่อนหน้านี้แมคโครได้เข้าไปช่วยพัฒนาร้านค้าชุมชนอยู่ภายใต้โครงการ ‘มิตรแท้โชห่วย’โดยเน้นการพัฒนาร้านค้าให้อยู่รอดและเติบโตเคียงคู่กับชุมชน ทำใหขยายมาสู่โมเดลของ บัดดี้มาร์ท
"บัดดี้มาร์ท" เป็นรูปแบบร้านค้าปลีกชุมชนที่เน้นความสำเร็จรูปในการทำธุรกิจ ตั้งแต่การออกแบบร้าน วางผังการจัดวางสินค้า การเลือกสินค้า โดยใช้เทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาช่วยบริหารจัดการให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่และตรงใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในชุมชนนั้นๆ ที่สำคัญมีทีมงานบัดดี้มาร์ทสนับสนุนการวางแผนส่งเสริมการขายและช่วยบริหารจัดการร้านอย่างใกล้ชิด รวมถึงมีระบบการจัดการสต๊อกและการสั่งซื้อสินค้าเข้าร้านที่รวดเร็ว ทำให้เจ้าของร้านสะดวก มีรายได้เพิ่มขึ้น โดยไม่ต้องใช้เวลาบริหารจัดการมากเท่าเดิม”
คุณธนิศร์ เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารธุรกิจค้าส่งแม็คโคร ประเทศไทย บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) บอกว่า
"ผมคิดว่าการที่โชห่วยจะตัดสินใจปรับเปลี่ยนรูปแบบร้าน หรือลงทุนอะไรใหม่ ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องศึกษารายละเอียดเป็นอย่างดี ซึ่งเราพบว่าผู้ประกอบการจะให้น้ำหนักกับความเชี่ยวชาญเป็นสำคัญ ซึ่งโมเดลบัดดี้มาร์ทที่เราพัฒนาขึ้น ผสมผสานความเชี่ยวชาญในด้านสินค้าของแม็คโครและประสบการณ์ในการคลุกคลีกับปัญหาของร้านโชห่วยกว่า 30 ปีของเรา"
คุณธนิศร์ ยังบอกอีกว่า แมคโครมีฐานข้อมูลขนาดใหญ่จากเครือข่ายที่มีในการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าของร้านค้าปลีกในชุมชน โดยได้นำเทคโนโลยีทันสมัยสำหรับร้านค้าปลีกขนาดเล็กมาใช้ รวมถึงใช้ความชำนาญในการบริหารจัดการสต๊อก ระบบการสั่งซื้อสินค้าและจัดส่งถึงร้านที่รวดเร็ว ที่สำคัญมีกลุ่มพันธมิตรซัพพลายเออร์สินค้าที่แข็งแกร่ง"ตลอดระยะเวลาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เราเป็นธุรกิจค้าส่งที่มีโชห่วยเป็นหนึ่งในกลุ่มลูกค้าสำคัญ สร้างยอดขายในอัตราส่วนถึง 30% ในกว่า 30 ปีที่ผ่านมา
MAKRO ไม่เพียงออกแบบเครื่องมือทางการตลาดที่เข้าไปตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ แต่ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพคนทำธุรกิจค้าปลีกขนาดเล็กในชุมชนให้เติบโตและปรับตัวทันการเปลี่ยนแปลง
รูปแบบร้านค้าปลีกชุมชนบัดดี้มาร์ท เจ้าของร้านจะใช้งบลงทุน 400,000 บาท แบ่งเป็นค่าเงินค้ำประกัน 200,000 บาท ค่าปรับปรุงร้าน 200,000 บาท (ขึ้นกับขนาดและสภาพของร้านปัจจุบัน)
มี 3 ขนาดทางเลือก คือ
ส่วนทางบัดดี้มาร์ทจะลงทุนให้กับคู่ค้า มูลค่าประมาณ 1.5 ล้านบาท โดยติดตั้งระบบ POS ระบบบริหารจัดการร้าน อุปกรณ์ชั้นวาง ตู้แช่ และสินค้าทั้งหมดภายในร้าน และยังร่วมกับ ธนาคารกรุงเทพ สร้างการเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับผู้ที่ติดปัญหาด้านเงินลงทุนด้วย
ดูรายละเอียดต่างๆในการลงทุนได้ที่เว็บไซต์ของบัดดี้มาร์ท
ธุรกิจโชห่วยมีสัดส่วน 55%ของธุรกิจค้าปลีกไทย
ตลาดค้าปลีกไทยมีมูลค่ากว่า 3 ล้านล้านบาท โดยธุรกิจโชห่วยมีสัดส่วนถึง 55% ของตลาดค้าปลีกไทยและโชห่วยยังถือเป็นกลุ่มผู้ประกอบการ SME ภาคบริการที่มีความสำคัญต่อจีดีพีของประเทศ ซึ่ง MAKRO ครองส่วนแบ่งสำคัญในตลาดค้าปลีกรายย่อยหรือโชห่วยมายาวนาน และมีกิจกรรมพัฒนาลูกค้ากลุ่มนี้มาอย่างต่อเนื่อง
“ในวันนี้หลายคนอาจมองว่า มีผู้เล่นหลายรายเข้ามาในตลาดโชห่วยมากขึ้น ผมมองว่าเป็นเรื่องที่ดีนะที่จะได้มาช่วยกันพัฒนาตลาดค้าปลีกของไทยให้แข็งแรงยิ่งขึ้น สำหรับแม็คโคร เราเชื่อว่าเรามีประสบการณ์กว่า 30 ปี และด้วยกลยุทธ์บวกแผนงานที่ชัดเจน พร้อมทีมงานให้คำปรึกษาจากสาขาของแม็คโครทั้ง 147 แห่งใน 69 จังหวัดทั่วประเทศ บัดดี้มาร์ทจะเป็นทางเลือกให้ร้านโชห่วยที่สนใจได้พัฒนาและเพิ่มยอดขาย และเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่จะช่วยส่งเสริมธุรกิจค้าส่งค้าปลีกของกลุ่มแม็คโครให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น" นายธนิศร์กล่าว