สรุปมหากาพย์เจ้าของ 7-Eleven กลัวโดนฮุบกิจการ

เมื่อไม่นานมานี้ หลายคนอาจจะได้เห็นข่าวที่บริษัท Seven & i Holdings เจ้าของแฟรนไชส์ 7-Eleven ได้เจรจาชวนเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี ให้ช่วยร่วมลงทุนในดีลซื้อกิจการออกจากตลาด 

คอนเทนต์แนะนำ

เศร้า! ชาวบ้านโดนช้างป่าเขาใหญ่ตกมันทำร้ายเสียชีวิตแล้ว

ผลจับสลาก "ยูโรปาลีก" รอบเพลย์ออฟ น็อกเอาท์

ด่วน! วินาทีแม่ตั๊กพ้นคุก ตัดผมสั้น ขอบคุณศาลที่เมตตาครอบครัว

แม้ดีลนี้จะยังไม่ชัดเจน แต่ SPOTLIGHT สรุปมหากาพย์เจ้าของ 7-Eleven มาให้ว่าทำไม Seven & i Holdings ที่เป็นบริษัทแม่ ถึงอยากให้เกิดดีลนี้ขึ้น?  

ประเด็นหลักของเรื่องนี้ก็คือ Seven & i Holdings เป็นบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น 

หมายความว่าบริษัทจะเสียความเป็นเจ้าของไปได้หากมีนักลงทุนทยอยซื้อหุ้นจนมีความเป็นเจ้าของส่วนใหญ่

ซึ่งที่ผ่านมา เรื่องนี้กำลังเป็นประเด็นกับบริษัท หลัง Alimentation Couche-Tard เครือค้าปลีกรายใหญ่จากแคนาดา ได้เสนอซื้อกิจการ Seven & i Holdings ในมูลค่า 1.6 ล้านล้านบาท แล้วไม่สำเร็จ

แล้วอะไรที่ทำให้ Seven & i ปฏิเสธดีลนี้ ?

เหตุผลแรกที่เป็นไปได้ ก็คือ Seven & i อาจมองว่าข้อเสนอนี้ถูกเกินไป

โดยราคาที่เสนอถ้าเทียบกับมูลค่ากิจการสุทธิ (Enterprise Value) ของ Seven & i ตอนนี้แล้ว จะมากกว่ากันประมาณ 20%

หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ Alimentation Couche-Tard ยอมจ่ายแพงขึ้น 20% เพื่อซื้อกิจการ แต่การที่ Seven & i ปฏิเสธก็เป็นไปได้ว่าทางบริษัทอาจยังไม่พอใจกับราคานี้

หรือในอีกมุมหนึ่งก็แปลได้ว่า Seven & i อยากให้ดีลนี้มีมูลค่าสูงขึ้นไปอีก โดยเอาข้อเสนอใหม่ที่มีราคาแพงกว่าเดิม มากดข้อเสนอเก่า

ส่วนอีกเหตุผลก็คือ ทาง Seven & i อาจจะยังอยากเป็นเจ้าของกิจการ 7-Eleven อยู่ เลยไม่อยากขาย  

เห็นได้ชัดว่า Seven & i ยังไม่อยากขายกิจการ

แต่มันยังมีอีกวิธีที่จะทำให้ Alimentation Couche-Tard ซื้อกิจการได้ โดยที่ Seven & i ไม่ต้องตกลงยินยอม

นั่นก็คือ การทยอยซื้อหุ้นของ Seven & i ที่มีอยู่ในตลาดไปเรื่อย ๆ จนมีความเป็นเจ้าของเป็นส่วนใหญ่ และกลายเป็นเจ้าของกิจการในท้ายที่สุด

ทาง Seven & i Holdings ที่กลัวว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น ก็เลยมีแผนที่จะซื้อกิจการแล้วเอาบริษัทออกนอกตลาดเพื่อป้องกันการแอบฮุบกิจการของต่างชาติ

ซึ่งวิธีที่ Seven & i เลือกใช้ก็คือ ให้ผู้บริหารรวมตัวกันแล้วเสนอซื้อกิจการกับผู้ถือหุ้น หรือที่เรียกว่า ‘Management Buyout’

แต่ประเด็นก็คือ ถึงผู้บริหาร Seven & i จะรวมตัวกันแล้วก็ยังมีเงินไม่มากพอที่จะทำข้อเสนอนี้ บริษัทก็เลยต้องไปหาพาร์ตเนอร์มาช่วยระดมทุน ซึ่งที่ผ่านมาก็มีบริษัทที่สนใจ อย่างเช่น

- Itochu Corp กลุ่มบริษัทค้าขายยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นที่มีคุณ Warren Buffett นักลงทุนระดับโลกเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2

- Apollo Global Management บริษัทจัดการสินทรัพย์สัญชาติอเมริกัน มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ 25 ล้านล้านบาท

และตัวละครล่าสุดเองก็คือ กลุ่มซีพี เจ้าของแฟรนไชส์ 7-Eleven ในไทยที่ทาง Seven & i อยากให้ช่วยระดมทุนแล้วมาเป็นเจ้าของกิจการร่วมกัน

โดยมูลค่าระดมทุนจากซีพีนั้นอาจสูงถึงหมื่นล้านไปจนถึงแสนล้านบาท

สรุปแล้วเรื่องทั้งหมดก็คือ Seven & i บริษัทแม่เจ้าของแฟรนไชส์ 7-Eleven ถูกเสนอซื้อกิจการจากบริษัทต่างชาติ

แต่บริษัทไม่อยากขาย และกลัวว่าจะถูกฮุบกิจการทางอ้อม จากการซื้อหุ้นในตลาด บริษัทก็เลยรวมตัวผู้บริหารมาร่วมกันซื้อหุ้นเพื่อเอาบริษัทออกนอกตลาด

แต่เงินที่ผู้บริหารมียังไม่พอ ก็เลยต้องหาพาร์ตเนอร์มาร่วมทุนเพื่อจะทำให้ดีลนี้เกิดขึ้น ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า สุดท้ายแล้วมหากาพย์สงครามแย่งธุรกิจ 7-Eleven นี้จะจบลงอย่างไร..

ที่มา: bangkokpost.com, investopedia.com, ir.apollo.com, yahoo.finance.com