ผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2567 ของ 3 บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) สดใส CPALL กำไรพุ่ง CPF พลิกมีกำไร CPAXT โตต่อเนื่อง รวมรายได้ทะลุ 5 แสนล้านบาท เผยให้เห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่ง สอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
ไตรมาสแรกของปี 2567 ถือเป็นช่วงเวลาแห่งการเติบโตสำหรับ 3 บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ได้แก่ CPALL, CPF และ CPAXT โดยทุกบริษัทต่างรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง สอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและการขยายตัวของธุรกิจค้าปลีกและอาหาร
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด มหาชน หรือ CPALL ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อภายใต้เครื่องหมายการค้า 7-Eleven และให้สิทธิแก่ผู้ค้าปลีกรายอื่นในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย อาทิ ผลิตและจำหน่ายอาหารสำเร็จรูปและเบเกอรี่ ตัวแทนรับชำระเงินค่าสินค้าและบริการ
ได้เผยผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2567 ทำรายได้รวมกว่า 241,307 ล้านบาท เติบโต 8.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 6,319 ล้านบาท เติบโต +53.3% โดยมีปัจจัยหนุนจากยอดขายสินค้าที่เพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งธุรกิจร้านสะดวกซื้อ, ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก, และธุรกิจอื่นๆ สอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศและภาคการท่องเที่ยว รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล กำไรขั้นต้นจากการขายและบริการเติบโต 11.3% แตะ 52,223 ล้านบาท สะท้อนความสำเร็จของกลยุทธ์การนำเสนอสินค้าที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และเพิ่มศักยภาพในการทำกำไร
สำหรับ ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น ในไตรมาสแรกปี 2567 ได้ขยายสาขาใหม่ 185 สาขา รวมเป็น 14,730 สาขาทั่วประเทศ สร้างรายได้กว่า 105,861 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 11.9 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 6,181 ล้านบาท เติบโต 124.1% โดยมียอดขายเฉลี่ยต่อร้านต่อวันสูงถึง 82,619 บาท และมีจำนวนลูกค้าเฉลี่ยต่อสาขาต่อวัน 972 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ
สัดส่วนรายได้จากการขายสินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่มยังคงแข็งแกร่งที่ 75.2% เทียบเท่ากับปี 2566 ขณะที่สินค้าอุปโภคมีสัดส่วน 24.8% บริษัทยังคงมุ่งมั่นสู่การเป็น "จุดหมายปลายทางอันดับ 1 ในใจลูกค้า ด้าน กำไรขั้นต้นของธุรกิจร้านสะดวกซื้อเติบโต 14.9% แตะ 30,378 ล้านบาท ด้วยกลยุทธ์การปรับสัดส่วนสินค้าไปยังกลุ่มที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น นอกจากนี้ รายได้อื่นๆ จากการใช้ประโยชน์ในพื้นที่สาขาก็เพิ่มขึ้น 9.1% เป็น 6,236 ล้านบาท
บริษัทฯ ตั้งเป้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ โดยจะเปิดสาขาใหม่ในไทย 700 สาขา และในกัมพูชาและลาวอีกจำนวนหนึ่งในปี 2567 ผ่านการพัฒนาช่องทางจำหน่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้มากที่สุด โดยใช้งบลงทุนรวมประมาณ 12,000-13,000 ล้านบาท ครอบคลุมการเปิดสาขาใหม่, ปรับปรุงสาขาเดิม, โครงการใหม่, บริษัทย่อย, ศูนย์กระจายสินค้า, และระบบสารสนเทศ
ผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี ของ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารที่จำแนกธุรกิจหลักตามลักษณะของผลิตภัณฑ์ ออกเป็น 3 ประเภท คือ 1) ธุรกิจอาหารสัตว์ 2) ธุรกิจเลี้ยงสัตว์-แปรรูป 3) ธุรกิจอาหาร (Food) และการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปหรืออาหารพร้อมรับประทาน รวมถึงกิจการค้าปลีกอาหารและร้านอาหาร
โดยได้รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2567 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 1,152.03 ล้านบาท หรือ 0.11 บาทต่อหุ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 2,725.26 ล้านบาท
แม้รายได้จากการขายจะลดลงเล็กน้อยเหลือ 140,037 ล้านบาท (-2.60%) เนื่องจากราคาสุกรในประเทศไทยที่ต่ำลง แต่ CPF กลับมีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 15.2% เป็น 16,809 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 12.0% ซึ่งเป็นผลมาจากราคาเนื้อสัตว์ในภูมิภาคอื่นๆ ที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ CPF ยังมีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมและกิจการร่วมค้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 265% เป็น 1,792 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักมาจากผลประกอบการที่ดีของ CPALL และธุรกิจสุกรในประเทศจีน ด้วยปัจจัยบวกต่างๆ ข้างต้น ทำให้ CPF สามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 1,152 ล้านบาทในไตรมาสแรกปี 2567 เพิ่มขึ้น 142% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี ของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)
บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ดำเนินธุรกิจ ค้าปลีกและค้าส่ง สินค้าอุปโภคบริโภค และธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าศูนย์การค้า ได้รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2567 มีกำไรสุทธิ 2,481 ล้านบาท เติบโต +14.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้รวม 127,020 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.7% ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญมาจากการเติบโตของยอดขายทั้งในสาขาเดิมและสาขาใหม่ โดยเฉพาะช่องทาง Omni Channel ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด รวมถึงผลประกอบการที่ดีของทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก โดยเฉพาะธุรกิจแม็คโครในประเทศและต่างประเทศ และธุรกิจฟูดเซอร์วิส นอกจากนี้ การลดลงของต้นทุนทางการเงินก็มีส่วนช่วยให้กำไรสุทธิเติบโตอย่างโดดเด่น
สำหรับธุรกิจค้าปลีก กลยุทธ์การมุ่งเน้นอาหารสดและการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ช่วยผลักดันยอดขายให้เติบโต 6.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยสัดส่วน Omni Channel คิดเป็น 16.3% สูงกว่าเป้าหมายที่ 15% ของรายได้จากการขาย ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้
ผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี ของ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)
การเติบโตของทั้งสามบริษัทนี้ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และความสามารถในการปรับตัวของธุรกิจในเครือเจริญโภคภัณฑ์เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป