Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
กำแพงภาษีพ่นพิษ! หุ้นเทคสหรัฐฯ มูลค่าหาย 1.8 ล้านล้านดอลลาร์
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

กำแพงภาษีพ่นพิษ! หุ้นเทคสหรัฐฯ มูลค่าหาย 1.8 ล้านล้านดอลลาร์

5 เม.ย. 68
13:27 น.
แชร์

ตลาดหุ้นเทคโนโลยีเผชิญแรงเทขายหนัก ภายหลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าแบบฐานขั้นต่ำในอัตราเริ่มต้น 10% จากทุกประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งสาเหตุของการเทขายครั้งนี้มาจากความกังวลของนักลงทุนว่าเศรษฐกิจอาจถดถอย

หากมองไปที่ ‘The Magnificent Seven’ หรือหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ 7 ตัวในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ประกอบด้วย Alphabet, Amazon, Apple, Meta, Microsoft, Nvidia และ Tesla คิดเป็นสูญเสียมูลค่ารวมกันมากกว่า 1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 2 วันนับจากการประกาศใช้นโยบายดังกล่าว ส่งผลให้ดัชนี Nasdaq ต้องเผชิญกับสัปดาห์ที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

Apple นับว่าเป็นผู้สูญเสียมูลค่าตลาดมากที่สุดของกลุ่ม โดยมีมูลค่าตลาดลดลงมากกว่า 533,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากมีฐานการผลิตในต่างประเทศ ทั้งนี้ มีการรายงานว่ามูลค่าตลาดที่หายไปดังกล่าว นับเป็นการปรับลดลงที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 5 ปีของบริษัท

สำหรับหุ้นเทคโนโลยีอื่น ๆ ก็เผชิญสภาวะที่ย่ำแย่ไปตาม ๆ กัน ไล่เรียงจาก Nvidia ที่มูลค่าตลาดหายไปกว่า 393,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามมาด้วย Meta ที่มูลค่าตลาดหายไปราว 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ Tesla ก็ได้รับผลกระทบหนักที่สุดในแง่การขาดทุนเป็นเปอร์เซ็นต์ โดยมีมูลค่าตลาดหายไปมากที่สุดในกลุ่มคือ 10% หรือคิดเป็น 139,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 2 วัน

ทางด้าน Amazon แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ มีมูลค่าตลาดหายไปราว 265,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งนับเป็นรายงานการขาดทุนสัปดาห์ที่ 9 ติดต่อกันแล้ว และถือได้ว่าช่วงเวลานี้เป็นห้วงเวลาที่หุ้นของบริษัทย่ำแย่ที่สุด นับตั้งแต่ปี 2008 ที่เกิดวิกฤติสินเชื่อซับไพรม์ หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ “วิกฤตการเงินแฮมเบอร์เกอร์” ส่วน Alphabet และ Microsoft นับว่าเป็นสองบริษัทที่ประสบกับการขาดทุนเป็นเปอร์เซ็นต์น้อยที่สุดในสัปดาห์นี้ แต่ยังคงสูญเสียมูลค่าตลาดมหาศาลที่ระดับ 139,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ 165,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ตามลำดับ)

นอกเหนือจาก The Magnificent Seven แล้ว หุ้นเทคโนโลยีรายย่อยอื่น ๆ ก็ได้รับผลกระทบจากการประกาศใช้นโยบายดังกล่าวเช่นกัน อาทิ Oracle บริษัทด้านซอฟแวร์ฐานข้อมูล มีการปรับตัวลดลง 9% ขณะที่ AppLovin บริษัทแพลตฟอร์มโฆษณาบนมือถือ, Palantir Technologies ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มวิเคราะห์ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ รวมถึง Salesforce แพลตฟอร์ม CRM ระดับโลก ก็มีการปรับตัวลดลง 19%, 13% และ 11% (ตามลำดับ)

หุ้นอีกกลุ่มหนึ่งที่น่าสนใจคือ ‘เซมิคอนดักเตอร์’ หัวใจสำคัญของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีขึ้นสูง ซึ่งปัจจุบันยังต้องพึ่งพาฐานการผลิตนอกสหรัฐฯ ก็มีการปรับตัวลดลงเช่นกัน แม้ว่าสินค้ากลุ่มนี้จะยังไม่ได้รวมอยู่ในนโยบายการขึ้นภาษีนำเข้ารอบล่าสุดก็ตาม เนื่องจากความกังวลของนักลงทุนที่มองว่าการขึ้นภาษีนำเข้าดังกล่าวจะกดดันอุปสงค์สินค้าเทคโนโลยี

อ้างอิง: CNBC

แชร์
กำแพงภาษีพ่นพิษ! หุ้นเทคสหรัฐฯ มูลค่าหาย 1.8 ล้านล้านดอลลาร์