พามาส่องความเคลื่อนไหวธุรกิจบริการขนส่ง แฟลชกรุ๊ป ยูนิคอร์นรายแรกของไทย โดยนายคมสัน ลี ประธานกรรมการบริหารกลุ่มธุรกิจแฟลช (Flash Group) เปิดเผยว่า แฟลชกรุ๊ป ได้ปิดดีลระดมทุนครั้งใหญ่ได้ 1.5 หมื่นล้านบาท ในรอบซีรีย์ F ปลายปี 2565 ที่ผ่านมา
คาดเปิดเผยผู้รวมทุนในมี.ค.66 นี้
โดยได้รับการสนับสนุนหลักจากผู้ถือหุ้นเดิม คาดว่าจะสามารถเปิดเผยรายละเอียดของผู้ร่วมทุนรอบใหม่นี้ราวเดือน มี.ค 2566 พร้อมนำเม็ดเงินดังกล่าวไปลงทุนขยายอาณาจักรทั้งในประเทศ และต่างประเทศเพื่อพลิกฟื้นธุรกิจช่วง 2-3 ปีจากนี้ไป
ชะลอแผนเข้า SET อย่างน้อย 3 ปี
Fash ตัดสินใจระดมทุนครั้งนี้ เนื่องจากบริษัทได้ชะลอแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยออกไปอย่างน้อย 3 ปี จากเดิมที่คาดจะระดมทุนในปีนี้ เพราะบริษัทประสบปัญหาหลายอย่าง เพื่อรอให้ผลประกอบการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยปี 2565 ขาดทุน จากมีกำไร 2564 แม้ว่ารายได้จะทรงตัวอยู่ที่ 1.76 หมื่นล้านบาท ปัจจัยที่กระทบธุรกิจ คือ ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น รวมตลาดอีคอมเมิร์ซชะลอตัวหลังจากที่เติบโตร้อนแรงในช่วงโควิด-19 ระบาดหนักในปี 2564
อีกทั้ง ต้นทุนการบริหารจัดการเพิ่มขึ้นมาก ทำให้บริษัทต้องหันมาปรับลดต้นทุนลงอย่างมาก โดยปีที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับเปลี่ยนผู้บริหารไปกว่า 20%
ปัจจุบันแฟลชยังมีปริมาณการขนส่งในไทยเป็นอันดับ 1 ที่ 2.4 แสนชิ้น/วัน หรือ 700 ล้านชิ้น/ปี พร้อมกันนี้ Flash ยังมองหาโอกาสการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศด้วยอย่างตลาดหุ้นแนสแดก ซึ่งในปี 2567 จะเริ่มต้นได้
ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่ากิจการ 1 แสนลบ.
บริษัทมีเป้าหมายจะเพิ่มมูลค่ากิจการที่ 1 แสนล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 7 หมื่นล้านบาท โดยแผนธุรกิจปีนี้บริษัทมีเป้าหมายการขยายธุรกิจในต่างประเทศเพิ่มอีกอย่างน้อย 1 ประเทศ จากเป้าหมายที่วางไว้ คือ เวียดนาม สิงคโปร์ ปัจจุบันบริษัทมี 10 ธุรกิจในเครือได้ขยายไป สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซียแล้ว
F Commerce ดาวเด่นในปีนี้
พร้อมกันนี้จะเดินหน้า F Commerce ซึ่งเป็นธุรกิจดาวเด่นในปีนี้ เป็นโมเดลธุรกิจใหม่ที่แฟลช กรุ๊ป ได้เริ่มจากต่างประเทศและประสบความสำเร็จ และได้นำเข้ามาในไทยตั้งแต่ปี 2565 ซึ่งบริษัทจะทำหน้าที่ตัวกลางระหว่างเจ้าของแบรนด์สินค้าในออนไลน์ แพลตฟอร์ม และอินฟลูเอนเซอร์ ดารา นักแสดง ที่รับไลฟ์ขายสินค้า ยิงโฆษณา เจรจาตกลงแบ่งผลประโยชน์กัน ให้เช่าสถานที่
จับมือ TIKTOK ผลักดันโมเดลธุรกิจใหม่
พร้อมกันนี้บริษัทได้เป็นพันธมิตรที่ได้รับทุกใบอนุญาตจาก Tiktok 1 ใน 3 รายในโลก ซึ่งการจับมือกับ Tiltok จะเป็นการผลักดันธุรกิจโมเดลใหม่เป็นตัวกลางระหว่างเจ้าของแบรนด์และอินฟลูเอนเซอร์รับเทรนด์ไลฟ์สดขายสินค้าออนไลน์
ปี 2566 ใช้งบลงทุนปรับปรุงคลังสินค้า
สำหรับการขยายธุรกิจทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เงินลงทุนหลัก ๆ ในปี 2566 จะใช้ปรับปรุงคลังสินค้า 40 แห่ง ใช้เครื่องจักรเข้ามาช่วยมากขึ้น ด้านธุรกิจยานยนต์ก็ต้องลงทุนเพิ่มขึ้นเพื่อขยายบริการในพื้นที่ห่างไกล อีกส่วนหนึ่งเป็นธุรกิจในต่างประเทศ บริษัทตั้งเป้าที่จะทำให้รายได้จากตลาดต่างประเทศรวมกันมากกว่าธุรกิจไทย 2-3 เท่าตัว